โตโยต้า ไทยลีก กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง ความพร้อมทั้ง 9 คู่แห่งศึกมันเดย์ ไนท์ เป็นอย่างไร เช็คได้ที่นี่

(8) การท่าเรือ - อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด (4)

เวลา 17.45 น. ที่แพท สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง True Sport 2

การท่าเรือ ก่อนพักเบรคยังแสดงความแกร่งในรังเมื่อเปิดบ้านเสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ 0-0 ทำให้ยังไม่แพ้ใครในบ้านฤดูกาลนี้ อีกทั้งยังไร้ปัญหาในการจัดทัพ คาดว่า ธนา ชะนะบุตร จะกลับมาเป็นตัวจริง พร้อมแกนหลักอย่าง ดาบิด โรเชล่า , เซร์คิโอ ซัวเรส และ ปกรณ์ เปรมภักดิ์

เทพอินทรีก่อนพักเบรคคืนฟอร์มเก่งเมื่อเปิดบ้านทุบ ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง เอฟซี มา 3-1 อีกทั้งยังไร้ปัญหาจัดทัพเช่นกัน คาดว่าแกนหลักอย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ , เนบิญ่า บายรัม , จอนาตา แวร์ซูร่า และ สิโรจน์ ฉัตรทอง จะถูกส่งลงสนามครบครัน

(13) ราชนาวี - บางกอกกล๊าส เอฟซี (5)

เวลา 18.00 น. ที่สนามกีฬาสัตหีบ กม.5 ถ่ายทอดสดทาง True Sport 6

ตะหานน้ำก่อนพักเบรคบุกพ่าย เชียงราย ยูไนเต็ด มา 3-2 ทั้งที่ขึ้นนำก่อนถึง 2-0 แต่ยังดีที่ไร้ปัญหาจัดทัพในเกมนี้ คาดว่าจะยึดแกนหลักชุดเดิมลงสนามทั้งหมดนำโดย ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ , ชุษณะ นัมคณิสร ,การ์ฟ่า ดูโรซินมี่ และ โรดริโก้ เวอร์จิลิโอ้

กระต่ายแก้วก่อนพักเบรคเปิดบ้านชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด มา 3-2 ทำให้ไม่แพ้ใคร 5 นัดติดต่อกัน อีกทั้งเกมนี้บรรดาแกนหลักชุดเดิมยังอยู่กันครบนำโดย พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ , แมตต์ สมิธ , จัสมานี่ คัมโปส และ อาเรียล อาราย่า นอกจากนี้ยังมี จักรพันธ์ พรใส หายเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือก

(14) ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง - เชียงราย ยูไนเต็ด (2)

เวลา 18.00 น. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ถ่ายทอดสดทาง True Sport HD3 / True Music (True Visions 357)

ไทยฮอนด้า ล่าสุดบุกพ่าย อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด มา 3-1 โดยเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ถวิล บุตรสมบัต ที่อยู่ระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บเพียงรายเดียว ส่วนแกนหลักที่เหลืออยู่กันครบทั้ง ริคาร์โด เฮซุส , สิทธิโชค กันหนู และ เดชา สอาดโฉม

กว่างโซ้งมหาภัยก่อนพักเบรคทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเปิดบ้านแซงชนะ ราชนาวี มา 3-2 ทำให้เป็น 1 ใน 3 ทีมร่วมกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่แพ้ใคร อีกทั้งยังไร้ปัญหาในการจัดทัพ คาดว่าแกนหลักอย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , วานเดอร์ และ ราฟาเอล โคเอลโญ่ จะถูกส่งลงสนามครบครัน

(10) แบงค็อก ยูไนเต็ด - สุโขทัย เอฟซี (17)

เวลา 19.00 น. ที่สนามทรู สเตเดี้ยม (สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต) ถ่ายทอดสดทาง True Sport HD2

พลพรรคแข้งเทพก่อนพักเบรคทำผลงานได้ไม่ดีนักเมื่อบุกพ่าย บางกอกกล๊าส เอฟซี มา 3-2 ทำให้ไม่ชนะใคร 3 นัดติดต่อกัน โดยเป็นการปราชัยถึง 2 นัด แต่เกมนี้มีข่าวดีเมื่อได้ แอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์ หายเจ็บกลับมา มีลุ้นลงสนามร่วมกับแกนหลักอย่าง พุทธินันท์ วรรรศรี , มาริโอ ยูรอฟสกี้ และ ดราแกน บอสโควิช

ค้างคาวไฟก่อนพักเบรคเปิดบ้านพ่าย สุพรรณบุรี เอฟซี มา 3-2 ทำให้ปราชัย 3 นัดติดต่อกัน โดยเกมนี้จะได้ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ประเดิมคุมทัพนัดแรก ส่วนแกนหลักที่เหลือก็พร้อมเต็มสูบทั้ง ดิยุฟ บีรัม , จอห์น บาจโจ้ ,ยุทธพงษ์ ศรีละคร และ อัดเมียร์ อโดรวิช

(12) พัทยา ยูไนเต็ด - ศรีสะเกษ เอฟซี (16)

เวลา 19.00 น. ที่สนามกีฬาเทศบาลหนองปรือ ถ่ายทอดสดทาง True Sport 7

โลมาสีน้ำเงินก่อนพักเบรคกลับมาเก็บชัยชนะรอบ 4 เกมหลังบุกทุบ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ มา 1-3 แม้เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน สุประวีณ์ มีประทัง ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ได้ ลี วอน ยัง พ้นโทษแบนกลับมา พร้อมลงสนามร่วมกับแกนหลักอย่าง เวลลิงตัน ปรีโอรี่ ,พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ มิลอส สโตจาโนวิค

กูปรีอันตรายก่อนพักเบรคเปิดบ้านพ่าย ชลบุรี เอฟซี มา 1-2 ทำให้ล่าสุดแต่งตั้ง เวลิซาร์ โปปอฟ เข้ามาคุมทัพนัดแรก โดยเกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน เลอรอย ลิต้า ที่ติดโทษแบน ส่วนแกนหลักที่เหลืออยู่กันครบทั้ง เอกพันธ์ จันดากรณ์ , สมยศ พงษ์สุวรรณ , ไอซาก้า เซอร์นาก และ ยุทธนา เรืองสุขสุด

(9) ชลบุรี เอฟซี - ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (7)

เวลา 19.00 น. ที่ชลบุรี สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง True Spark Jump (True Visions 445)

ฉลามชลก่อนพักเบรคเริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีเมื่อบุกเชือด ศรีสะเกษ เอฟซี มา 1-2 ซิวชัยเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน ทว่าเกมนี้ยังไม่พร้อมใช้งาน สุทธินันท์ พุกหอม รวมถึง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ก็ติดโทษแบน แต่ยังได้ เรียวทาโร นากาโนะ ฟิตกลับมาเป็นตัวเลือก ส่วนแกนหลักรายอื่นอยู่กับนำโดย ชลทิตย์ จันทคาม , นูรูล ศรียานเก็ม และ เรนัน มาร์เกวซ

ราชันมังกรก่อนพักเบรคเริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีเปิดบ้านชนะ บีอีซี เทโรศาสน มา 1-0 เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน ทว่าล่าสุดกลับหมดสิทธิ์ใช้งาน คาร์ลอส ซานโต้ส ที่บาดเจ็บยาว แต่ก็ได้ มาเชล โจซัวร์ เอสซอมเบ หายเจ็บกลับมาพร้อมลงสนามร่วมกับแกนหลักที่เหลือทั้ง รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก , ชุติพนธ์ ทองแท้ และ อัลฮารบิ เอล จาเดยาอุย

(15) นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี - ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ (18)

เวลา 20.00 น. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถ่ายทอดสดทาง True Sport HD3

สวาทแคทก่อนพักเบรคบุกพ่าย เมืองทอง ยูไนเต็ด มา 2-0 ทำให้ไม่ชนะใคร 5 นัดติดต่อกัน อีกทั้งเกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ที่ติดโทษแบน รวมถึงต้องเช็คความฟิต ประลอง สาวันดี อีกราย แต่แกนหลักรายอื่นอยู่กันครบนำโดย โดมินิค อดิเยียห์ , ชาคริต ระวันประโคน และ เคิร์สเต้ เวลโคสกี้

ซุปเปอร์ พาวเวอร์ ก่อนพักเบรคเปิดบ้านพ่าย พัทยา ยูไนเต็ด มา 1-3 ทำให้เป็นทีมเดียวที่ยังไม่ชนะใครจาก 6 นัดแรก โดยเกมนี้ได้ เจสัน วิธ ประเดิมคุมทัพ ขณะที่ความหวังสูงสุดคงฝากไว้ที่ แอนโทนี่ โคเมนัม และ แซดนีย์ อุริโคป

(6) บีอีซี เทโรศาสน - สุพรรณบุรี เอฟซี (11)

เวลา 20.00 น. ที่สนามบุณยะจินดา ถ่ายทอดสดทาง True Sport 2

มังกรไฟก่อนพักเบรคบุกพ่าย ราชบุรี มิตรผล เอฟซี มา 1-0 โดยเกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน มาริโอ อบรานเต้ และ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่แกนหลักรายอื่นอยู่กันครบทั้ง ดัสกร ทองเหลา , คิม ดอง ชาน และ ไมเคิล เอ็นดรี้

ช้างศึกยุทธหัตถีก่อนพักเบรคกลับมาคว้าชัยรอบ 5 เกมได้สำเร็จหลังบุกชนะ สุโขทัย เอฟซี มา 2-3 อีกทั้งยังไร้ปัญหาจัดทัพ คาดว่าแกนหลักอย่าง ชาริล ชัปปุยส์ , อดุล หละโสะ , ชนานันท์ ป้อมบุบผา และ กิลแยร์เม เดลลาตอร์เร จะถูกส่งลงสนามพร้อมหน้า

TOYOTA THAI LEAGUE PREVIEW : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - เมืองทอง ยูไนเต็ด