ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » เนื้อๆเน้นๆ!ตอบจากใจทุกคำถามร้อนๆบอลไทยโดย"ซิโก้"

เนื้อๆเน้นๆ!ตอบจากใจทุกคำถามร้อนๆบอลไทยโดย"ซิโก้"

Posted 05/04/2017 by siamsport

 

         หลัง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ประกาศวางมือจากการกุมบังเหียนทีมชาติไทยชุดใหญ่ ตั้งแต่เวลา 18.30 น. ของวันที่ 31 มี.ค.60 ล่าสุดเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ "เจาะประเด็น สเปเชี่ยล" ทางสถานีโทรทัศน์ กองทัพบก ช่อง 7 ในช่วง 17.30 น. ของวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมี "แจ๊คกี้" อดิสรณ์ พึ่งยา รับหน้าที่เป็นพิธีกร

          สำหรับการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ตอบทุกประเด็น เกี่ยวกับการเปิดหมวกอำลาทีมชาติไทย หลังจากทำงานมาเกือบจะครบ 5 ปีเต็ม โดยประเด็นการให้สัมภาษณ์แบบเจาะลึกของรายการดังกล่าว มีดังนี้...
 

          พิธีกร : เชื่อเหลือเกินว่าผู้ชมทางบ้านต้องการทราบสาเหตุที่ "โค้ชซิโก้" ลาออก เพราะอะไรครับ?


          ซิโก้ :  (ยิ้ม) "คำถามแรกเลย พี่หนุ่ม (อดิสรณ์ พึ่งยา) อยู่ช่อง 7 มา 20 ปี ถ้าไม่มีความผูกพัน พี่จะใช้เวลานานในการออกไหม ผมเองไม่มีความคิดที่อยากจะลาออก แต่คิดว่าการลาออกครั้งนี้น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง"


          พิธีกร : มันมีเรื่องของ ความกดดันอะไรหรือไม่ พอนึกคิดช่วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา "โค้ชซิโก้" เข้ามาทำงาน เป็นช่วงเวลาที่ผลงานของทีมชาติไทย กำลังอยู่ในช่วงจองความเสื่อมศรัทธา คนไม่เข้าสนาม ก่อนที่คุณจะเข้ามารับหน้าที่นี้?


          ซิโก้ : "เรามีเป้าหมายในแต่ละช่วงในการทำ งานอยู่แล้ว แต่ผมดูแล้วว่าระบบภายในไม่ได้ เพราะไม่มีการสานต่อหรือรับลูกซึ่งกันและกัน จริงๆแล้วหลายคนคงจะทราบข่าวอยู่แล้วว่า การทำงานไม่ได้สมูท จึงเป็นสาเหตุที่ขอลาออกดีกว่า เพื่อให้คนอื่นได้เข้ามาทำงานได้ง่าย เนื่องจากจะได้ไม่คิดว่าเราเป็นตัวปัญหา"


          พิธีกร : จริงๆย้อนหลังไป 4-5 ปีนั้น ศรัทธาของฟุตบอลไทยที่แฟนบอลไม่เข้าสนาม ทีมชาติไทย ใช้โค้ชฝรั่งก็แล้ว โค้ชไทยหลายคนก็ทำไม่สบความสำเร็จ อะไรคือสาเหตุที่ตัดสินใจรับงาน เพราะโดยส่วนตัว "โค้ชซิโก้" เองแล้ว ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในรับดับสโมสร?


          ซิโก้ : "จริงๆแล้วสมัยเป็นผู้เล่น เราได้แชมป์ซีเกมส์มา 8 สมัย 16 ปี ในช่วงเรา 4 สมัย ของน้องๆอีก 4 สมัย ช่วงนั้นเรามีความสุข พอเห็นบรรยากาศที่ทีมชาติไทย ตกรอบแรกซีเกมส์ที่ลาวกับที่อินโดนีเซีย มันมีสิ่งที่ติดในใจ เพราะเวลาเราเดินไปหาเพื่อนๆที่อยู่ในอาเซียน ซึ่งรู้จักกันนั้น เขารู้สึกว่าบอลไทยแย่ ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนที่ผ่านๆมาเลย"

          "ผมเลยรู้สึกว่ามันเป็นการเยาะเย้ยถากถาง จึงมีความรู้สึกว่าถ้าได้รับโอกาสอยากจะเข้ามาทำ และเป็นช่วงยุคมืดของวงการฟุตบอลไทย คือ ฟุตบอลไทยมีการเล่นไปแต่มีคำว่า "บอลไทยไปมวยโลก" ก็เลยอยากจะล้างคำนี้ทิ้งซะ ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆที่เป็นตลกเองเวลาขึ้นโชว์ก็มักจะเอาวลีนี้ไปใช้ แม้ว่าเราไม่ใช่ทีมชาติ แต่เราคืออดีต มีความรู้สึกเจ็บช้ำว่าทำไมใช้วลีนี้"


