จากกรณีที่ Japanese Boxing Commission (JBC) สั่งแบนนักมวยไทยชื่อ เอกชัย แสงทับทิม ที่ไปชกที่ประเทศญี่ปุ่น แพ้น็อก ฮารุอากิ คะมิยะ ดาวรุ่งเจ้าถิ่น ยกแรก เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา

สำหรับสาเหตุที่นักมวยไทยถูกแบนเป็นเพราะว่านักมวยขาดทักษะในการต่อสู้ อย่างที่ผู้ชมซึ่งเสียเงินค่าตั๋วคาดหวังเอาไว้ นอกจากนี้ ยังมีนักชกไทยคนอื่นๆ ถูกแบนด้วยเหตุผลเดียวกันนี้หลายราย อาทิ เอกจักรพันธุ์ ม.กรุงเทพธนบุรี (Ekajakaphan MorKrungthepThonburi) ที่ไปชกแพ้เมื่อวันที่ 9 เมษายน, เพชรนรา เพชรภูมิยิม (Phetnara Phetphumgym) ไปชกแพ้เมื่อ 9 เมษายน, ณัฐวุฒิ ศิริเต็ม (Nattawut Siritoem) ไปชกเมื่อ 16 เมษายน, อนุชา พลีงาม (Anucha Pleengam) ไปชกเมื่อวันที่ 17 เมษายน

นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย สั่งการให้ นายประเสริฐ ตันมี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เรียกตัวนักมวยคนดังกล่าวเข้ามาสอบสวนแล้ว เพราะสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อประเทศชาติ

 อย่างไรก็ตาม ผู้คร่ำหวอดในวงการมวยญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า กรณีแบบนี้นั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะนักชกไทยไปชกที่ญี่ปุ่นเยอะมาก 10 คนจะไม่มีมวยแบบนี้สัก 2-3 คน ทางญี่ปุ่นก็ต้องใช้บริการนักมวยจากไทยต่อไป ไม่มีแบนหมดแน่ ถ้าแบนก็เป็นรายๆ ไป เพราะนักชกไทยนั้นค่าใช้จ่ายไม่แพงในการสั่งมาชก ซึ่งก็มีทั้งเก่งและไม่เก่งเดินทางไปชก ไม่เหมือนมวยฟิลิปปินส์ที่อันตรายมาก พวกโปรโมเตอร์ญี่ปุ่นก็ต้องการให้มวยสร้างเจอมวยที่ไม่แข็งมากนัก เป็นเรื่องธรรมดา

แต่ที่เอกชัยโดนแจ็กพ็อตก็เพราะว่าไปชกในรายการมวยใหญ่ที่จัดโดยไทเก้น โปรโมชั่นใหญ่ของญี่ปุ่น และมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศนั่นเอง ทำให้ต้องมีการสั่งแบนนักชกรายดังกล่าว ถือว่าแบนเป็นคนๆ ไป รายอื่นที่ไม่โดนแบนก็ยังไปชกตามปกติ