ปรีวิวฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก

วันพุธที่ 12 เมษายน 2560

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) - โมนาโก (ฝรั่งเศส)

(เวลา 23.45 น.)

สนาม : บีวีบี สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ (ดอร์ทมุนด์, เยอรมัน)

          โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อันดับ 4 บุนเดสลีกา เยอรมัน จะเปิด บีวีบี สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ ในดอร์ทมุนด์ รับการมาเยือนของ อาแอส โมนาโก จ่าฝูงลีก เอิง ฝรั่งเศส ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก

          ทั้งสองทีมมาแข่งขันวันพุธที่ 12 เมษายน เวลา 18.45 น. (23.45 น. ตามเวลาประเทศไทย) โดยเลื่อนมาจากเกมเมื่อคืนวันอังคารที่ 11 เมษายน ไม่สามารถแข่งขันได้ จากสาเหตุมีระเบิดเกิดขึ้นแถวรถโค้ชของดอร์ทมุนด์ หน้าโรงแรมที่พักของพวกเขา ที่ห่างจากสนามประมาณ 10 กิโลเมตร โดย มาร์ก บาร์ตร้า เซนเตอร์แบ็กบาดเจ็บเล็กน้อยที่มือ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อทำแผล

          สำหรับ โมนาโก เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี

          โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์วัย 43 ปี นำทีมแพ้นัดแรกในรอบ 5 เกมหลังสุด เมื่อพ่ายนัดเยือน บาเยิร์น มิวนิค 1-4 ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า, มิวนิค ศึกบิ๊กแมตช์บุนเดสลีกา นัดที่ 28 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 เมษายน
 
          เวลานี้ทีมขาดผู้เล่นหลายคนไม่ว่าจะเป็น อันเดร เชือร์เล่ สตาร์วัย 26 ปี บาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย, มาริโอ เกิทเซ่ มิดฟิลด์มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร, มาร์โค รอยส์ มิดฟิลด์บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา, เอริค ดวร์ม กองหลังบาดเจ็บกล้ามเนื้อ

           ในรายของ ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล กองกลางหายเจ็บกล้ามเนื้อ, ชินจิ คางาวะ มิดฟิลด์ญี่ปุ่นหายเจ็บกล้ามเนื้อ, เซบาสเตียน โรเด้ มิดฟิลด์หายเจ็บโคนขาหนีบ กลับมาลงสนามได้

          เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสวัย 42 ปี ของโมนาโก นำทีมชนะ 2 นัดซ้อน หลังจากบุกเชือดอองเช่ร์ 1-0 ที่สต๊าด เรย์มงด์ โกปา ในลีก เอิง นัดที่ 32 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 เมษายน ราดาเมล ฟัลเกา กัปตันทีมยิงประตูชัยนาที 61 นับเป็นประตูที่ 17 ของเขาในลีก ซีซั่นนี้

          และเป็นชัยชนะนัดที่ 36 ในทุกรายการของโมนาโก ในฤดูกาลนี้

          อีกทั้งทีมยิงไปแล้ว 133 ประตู จากการลงสนาม 51 นัด  ทุกรายการในซีซั่นนี้ และ ไม่แพ้ในลีก เอิง 13 นัดซ้อน (ชนะ 11 เสมอ 2)

          โมนาโก ยักษ์ใหญ่แดนใต้ เก็บไปแล้ว 74 คะแนน จากการลงสนามบอลลีก 31 นัด ได้โควตาไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว พวกเขามีแต้มมากกว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์ลีก เอิงซีซั่นที่แล้ว 3 คะแนน
 
          ทางด้านตัวผู้เล่นทีมขาด ตีเยมูเอ้ บากาโยโก้ กองกลางตัวรับทีมชาติฝรั่งเศสวัย 22 ปี ติดโทษแบน 1 นัด จากการสะสมใบเหลืองครบตามโควตา และจะเป็น ชูเอา มูตินโญ่ กองกลางโปรตุเกสลงเล่นแทน

          อีกทั้ง เบนฌาแม็ง เมนดี้ แบ็กซ้ายตัวหลักบาดเจ็บสะโพก ทำให้  อันเดรีย ร้าจจี้ กองหลังอิตาลี จะลงเล่น

          ขณะที่  ฌิบริล ซิดิเบ้ แบ็กขวาทีมชาติฝรั่งเศสวัย 24 ปี ไส้ติ่งอักเสบ  ถูกหามส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา โดยจะพักรักษาตัวหลายวัน โดย อัลมามี่ ตูเร่ กองหลังวัย 20 ปี จะเล่นแบ็กขวาแทน

