ตอนนี้ ตัวแทนหนึ่งเดียวจากไทย เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้คู่แข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว นั่นคือ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ทีมจากจากเจลีก นั่นเอง โดยเราจะพาทุกคน ไปรู้จักกับสโมสรนี้อย่างรวดเร็ว กับ 10 ข้อนี้กัน

         1.ฟอร์มไม่ดีนักในเจลีก  ในฤดูกาลนี้ เจลีกแข่งไปแล้ว 10 นัด ผลงานของ คาวาซากิ ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 2  มี 16 คะแนน อยู่อันดับ 6 ของตารางเจลีก ตามหลังจ่าฝูงคาชิม่า แอนท์เลอร์ส อยู่ 5 คะแนน ฟอร์มของทีมไม่ค่อยสม่ำเสมอมากนัก 10 นัดที่ผ่านมา ยังไม่เคยชนะคู่ติดต่อกันเกิน 1 นัด ยิงประตูได้ 14 เสีย 11 ลูกได้เสีย บวก 3

         2.มีนักเตะติดทีมชาติญี่ปุ่น 1 คน ซึ่งทีมคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ชุดนี้ มีติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่แค่หนึ่งคนเท่านั้น ได้แค่ ยู โคบายาชิ กองหน้าวัย 29 ปี ซึ่งติดธงมาแล้วทั้งหมด 9 นัด ส่วนใหญ่เป็นตัวสำรอง ของ ชินจิ โอกาซากิ และ  ยูยะ คุโบะ โดยเกมสุดท้ายที่ได้ลงเป็นตัวจริง คือเกมบอลโลกรอบคัดเลือกเสมอออสเตรเลีย 1-1  ขณะที่เกมบอลโลกกับไทย มีชื่อเป็นตัวสำรอง แต่โคบายาชิ ไม่ได้ลงสนาม
 

         3.ตัวต่างชาติมีทั้งหมด 6 คน  นักเตะต่างชาติของคาวาซากิ มีบราซิล 4 คน เกาหลีใต้ 1 คน และ ฟิลิปปินส์ 1 คน  ตัวบราซิล มีเอดูอาร์โด้ , เอดูอาร์โด้ เนโต้, เอลซินโย่ และ เรย์เนอร์ ซึ่งทั้ง 4 คน ไม่มีใครเคยค้าแข้งในลีกใหญ่ของยุโรปมาก่อน ขณะที่ตัวเกาหลีใต้ ถือว่ามีชื่อเสียงใช้ได้ นั่นคือ จุง ซุง ยอง ดีกรีนายทวารมือหนึ่งทีมชาติโสมขาว ขณะที่ตัวฟิลิปปินส์ คือ เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส ลูกครึ่งกาน่า-ปินอย เป็นแบ็กซ้ายวัย 18 ปี แต่ยังไม่เคยได้โอกาสลงเล่นในระดับเจลีกมาก่อน

         4.เกมรับยวบในลีก - แกร่งในเอเชีย  จุดอ่อนของคาวาซากิ ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ในช่วงหลังก็คือเรื่องของเกมรับที่ไม่มีประสิทธิภาพ ในเจลีก 10 เกม พวกเขาเสียไป 11 ประตู ถือว่าเสียมากที่สุด หากเทียบกับทีมครึ่งบนของตารางเจลีก  อย่างไรก็ตาม ตรงข้าม กับในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาเข้ารอบด้วยการ เป็นแชมป์กลุ่มจี และเสียแค่ 3 ลูกจาก 6 นัดเท่านั้น ซึ่งเป็นทีมที่เสียน้อยที่สุด ในบรรดาทีมที่ผ่านเข้ารอบมาด้วย (เท่ากับเมืองทอง และ เจียงซู ซูหนิง)

         5.เข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มด้วยเฮดทูเฮด  คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ มี 10 แต้มในกลุ่มจี เท่ากับกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ อย่างไรก็ตาม ลูกได้เสีย เป็นรองกว่างโจวถึง 8 ลูกเต็มๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยกฎของแชมเปี้ยนส์ลีกจะวัดกันที่เฮดทูเฮดก่อน โดยวัดกันไปถึงอเวย์โกล์ของเฮดทูเฮดเลยทีเดียว ซึ่ง คาวาซากิ เสมอกว่างโจวในบ้าน 0-0 และไปเสมอที่บ้านกว่างโจว 1-1 ทำให้มีอเวย์โกล์ที่ดีกว่า และจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มในที่สุด