          แล้วก็ทำไมนักเตะถึงไม่อยากรับใช้ชาติ เพราะว่าเวลาเล่นให้กับสโมสรนั้นได้เงินเยอะแล้ว สบายแล้ว ทำไมถึงไม่มีความภูมิใจในการรับใช้ชาติ ที่สำคัญทำไมทุกคนถึงไม่อยากมา เพราะว่ากลัวโดนด่า ทั้งๆที่เสียสละแล้วพวกเขาก็โดนด่า จึงมีความคิดอยากเข้ามา ก่อนที่จะถูกผู้ใหญ่ทาบทามเข้ามา"


          พิธีกร : ก็คืออยากจะเข้า มาล้างภาพที่ไม่ดีออกไปจากการรับใช้ทีมชาติ และกระแสแฟนบอลที่หายไปจากสนามฟุตบอล รูปแบบการเล่นต่างๆ แต่มีคนตั้งคำถามว่า "โค้ชซิโก้" เข้ามารับงานในการคุมทีมชาติไทย ในยุคสมาคมฯเก่า ผู้บริหารเดิม คุณวรวีร์ มะกูดี มาถึงยุคใหญ่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ช่วงเวลานี้มีนัยยะเกี่ยวข้องอะไรหรือไม่ เพราะคนมองว่าพอมีการเปลี่ยนสมาคมฯแล้ว จึงเกิดความเปลี่ยนแปลงในการทำงานของโค้ช?


          ซิโก้ : "ผมไม่รู้ว่าคนอื่นมองหรือเปล่า จากแฟนบอลที่ชื่นชอบและรักในตัวผม อาจจะซับพอร์ต แต่ผมบอกไว้เลยว่าผมเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่ยุค ป๋าลอ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตนายกสมาคมฯ ผมอยู่ในยุคของ อ.วิจิตร เกตุแก้ว ที่เป็นนายกสมาคมฯ ต่อเนื่องมา คุณวรวีร์ มะกูดี และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งทุกครั้งที่ผมทำหน้าที่นั้นชาติจะมาเป็นหลัก คนอื่นไม่รู้ แต่ผมรับหน้าที่เพราะว่าประเทศชาติ"


          พิธีกร : ทีนี้มีคนตั้งคำถามว่า การทำงานในยุค คุณวรวีร์ มะกูดี กับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มีความยากง่ายแตกต่างกันอย่างไร?


          ซิโก้ : "ก็มีความแตกต่างกันบ้างนะครับ ยุคของคุณวรวีร์ มะกูดี ให้เบ็ดเสร็จเลย ให้ซิโก้ไปทำผลงานให้เต็มที่เลย จะไม่เข้ามาก้าวก่ายหรือเกี่ยวข้อง เพียงแต่ให้ทำงานอบย่างเต็มที่กับ 3 ชุด ซีเกมส์, โอลิมปิก, บอลโลก อยากได้ใคร นักเตะคนไหนจัดการได้เลย ถือว่ามีความสบายใจ"


          "แต่ในยุคของท่านนายก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ท่านเองก็ดูแลผมดีมาตลอด และท่านก็ให้ผมทำงานมา 1 ปีเต็ม ท่านเป็นคนสนับสนุน เพียงแต่ว่ารอบข้างยังไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้เรารู้สึกว่าระบบมันไปต่อไปไม่ได้แล้ว"


          "ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลามีข่าวกระแสอะไร ท่านนายกต้องทำงานคนเดียว รับงานคนเดียว ตอบคำถามคนเดียว ทั้งๆที่ท่านนายกตั้งโฆษกอย่าง คุณพาทิศ (ศุภะพงษ์) ขึ้นมาแล้ว หรือคนอื่นๆด้วย รวมทั้งเรามีประธานเทคนิคมาแล้วปีกว่าๆ ยังไม่ทำงานเลย เพราะวันนี้มีการตั้ง เอคโคโน่ ขึ้นมา วันนี้ผมสงสารพี่เฮง (วิทยา เลาหกุล) ที่ไม่มีงาน จนต้องไปดูแลเด็กโรงเรียนท่าข้ามบ้าง ชลบุรีบ้าง วันนี้ผมก็เลยเห็นว่าระบบไปต่อไม่ได้"

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »