ลิโอเนล เมสซี่ ซัดประตูที่ 500 ในเกม"เอลกลาซิโก้"สุดเดือดหลังเหมาเบิ้ลพา บาร์เซโลน่า บุกไปคว้าชัยเหนือ เรอัล มาดริด 3-2 ในช่วงทดเวลาเจ็บ โดยเกมนี้เจ้าถิ่นต้องเหลือผู้เล่นแค่10คนหลัง เซร์คิโอ รามอส โดนไล่ออกในช่วงครึ่งหลัง ทำให้สองนัดที่เจอกันบาร์ซ่ามีเฮดทูเฮดที่เหนือกว่า ขึ้นนำจ่าฝูงมี 75 คะแนนเท่ากับชุดขาวแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ในศึก ศึกลาลีกา สเปน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2560

เรอัล มาดริด 2 - บาร์เซโลน่า 3

สนาม : เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด)

 ''เอล กลาซิโก้'' ครั้งที่ 174 ในลา ลีกา ทาง ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด จ่าฝูงลา ลีกา ภายใต้การคุมทัพของ ซีเนดีน ซีดาน พาทีมไม่แพ้ใครใน 21 เกมหลังสุดที่เปิดรังทำศึกลา ลีกา โดยพวกเขาเพิ่งต่อเวลาพิเศษเอาชนะ บาเยิร์นมิวนิค มาได้อย่างสนุก 4-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 6-3 ไปพบกับ แอต.มาดริด คู่ปรับจากประเทศเดียวกันในรอบตัดเชือก พร้อมกับยังทำสถิติโลกในการพังประตูต่อเนื่องเป็นนัดที่ 55 ติดต่อกันแล้ว (จากทุกรายการ)

         เกมนี้เรอัลไม่มี ราฟาแอล วาราน ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสที่เจ็บขาหนีบ กับเปเป้ ปราการหลังจอมเก๋าที่เจ็บซี่โครงร้าวสองซี่ ต้องพักยาวราวสองเดือน แต่ได้ตัว แกเร็ธ เบล สตาร์ทีมชาติเวลส์ หายเจ็บน่องกลับมาช่วยทีม เช่นเดียวกับ ดาเนียล การ์บาฆาล แบ็กขวาที่พ้นโทษแบนในลีกแล้ว

         ทางด้าน ''เจ้าบุญทุ่ม'' บาร์เซโลน่า ทีมดังของแดนกระทิงดุ รั้งอันดับ 2 ของตาราง ต้องขาดเนย์มาร์ หัวหอกชาวบราซิลที่ติดโทษแบนเป็นนัดที่ 2 จากทั้งหมด 3 นัด รวมไปถึง อเล็กซ์ บิดาล กับ ราฟินญ่า อัลกันตาร่า ที่บาดเจ็บอยู่ แนวรุกวาง ลิโอเนล เมสซี่ รับบทหน้าต่ำอยู่หลังคู่หัวหอกอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ กับ ปาโก้ อัลกาเซร์

         ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้ 6 นาที เรอัล มาดริด บุกเข้าใส่ทันที มีโอกาสก่อน คาริม เบนเซม่า จ่ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลากตัดจากขวาเข้าในแล้วสับไกด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ บอลเข้าซองของ มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้นนายทวารบาร์ซ่า

         ผ่านมา 20 นาที ราชันชุดขาวบดต่อเนื่อง มาร์เซโล่จ่ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วซัดด้วยขวา แต่ มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น นายทวารบาร์ซ่า ทิ้งตัวปัดได้ ก่อนตามรับไว้อีกจังหวะหนึ่ง

         นาทีต่อมาเกมต้องหยุดชั่วครู่ เนื่องจาก ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์บาร์ซ่ามีอาการบาดเจ็บปากแตกจากการโดนศอกของมาร์เซโล่ แต่สามารถเล่นต่อได้

         อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ในนาทีที่ 28 จากจังหวะที่มาร์เซโล่พักอกแล้วเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เซร์คิโอ รามอส สอดมายิงด้วยขวาทางกรอบเขตโทษด้านขวา บอลชนเสาแรกเด้งออกมาเข้าทางของคาเซมิโร่ที่เสาไกล แปด้วยซ้ายมุมแคบเข้าประตูไป

         บาร์ซ่าไม่ท้อ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 33 จากจังหวะที่ อิวาน ราคิติช จ่ายให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ พลิ้วในกรอบเขตโทษ หลบ ดาเนียล การ์บาฆาล เข้าไปยิงด้วยซ้ายกลางกรอบเขตโทษ บอลผ่านการป้องกันของ เกย์ลอร์ นาวาส นายทวารเรอัล มาดริด เข้าประตูไป และเป็นประตูที่ 30 ของเมสซี่ ในลา ลีกา ซีซั่นนี้ นำโด่งเป็นดาวซัลโวต่อไป

         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 39 เรอัล มาดริด จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา มาร์โก อาเซนซิโอ ดาวรุ่งของทีมลงเล่นแทน แกเร็ธ เบล ที่มีอาการบาดเจ็บ หมดครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 1-1

         กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังได้ 8 นาที เรอัล มาดริดน่าจะได้ประตู เมื่อ มาร์เซโล่ โยนจากกราบซ้าบยให้ คาริม เบนเซม่า โฉบมาโหม่งจากระยะแค่ 6 หลา ทว่า มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น นายทวารบาร์ซ่า กางขาช่วยเซฟไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากลูกเตะมุม ดาเนียล การ์บาฆาล ได้วอลเลย์ด้วยขวาจากหน้ากรอบเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาออกไป

         กระเถิบมานาทีที่ 56 บาร์ซ่าได้โอกาสบ้าง อิวาน ราคิติช จ่ายให้กับ ปาโก้ อัลกาเซร์ ดีดด้วยขวา แต่ไม่ผ่าน เกย์ลอร์ นาวาส นายทวารเรอัล มาดริด

         สามนาทีต่อมา เจ้าบุญทุ่มได้ลุ้นต่อเนื่อง อิวาน ราคิติช เปิดมุมจากทางด้านซ้ายให้กับ เคราร์ด ปีเก้ ขึ้นโขกเต็มกบาล แต่ เกย์ลอร์ นาวาส นายทวารเรอัล มาดริด ลอยตัวปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

         จากนั้นนาทีที่ 67 เรอัล มาดริดสวนเร็วขึ้นมา มาร์โก อาเซนซิโอ กระชากหลุดมาทางด้านขวาจ่ายเข้ากลางให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตวัดยิงด้วยขวาบอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

         อย่างไรก็ตามนาทีที่ 73 บาร์ซ่าแซงขึ้นนำ 2-1 เมื่อ อิวาน ราคิติช เก็บบอลได้ ล็อกแล้วปั่นด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษบอลเลี้ยวเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม

         สี่นาทีต่อมา เรอัล มาดริดเหลือแค่ 10 คน จากจังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส ไปพุ่งเสียบสองขาใส่เมสซี่ที่ลอยตัวกระโดดหลบบริเวณกลางสนาม ผู้ตัดสินไม่รอช้าชักใบแดงไล่ รามอส ออกไปทันที

         ท้ายเกมนาทีที่ 85 เจ้าถิ่นแม้ตัวน้อยกว่าแต่ไม่ยอมง่ายๆ ตามมาไล่ตีเสมอ 2-2 เมื่อ มาร์เซโล่เปิดจากซ้ายเข้าในให้ ฮาเมส โรดริเกซ ที่ลงมาเป็นสำรอง หนีตัวประกบมาแปที่เสาแรกจ่อๆ แค่ 6 หลา เข้าประตูไป

         ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+2 บาร์ซ่ามาได้ประตูชัยจากจังหวะที่ เซร์จี้ โรเบร์โต้ พาบอลโต้กลับเร็วขึ้นมาจ่ายให้กับ อันเดร โกเมส ไหลต่อให้ จอร์ดี้ อัลบา เปิดจากกราบซ้ายให้ ลิโอเนล เมสซี่ เติมขึ้นมาซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษเข้าประตูไปช่วยให้บาร์ซ่านำ 3-2 โดยเมสซี่ ฉลองด้วยการถอดเสื้อชูขึ้นไปหาแฟนบอล เลยโดนกรรมการแจกใบเหลืองส่งท้าย

         เวลาที่เหลือทำอะไรกันอีกไม่ได้ จบเกมบาร์เซโลน่าบุกมาชนะเรอัล มาดริด ที่เหลือ 10 คน ไปสุดมัน 3-2 เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน เก็บสามแต้มสำคัญ มี 75 คะแนนเท่ากับ เรอัล มาดริด แล้ว แต่บาร์ซ่าแข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด
 

         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, นาโช่ เฟร์นานเดซ, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่ (มาเตโอ โควาซิช น.70), โทนี่ โครส - แกเร็ธ เบล (มาร์โก อาเซนซีโอ น.39), คาริม เบนเซม่า (ฮาเมส โรดรีเกซ น.82), คริสเตียโน่ โรนัลโด้

         สำรองไม่ได้ใช้ : กีโก้ กาซีย่า (ผู้รักษาประตู) - ดานีโล่, อีสโก้, อัลบาโร่ โมราต้า

         ใบแดง : เซร์คิโอ รามอส น.77

         บาร์เซโลน่า : มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น - เซร์จี้ โรเบร์โต้, เคราร์ด ปีเก้, ซามูแอล อุมตีตี้, จอร์ดี้ อัลบา - อิวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อีเนียสต้า (กัปตันทีม) - ลิโอเนล เมสซี่ - หลุยส์ ซัวเรซ, ปาโก้ อัลกาเซร์ (อันเดร โกเมส น.70)

         สำรองไม่ได้ใช้ : ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (ผู้รักษาประตู) - ลูก้าส์ ดีญ, การ์เลส อเลนญ่า, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เดนีส ซูอาเรซ, อาร์ด้า ตูราน

         ผู้ตัดสิน : อเลฆานโดร โฆเซ่ เอร์นานเดซ