         6.บ่อนยก เต็ง 7 ซิวแชมป์เอเชียฝั่งตะวันออก  ในบรรดา 8 ทีม ที่ทะลุเข้าถึงรอบ 16 สุดท้ายของเอเชียสายตะวันออก ปรากฎว่า คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ อยู่เต็ง 7 มีอัตราต่อรอง แทง 1 ได้ 41 ขณะที่คู่แข่งอย่างเมืองทอง แทง 1 ได้ 67 อยู่ที่เต็ง 8

         7.คาวาซากิไม่เคยเป็นแชมป์ลีก  นับตั้งแต่เลื่อนชั้นมาเล่นลีกสูงสุดในปี 2005 พวกเขาไม่เคยไปไกลถึงตำแหน่งแชมป์เจลีกแม้แต่ครั้งเดียว ผลงานดีที่สุดคืออันดับ 2 ของลีก 4 สมัยในปี 2006,2008,2009 และ 2016

         8.รู้จักดาวดังที่สุดในอดีตของคาวาซากิ  นักเตะดังๆของคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในอดีตที่ผ่านมา มีหลายคนที่แฟนบอลรู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็น จองแตแซ กองหน้าทีมชาติเกาหลีเหนือ ที่เคยไปเล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว , เรนาโต้ กองหน้าบราซิเลียน ที่ตอนนี้เล่นอยู่กับทีมกว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ รวมไปถึง โยชิโตะ โอคุโบะ ดาวซัลโวสามสมัยซ้อนของเจลีก ก็เคยอยู่คาวาซากิ ฟรอนตาเล่เช่นกัน รวมถึงเออิจิ คาวาจิมะ นายทวารมือหนึ่งทีมชาติญี่ปุ่น ก่อนจะย้ายไปเล่นกับลีร์เซ่ในเบลเยี่ยม ก็อยู่กับคาวาซากิ ฟรอนตาเล่มาก่อน
 

         9.เทียบฟอร์มกับคาชิม่า แอนท์เลอร์ส  หากเอสซีจี เมืองทอง ใช้คาชิม่า แอนท์เลอร์ส เป็นเกณฑ์ ก็ต้องบอกว่า ทีมกิเลนผยอง นั้นน่าจะเล่นได้สูสี กับฟรอนตาเล่  โดยในซีซั่นที่แล้ว คาวาซากิ กับ คาชิม่า เจอกัน 3 นัด ปรากฎว่า แพ้ ชนะ เสมอ อย่างละหนึ่งนัด ถือว่า เล่นได้ใกล้เคียงกันมาก ดังนั้น หากมองว่าเมืองทองชนะ และแพ้ กับคาชิม่าอย่างละเกม ก็น่าจะสู้กับคาวาซากิได้อย่างสูสีแน่นอน

         10.จุดเริ่มต้นของคาวาซากิ  ในอดีต เมืองคาวาซากิ มีสโมสรฟุตบอลคือเวอร์ดี้ คาวาซากิ แต่เมื่อเวอร์ดี้ย้ายออกจากเมืองไป ทำให้ ฟรอนตาเล่ กลายเป็นแค่ทีมเดียวในเมือง ฟรอนตาเล่ มีจุดเริ่มต้นจากแผนกฟุตบอลในบริษัท ฟูจิตสึ (Fujitsu) ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชื่อดังในญี่ปุ่น ก่อนจะกลายเป็นทีมฟุตบอลอิสระในปี 1997 และได้เล่นลีกสูงสุดมาตลอดตั้งแต่ปี 2005 พวกเขามีผู้จัดการทีมในปัจจุบันคือ โทรุ โอนิกิ อดีตกองกลางของทีม ที่ผันตัวเป็นผู้จัดการทีม ขณะที่สนาม ที่ใช้คือ โทโดโรกิ แอธเลติก สเตเดี้ยม ที่มีความจุ 26,232 ที่นั่ง