          และ กีโด้ คาร์รีโญ่ กองหน้าอาร์เจนตินา บาดเจ็บโคนขาหนีบ, กาเบรียล บอสชิเลีย ปีกซ้ายบราซิลวัย 20 ปี บาดเจ็บหนักที่เอ็นหัวเข่าขวา พักแข้งนาน 6 เดือน, ปิแอร์ เอ็นแก็งด้า ปราการหลังวัย 20 ปี บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา

          ทว่าทีมได้ คามิล กลิค เซนเตอร์แบ็กโปแลนด์ พ้นโทษแบน 1 นัดในแชมเปี้ยนส์ ลีก กลับมา มีชื่ออยู่ในกลุ่มผู้เล่น 20 คนที่เดินทางไปดอร์ทมุนด์

          นัดนี้ทีมจะได้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสวัย 18 ปี ที่ได้พักในลีก เกมล่าสุดกลับมาลงตัวจริง เช่นเดียวกับ โตมาส์ เลอมาร์ ปีกซ้ายตราไก่วัย 21 ปี ที่เป็นตัวสำรองนัดชนะอองเช่ร์ ก็จะกลับมาลงเล่นตั้งแต่วินาทีแรก

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

          ดอร์ทมุนด์ : โรมัน เบือร์กี้ - ลูคัสซ์ พิซเซ็ค, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, มัทธีอัส กึนเทอร์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ (กัปตันทีม) - ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล - อุสมาน เดมเบเล่, ชินจิ คางาวะ, ราฟาแอล แกร์เรยโร่, คริสเตียน พูลิซิช -  ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

          โมนาโก : ดานิเยล ซูบาซิช - อัลมามี่ ตูเร่, คามิล กลิค, เชแมร์ซอน, อันเดรีย ร้าจจี้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟาบินโญ่, ชูเอา มูตินโญ่, โตมาส์ เลอมาร์ - ราดาเมล ฟัลเกา (กัปตันทีม), คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)

ข้อมูลน่าสนใจก่อนเกม

 - นี่เป็นการเจอกันในเกมอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างดอร์ทมุนด์กับโมนาโก

 - มีทีมจากฝรั่งเศสเพียงทีมเดียวที่บุกชนะดอร์ทมุนด์ถึงถิ่นในถ้วยยุโรป (เสมอ 3 แพ้ 5) นั่นคือ โอลิมปิก มาร์กเซย เมื่อธันวาคม 2011 (3-2)

 - ขณะเดียวกัน นี่เป็นเกมอย่างเป็นทางการนัดที่ 3 ของโมนาโกในการเจอคู่แข่งจากเยอรมันในฤดูกาลนี้ ต่อจากการเจอไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเสมอ 1-1 ที่บ้าน ก่อนแพ้ 0-3 ในเกมเยือน

 - ดอร์ทมุนด์ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายชปล. เป็นครั้งที่ 3 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุด

 - ดอร์ทมุนด์แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 8 เกมชปล. ฤดูกาลนี้ (ชนะ 5 เสมอ 2) จากการเยือนเบนฟิก้า นัดแรก รอบ 16 ทีม

 - อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์แพ้ 7 จาก 10 เกมหลังสุดในรอบน็อกเอาต์ ชปล. (ชนะ 3)

 - ดอร์ทมุนด์ได้ประตูในนาทีที่ 76 เป็นต้นไป มากกว่าทีมอื่นๆ ในชปล. ฤดูกาลนี้ (7) โดยยิงได้ 12 ประตูจาก 2 เกมหลังสุดในบ้าน (8 ลูกกับลีเกีย วอร์ซอว์ และ 4 ประตูกับเบนฟิก้า)

 - โมนาโกเข้ารอบ 8 ทีม ชปล. เป็นครั้งที่ 4 มีเพียงเปแอสเชที่ทำได้ดีกว่าในบรรดาสโมสรฝรั่งเศสด้วยกัน (5)

 - นี่เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปีที่โมนาโกผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย อย่างไรก็ตาม หนสุดท้ายที่พวกเขาผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ เกิดขึ้นในฤดูกาล 2003-04 ซึ่งพวกเขาเข้าชิง ก่อนแพ้ปอร์โต้

 - โมนาโกเสีย 13 ประตูในชปล. ฤดูกาลนี้ รวมถึง 8 ประตูจาก 2 เกมหลังสุดนอกบ้าน มากกว่าทุกทีมที่เหลืออยู่ในรายการนี้

 - ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ทำ 7 ประตูจาก 7 เกมชปล. ฤดูกาลนี้ รวมถึงแฮตทริกในเกมล่าสุดที่พบเบนฟิก้า รอบที่แล้ว

 - แม้เป็นตัวจริงเพียง 11 ครั้งในชปล. แต่ฟัลเกายิงได้ถึง 8 ประตู

 - ฟาบินโญ่มีส่วนร่วม 3 จาก 6 ประตูหลังสุดของโมนาโก ในชปล. (1 ประตู, 2 แอสซิสต์)