ศึกบุนเดสลีกา จบฤดูกาลเรียบร้อยแล้ว และมีหลายๆประเด็นที่น่าใจ ตลอดระยะเวลา 9 เดือนเต็ม เราไปดูกันว่า บทสรุปในลีกสูงสุดของเยอรมันซีซั่นนี้มีอะไรบ้าง

1) บาเยิร์นยังไร้เทียมทาน

         เต็งหนึ่ง บาเยิร์น มิวนิค เข้าป้ายคว้าแชมป์ตามความคาดหมาย และเป็นแชมป์แรก ภายใต้โค้ชคนใหม่ คาร์โล อันเชล็อตติด้วย

         ทีมเสือใต้ ยิงประตูมากที่สุดในลีก 89 ลูก และเสียประตูน้อยสุดในลีก และในยุโรป ที่จำนวน 21 ลูก ตลอดฤดูกาล

        แพ้คู่แข่งเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น (แพ้ดอร์ทมุนด์ กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ สกอร์ 1-0 ทั้งสองเกม) และทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 2 ไลป์ซิก 13 คะแนนเต็มๆ

         นอกจากนั้น ยังเป็นการคว้าแชมป์ 5 สมัยติดต่อกันของทีมเสือใต้อีกด้วย โดยจำนวนแชมป์ลีกทั้งหมดของทีมเสือใต้ คือ 27 สมัยเข้าไปแล้ว

         ในซีซั่นนี้ ยังเป็นซีซั่นสุดท้ายของ สองตำนานในวงการฟุตบอล ทั้งฟิลิปป์ ลาห์ม และ ชาบี อลอนโซ่ สองดาวเตะที่ได้แชมป์โลกมาแล้วทั้งคู่อีกด้วย

2) การทะยานขึ้นมาของไลป์ซิก

         อาร์แบ ไลป์ซิก ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา แต่กลับต่อกรกลับเสือใต้อย่างสนุกในช่วงต้นฤดูกาล ตามหลักแล้ว ทีมรอง สู้กับทีมใหญ่ได้สนุก แฟนบอลส่วนใหญ่น่าจะให้กำลังใจ

         อย่างไรก็ตาม แฟนเยอรมัน กลับไม่ค่อยชอบไลป์ซิกนัก เนื่องจาก นี่คือสโมสรจากประเทศออสเตรีย ที่เร้ด บูลล์ เข้ามาเทกโอเวอร์ และทุ่มเงินเข้าไปมหาศาล จนทีมเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 5 มาสู่ลีกสูงสุดในระยะเวลาแค่ 7 ปีเท่านั้น

         อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัญหานอกสนามอยู่บ้าง แต่ในสนามผลงานของพวกเขายอดเยี่ยมเหลือเกิน ไลป์ซิก จบอันดับ 2 ของตาราง เหนือทีมใหญ่ๆอย่างดอร์ทมุนด์ หรือเลเวอร์คูเซ่นเสียอีก

         นักเตะหลายๆคน แจ้งเกิดอย่างสมบูรณ์แบบ ติโม เวอร์เนอร์ ยิงไป 21 ลูก , เอมิล ฟอร์สเบิร์ก , นาบี เกอิต้า หรือปีเตอร์ กูลัคซี่ ที่เคยตกอับกับลิเวอร์พูล ก็กลายมาเป็นคีย์แมนที่นี่เอง

         น่าสนใจว่าในซีซั่นหน้า พวกเขาจะได้รักษาความแข็งแกร่งนี้ต่อไปได้หรือไม่ จะเสียคีย์แมนไปไหม และจะรับมืออย่างไร ถ้าต้องเล่นฟุตบอลยุโรปไปพร้อมๆกันด้วย

3) ดอร์ทมุนด์ และ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ซิวโควต้าชปล.

         โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แม้จะไม่มีลุ้นแชมป์ แต่พวกเขายังรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดี คือในฟุตบอลลีก จบท็อปทรีเสมอ ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปีนี้หลุดเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

         บางคนบอกว่า ถ้าไม่มีเรื่องรถบัสโดนระเบิด บางทีดอร์ทมุนด์อาจจะชนะโมนาโก เข้ารอบเซมิไฟนอล ในชปล.ก็เป็นได้

         ซีซั่นนี้ โทมัส ทูเคิล ไม่แพ้ใครในบ้าน แต่ทั้ง 6 แมตช์ที่เสือเหลือแพ้ เป็นเกมนอกบ้านทั้งหมด ซึ่งพวกเขาต้องปรับปรุงจุดนี้ด่วน ถ้าหวังจะลุ้นแชมป์ในซีซั่นหน้า

         ขณะที่อีกหนึ่งทีมที่ได้สิทธิแชมเปี้ยนส์ลีก คือฮอฟเฟ่นไฮม์ และจะเป็นครั้งแรก ที่ทีมจากหมู่บ้านทีมนี้ จะได้ไปเล่นในถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรป

         ฮอฟเฟ่นไฮม์ มีกุนซือที่หนุ่มที่สุดในบุนเดสลีกา ยูเลียน เนเกิลส์มันน์ ซึ่งปัจจุบันมีอายุแค่ 29 ปีเท่านั้น เขาไต่เต้าจากโค้ชระดับเยาวชนของทีม จนก้าวมาคุมทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวในซีซั่นนี้เอง

         วันที่เนเกิลส์มันน์ คุมฮอฟเฟ่นไฮม์วันแรก ทีมอยู่อันดับที่ 17 ของตาราง แต่ภายในเวลาแค่ 1 ปีนิดๆ เขาพาทีมไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ ถือเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากๆ

4) ดาวซัลโว โอบาเมอย็อง แซง เลวานดอฟสกี้

         ดาวซัลโวในซีซั่นนี้ พลิกสถานการณ์อย่างตื่นเต้นสุดๆ และบทสรุปคือ ปิแอร์ โอเมริก โอบาเมอย็อง จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แซงโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในนัดสุดท้าย

         ก่อนเกมนัดที่ 34  "เลวาน" ยิงไป 30 ลูก ส่วน "โอบา" ยิงไป 29 แต่เกมสุดท้าย กับแวร์เดอร์ เบรเมน โอบาเมอย็อง ยิงไปอีก 2 เม็ด ทำให้แซงชนะ ด้วยจำนวน 31 ประตู

         และนี่ถือเป็นดาวซัลโวบุนเดสลีกา ครั้งแรกสุดของโอบาเมอย็องอีกด้วย

         ขณะที่ คนยิงสูงสุดอันดับ 3 ในซีซั่นได้แก่  อ็องโตนี่ โมแดสต์ จากโคโลญจน์ ยิงไป 25 ลูก

5) ทีมตกชั้นไม่เซอร์ไพรส์มากนัก

         ดาร์มสตัดต์ ทีมบ๊วยของบุนเดสลีกา ซีซั่นนี้ ส่อเค้าลางไม่ดี มาตั้งแต่ ซีซั่นที่แล้ว หลังจากมีแต้มมากกว่าโซนสีแดงแค่ 2 แต้มเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายมาปีนี้ ทีมโดยรวมไม่ได้แข็งแกร่งขึ้น และร่วงตกชั้นเป็นทีมแรก

         ขณะที่อิงโกลสตัดต์ ปีที่แล้วอาจจะจบอันดับ 11 ก็จริง แต่ปีนี้ ฟอร์มโดยรวมไม่ดีมากๆ ทั้งซีซั่นชนะได้แค่ 8 แมตช์เท่านั้น ก่อนจะร่วงตกชั้นตามดาร์มสตัดต์ไป

         ทีมที่ได้อันดับ 16 จะต้องไปเพลย์ออฟ กับทีมในลีกาสอง ได้แก่ โวล์ฟสบวร์ก โดยจะไปพบกับทีม อันดับ 3 ของลีกา 2 เพื่อเพลย์ออฟ แบบเหย้าเยือนต่อไป