ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เจาะ 5 ประเด็นร้อน หลังเกมหงส์แดงฟอร์มเทวดาบุกอัดค้อน 4 เม็ด

เจาะ 5 ประเด็นร้อน หลังเกมหงส์แดงฟอร์มเทวดาบุกอัดค้อน 4 เม็ด

Posted 15/05/2017 by siamsport

ลิเวอร์พูลเอาชนะเวสต์แฮมอย่างเด็ดขาด 4-0 ในเกมที่ลอนดอน สเตเดี้ยม ทำให้แซงหน้าแมนฯซิตี้ ทะยานขึ้นอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง และกลับเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบ ในการติดท็อปโฟร์อีกครั้งหนึ่ง ในเกมนี้มีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย และนี่คือบทสรุป 5 ข้อสำคัญของแมตช์นี้

1 คูตินโญ่ ห้ามขายไม่ว่าราคาเท่าไหร่

ด้วยฟอร์มอันสุดยอดของคูตินโญ่ในเกมเวสต์แฮม เชื่อได้เลยว่า เขาจะตกเป็นข่าวกับบาร์เซโลน่าหนักมากกว่าเดิม ก่อนหน้านี้ ทุกคนทราบดีว่า บาร์ซ่า อยากได้ "คูตี้" มาเสริมทัพอย่างจริงจัง เพื่อเอาไปแทนที่ตำแหน่งของอันเดรส อิเนียสต้า ที่นับวันจะโรยราลงเรื่อยๆ

ความสามารถเฉพาะตัว การเลี้ยงบอล การจ่ายคิลเลอร์พาส รวมถึงการจบสกอร์ "คูตี้" มีทุกอย่างที่เพลย์เมกเกอร์คนหนึ่งควรจะมี และไม่แปลก ถ้าจะถูกตั้งราคาซื้อขายมากกว่า 70 ล้านปอนด์

แต่คำถามคือ ลิเวอร์พูล ถ้าได้เงินมากขนาดนั้น ระดับสถิติสโมสร ควรจะขายหรือไม่?

ทีมหงส์แดง ได้รับบทเรียนมาแล้ว จากการขายหลุยส์ ซัวเรซ พวกเขาได้เงินมหาศาล แต่เอาจริงๆ ไม่มีใครที่ซื้อมาแล้วจะทดแทนการหายไปของหอกอุรุกวัยได้ และลิเวอร์พูลก็ไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลยตั้งแต่นั้นมา

กฎง่ายๆของทีมที่อยากประสบความสำเร็จ คือคุณห้ามขายนักเตะที่ดีที่สุดของตัวเองออกไป ต่อให้ได้เงินมหาศาลก็ตามที  ดังนั้นต้องดูใจของผู้บริหารหงส์แดงว่า จะมองเงิน หรือมองความสำเร็จก่อนกัน

2 แพ้ชนะกันที่ความกระหายในชัยชนะ

จริงๆทั้งลิเวอร์พูลกับเวสต์แฮม ประสบปัญหานักเตะเจ็บเหมือนกัน ลิเวอร์พูลไม่มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ,ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่  ส่วนเวสต์แฮม ก็ไม่มี แอนดี้ แคร์โรลล์ , มาร์ก โนเบิ้ล และชีคฮู กูยาเต้ ดังนั้นอ้างเรื่องตัวเจ็บกันไม่ได้

จุดที่เห็นชัดเจน คือลิเวอร์พูล "ต้องการชนะ" มากกว่า นักเตะทุ่มเทเต็มที่ เล่นอย่างมีวินัย และวิ่งไม่มีหมดตลอด 90 นาที ตรงข้ามกับเวสต์แฮม ที่พอเสียลูก 2 ก็เริ่มตัดใจ บางคนเดินเล่นท้ายเกมเลยด้วยซ้ำ

ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องได้สามแต้ม เพื่อการลุ้นท็อปโฟร์ แต่เวสต์แฮม พวกเขาลอยตัวแล้ว ต่อให้แพ้หรือชนะ ก็ไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น ยังไงก็อยู่รอด 100% แถมอันดับก็ไม่มีลุ้นไปเล่นยุโรป ดังนั้น ความทุ่มเท และใส่หัวใจลงไปในเกมจึงผิดกัน

3 สเตอร์ริดจ์ ทำให้แนวรุกหงส์เปลี่ยนไป

ประตูที่ลิเวอร์พูลขาดหายไปในช่วงหลัง นั่นคือ การแทงคิลเลอร์พาส จากกองกลาง ให้ทะลุกับดักล้ำหน้าของคู่แข่ง ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ? ก็เพราะไม่มีกองหน้าที่ชิงจังหวะได้เฉียบขาดนั่นเอง

ดิว็อค โอริกี้ มักส่ายออกซ้าย ออกขวา ไม่ค่อยชิงจังหวะกับคู่แข่ง ส่วนฟีร์มีโน่ เป็นกองหน้าที่หันหลังเข้าหาประตูคู่แข่ง เป็นฟอลส์ไนน์ ที่เล่นหน้า เพื่อคอยต่อบอลให้เพื่อน

แต่สเตอร์ริดจ์ ไม่ใช่แบบนั้น เขาเป็นคนที่มีความคล่องตัวสูงมาก และอ่านสถานการณ์ได้เก่ง มักจะเล่นชิงจังหวะกับคู่แข่งบ่อยครั้ง ซึ่งประตูแรกที่ได้มา ก็เกิดจากสเตอร์ริดจ์อ่านไลน์ได้แม่นยำ ก่อนจะหลุด แล้วล็อกหลบโกล์ง่ายๆ

สเตอร์ริดจ์ ถ้าฟิต 100% เขาจะทำให้หงส์แดงมีมิติมากๆ ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขา แต่ที่กังวลใจอย่างเดียว คือสเตอร์ริดจ์ เจ็บง่ายเสียเหลือเกินแค่นั้นเอง

4 ลิเวอร์พูลเอาชนะความกดดันได้สำเร็จ

ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างดูเหมือนไม่เป็นใจให้ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อลคู่แข่งที่ไล่ขึ้นมา เก็บ 6 แต้มจาก 2 เกมยากๆ (เยือนเซาธ์แฮมป์ตัน , เยือนสโต๊ค) ทำแต้มจี้หงส์ 1 คะแนน ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเสมอเลสเตอร์ อยู่แล้ว แต่จังหวะจุดโทษของมาห์เรซ กลับถูกแคนเซิลประตูไป

ทำให้สถานการณ์บีบบังคับให้หงส์ต้องชนะเท่านั้น เพื่อกลับไปยึดความได้เปรียบอีกครั้ง โดยเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของลิเวอร์พูลบอกว่า ในช่วงท้ายซีซั่นไม่แปลกที่จะมีความกดดัน แต่นักเตะต้องเรียนรู้ที่จะเอาแรงกดดันมาผลักดันตัวเอง ไม่ใช่เก็บมาเครียด

ก่อนเกมเริ่ม เกมกับเวสต์แฮม เป็นนัดที่ตึงเครียดที่สุด แต่เกมในสนามกลับเป็นเกมที่สบายกว่าที่คาด กองหลังเล่นได้รัดกุม กองหน้าเล่นอย่างอิสระ ไม่กดดันตัวเอง เป็นชัยชนะเกมเยือนที่ขาดลอยที่สุดของลิเวอร์พูลในซีซั่นนี้

5 หงส์แดงต้องปิดจ๊อบให้สำเร็จในเกมสุดท้าย

สถานการณ์ลุ้นท็อปโฟร์ตอนนี้ อยู่ในกำมือของลิเวอร์พูลทุกอย่าง พวกเขาเหลือเกมให้เล่นอีกแค่ 1 นัดเท่านั้น และนั่นคือเกมเจอมิดเดิลสโบรห์ในบ้านตัวเอง

โบโร่ ตกชั้นไปแล้ว ในซีซั่นนี้ชนะเกมเยือน 1 นัด (คือชนะซันเดอร์แลนด์ทีมบ๊วย) นอกจากนั้น การเจอกันครึ่งแรกของซีซั่น ลิเวอร์พูลบุกมาอัดคาบ้านโบโร่ 3-0

ขณะที่อาร์เซน่อล กับ แมนฯซิตี้ สองทีมที่ขับเคี่ยวกันอยู่มีโปรแกรมที่ไม่ง่ายนัก  อาร์เซน่อล เล่นในบ้านสองเกมก็จริง แต่ก็เจอกับซันเดอร์แลนด์ และเอฟเวอร์ตัน ซึ่งในเกมหลัง ทีมทอฟฟี่ทำอาร์เซน่อลแสบก็บ่อย

ส่วนแมนฯซิตี้ เล่นในบ้านเจอเวสต์บรอม ก่อนปิดท้ายด้วยการไปเยือนวัตฟอร์ด ซึ่งก็มีสิทธิจะหลุดได้เช่นกัน

ลิเวอร์พูลเป็นต่อทุกอย่าง และ ถ้าไม่สามารถเอาชนะมิดเดิลสโบรห์ในเกมสุดท้ายของซีซั่น หรือไม่ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้า นี่จะเป็นซีซั่นที่น่าผิดหวังที่สุดของเจอร์เก้น คล็อปป์จริงๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »