ไปต่อ!!! "บิ๊กอ๊อด"พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไฟเขียวให้ "โค้ชโย่ง"ทำ สุพรรณบุรี เอฟซี ไปก่อนได้ แต่วอนให้ประธานสโมสรอย่าง "บิ๊กท็อป"วราวุธ ศิลปอาชา เร่งหากุนซือคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ เพราะจะได้ไม่กระทบกับทีมชาติไทย ยู 23 แม้ว่าช่วงนี้จะไม่มีโปรแกรมฟาดแข้งก็ตาม ด้าน วรวุธ ศรีมะฆะ ขอบคุณประมุขบอลไทยที่ให้การอนุเคราะห์ แต่ยืนยันว่าต้องการทำทีม "ช้างศึกจูเนียร์" และในช่วง มิ.ย.นี้ ต้องการลับแข้งกับทีมชั้นนำอย่าง อุซเบกิสถาน หรือ ญี่ปุ่น เพื่อวัดศักยภาพทีมไปในตัว

สืบเนื่องจาก สุพรรณบุรี เอฟซี แต่งตั้ง "โค้ชโย่ง"วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือทีมชาติไทย ยู 23 ขึ้นจากตำแหน่ง ผอ.สโมสร ไปคุมทีม เพราะทำการปลด แซร์โจ้ ฟารีอาส ก่อนที่เจ้าตัวพาทีมบุกไปชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 3-1 ในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2017 เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม "บิ๊กอ๊อด"พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ต้องการที่จะพูดคุยกับ "โค้ชโย่ง"วรวุธ ศรีมะฆะ เพื่อถกอนาคตว่าจะทำงานกับ สุพรรณบุรี เอฟซี หรือเป็นแม่ทัพทีมชาติไทย ยู 23 ต่อไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ณ ชั้น 2 ห้องทำงานของ "บิ๊กอ๊อด"พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทาง "โค้ชโย่ง"วรวุธ ศรีมะฆะ ได้เดินทางมาพบกับประมุขบอลไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคต ซึ่งใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง

โดย "บิ๊กอ๊อด"พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตของอดีตกองหน้าร่างยักษ์ทัพ "ช้างศึก" ว่า "วันนี้โค้ชโย่งได้เข้ามาหารือเกี่ยวกับอนาคตการทำทีมชาติไทย ยู 23 ผมก็ได้บอกเขาแบบพี่น้องตรงไปตรงมาว่า นโยบายของสมาคมฯโค้ชทุกคนต้องทำงานแบบฟูลไทม์ ต้องทำรายงานชี้แจงให้กับประธานเทคนิคให้ทราบตลอด"

"ฉะนั้นการที่โค้ชโย่งจะทำหน้าที่ให้กับทีมชาติไทย ยู 23 และสโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี คงจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งเขาก็เลือกว่าอยากจะเป็นโค้ชทีมชาติ แต่ในช่วงที่ต้นสังกัดของเขามีปัญหาเรื่องโค้ช เขาจึงขอเวลาระยะหนึ่งในการเป็นเฮดโค้ชให้กับสโมสร จนกว่าทีมจะหาหัวหน้าผู้ฝึกสอนใหม่ได้"

"ผมมองว่าการทำเช่นนั้นคงไม่เหมาะสม เพราะถ้าระยะเวลาเนิ่นนานออกไปจะส่งผลต่อทีมชาติไทย ยู 23 เขาจึงบอกว่าการทำงานนี้จะเป็นระยะสั้นไม่ส่งผลกระทบทีมชาติ การที่ สุพรรณบุรี เอฟซี ปล่อยตัวโค้ชโย่งมาทำหน้าที่ ถือว่าเขามีไมตรีที่ดีกับสมาคมฯ ในการให้กับสนับสนุน"

"คิดว่าถ้าการทำหน้าที่สโมสรไม่ส่งผลกระทบต่อทีมชาติ ก็สามารถอะลุ้มอล่วยกันได้ แต่ถ้าระยะเวลาเนิ่นนานออกไปคงจะเป็นไปไม่ได้ จึงขอฝากไปยังคุณท็อป (วราวุธ ศิลปอาชา ประธานสโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี) ว่า ต้องรีบตัดสินใจเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"

"เพราะถ้าจะให้โค้ชโย่งทำงานเป็นเดือนๆกับทีมคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนถ้ามีการเซ็นสัญญายาวเพราะผลงานดีนั้น คงจะเป็นเรื่องที่โค้ชโย่งจะต้อตัดสินใจเอง ผมคงจะห้ามไม่ได้ แต่วันนี้ผมบอกกติกาเช่นนี้กับเขาไปแล้ว เพื่อให้เขาตัดสินใจ ซึ่งจุดนี้เขายืนยันว่าเขายังอยากรับใช้ชาติ"

ด้าน "โค้ชโย่ง"วรวุธ ศรีมะฆะ ได้เปิดใจว่า "ผมได้รับการอนุเคราะห์จากสมาคมฯ ที่เห็นว่าเวลานี้ สุพรรณบุรี เอฟซี เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวหัวหน้าผู้ฝึกสอน ทำให้เราต้องตอบแทนต้นสังกัด แต่การทำทีมชาติไทย ยู 23 มันคือเกียรติยศของผม หลังจากที่เราเคยรับใช้ชาติด้วยการเป็นนักเตะมาแล้ว"

"จริงๆแล้วสัญญาผมกับสุพรรณบุรี เอฟซี มีอยู่แล้ว ซึ่งท่านประธานสโมสร (วราวุธ ศิลปอาชา) ก็ให้มาทำงานทีมชาติไทยได้ทันทีแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งเหลืออีกเพียงแค่ 2 เดือนก่อนที่จะไปเล่นซีเกมส์ เดือน ส.ค. และชิงแชมป์เอเชียที่บ้านเราเดือน ก.ค. ทื่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของปีนี้ก็ว่าได้"

"นอกจากนี้ผมต้องไปเรียนโปร ไลเซนต์ ให้จบในเซกชั่น 2 เดือน มิ.ย. ซึ่งเรื่องโค้ชใหม่ของ สุพรรณบุรี เอฟซี นั้น ผมคงจะไม่ทราบจริงๆ แต่ผมต้องทำทุกวิถีทางให้สโมสรกลับมายืนอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่กับสิ่งที่ลงทุนไป อย่างไรก็ตามกับทีมชาติไทย ยู 23 ผมก็ไม่ได้ทิ้ง"

"เพราะในช่วง มิ.ย. ก่อนที่ผมจะไปเรียนโปร ไลเซนต์ เซกชั่น 2 ก็วางแผนแล้วว่าเรียกนักเตะมาเก็บตัวตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ 7 วัน พร้อมกับหาทีมอุ่นเครื่อง โดยเล็งไปที่ อุซเบกิสถาน หรือ ญี่ปุ่น เพื่อที่จะได้วัดศักยภาพของทีม แต่ต้องดูผู้เล่นด้วยว่าคนใดมีอาการบาดเจ็บบ้าง"