ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » "อย่ามาแตะตั๋วกู !" 6 ประเด็นหลังหงส์ถล่มโบโร่ 3-0 ลิ่วชปล.

"อย่ามาแตะตั๋วกู !" 6 ประเด็นหลังหงส์ถล่มโบโร่ 3-0 ลิ่วชปล.

Posted 22/05/2017 by siamsport

 

"มาริโน่" แฟนหงส์แดงพันธุ์ฮาร์ดคอร์ แสดงทรรศนะเฉียบๆ หลังเกมเดิมพันโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ลิเวอร์พูลเอาชนะมิดเดิลสโบรห์ไปขาดลอย 3-0 โดยเจาะประเด็นไปที่เกมในแอนฟิลด์ได้อย่างน่าสนใจ โดยมีเนื้อหาดังนี้

        ถูกทาบทามให้มาจัดความเห็นหลังแมตช์เดิมพันตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ของทีม "หงส์แดง" และเป็นโชคดีของชาวเมืองมนุษย์ที่งานนี้ไม่มีพลิกล็อก ทำให้โลกสงบสันติอย่างมีความสุขได้ชั่วขณะก่อนนัดชิงยูโรปา ลีก 555


 1. ฟีร์มิโน่ คืน และ การติดใจหมาก 4-4-2 ไดม่อนด์

        มีข่าวตลอดสัปดาห์ว่าโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ยังไม่กลับมาซ้อมนับตั้งแต่เจ็บกล้ามเนื้อหลังเกมเสมอเซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 จนชวดเล่นนัดรองสุดท้ายกับเวสต์แฮม

        อย่างไรก็ตาม การมีเวลาพักเพิ่มอีก 24 ชั่วโมงแทนจะเตะวันเสาร์ ทำให้เจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถรอจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อให้โอกาสกองหน้าบราซิเลียน พิสูจน์ความฟิต และปรากฏว่าสอบผ่าน

        เท่ากับว่าไลน์อัพตัวจริงเกือบเป็นชุดที่ดีที่สุด ขาดไปแค่มาเน่ กับเฮนเดอร์สัน  แตที่สำคัญยิ่งกว่าคือการค้นพบระบบ 4-4-2 ไดม่อนด์ ได้ทันท่วงทีในเกมกะซวกขุนค้อน หลังจากมัวงมกุ้งหอยปูปลาอยู่นานกับหมาก 4-3-3 ที่มันถูกประจานว่าไม่เวิร์กตั้งแต่เสียมาเน่ ในเดือนมกราคมโน่นแล้ว

        ดิว็อก โอริกี้ หลีกทางให้ฟีร์มิโน่ ลงมายืนกองหน้าคู่กับสเตอร์ริดจ์ ส่วนคูตินโญ่ ถอยไปปั้นเกมจากแนวลึกในบทบาทของเบอร์ 8


 2. ลูกตื๊อของโบโร่

        ความกังวลก่อนคิกออฟของแฟนหงส์คือจะเจาะยางรถบัสสองชั้นของโบโร่ ได้อย่างไร ผลงานอัตคัตในบ้านช่วงหลังสะท้อนปัญหายามเจอคู่แข่งที่ตั้งหน้าตั้งตามาอุดใส่ในแอนฟิลด์

        ตลอด 45 นาทีแรก รูปเกมชวนอึดอัดพะอืดพะอม ทีมเยือนแม้ว่าตกชั้นไปแล้ว แต่ก็หวังสร้างชื่อให้เป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลด้วยการอุดแบบครบวงจร หมากบนกระดานอาจเขียนว่า 4-3-3 หรือ 4-1-4-1 แต่เอาเข้าจริง ตัวรุกริมเส้นทั้งแพทริค แบมฟอร์ด กับสจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ผลัดกันถอยมาประคองเป็นฟูลแบ็กตามจังหวะการบุกของมิลเนอร์ และเนธาเนียล ไคลน์

        แนวรับของโบโร่ แทบจะยืนเรียงหน้ากระดานคราวละ 5-6 คน  และเมื่อตัดกองหน้าอย่างรูดี้ เกสเตด ออกไปอีกหนึ่ง เท่ากับว่าแดนกลางเหลือสามคนคอยช่วยกันไล่ นั่นคือที่มาว่าทำไม นักเตะลิเวอร์พูล ถึงขยันยิงไกลกันนัก เหตุเพราะโบโร่ รับลึก และปล่อยตรงกลางเหลือเพียงสามตัว เหมือนขอวัดความแม่นกับซื้อลูกบล็อก
 

 3. ลอฟเรนเกือบทำเสียจุดโทษ

        นาทีที่ 22 หงส์แดงถือว่าโชคดีที่ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ไม่เป่าให้จุดโทษโบโร่ จากจังหวะที่เดยัน ลอฟเรน ดูเหมือนใช้มือกดหลังแพทริค แบมฟอร์ด ก่อนทั้งคู่พากันล้มลงกอดกันเป็นเกลียวคลื่น

        สารภาพจากใจว่ามองอย่างไร โอกาสเป็นจุดโทษก็น่าจะสัก 60 ต่อ 40 เป็นอย่างน้อย

        และถ้าเป็นผู้ตัดสินคนอื่นก็ไม่แน่ว่าลอฟเรน จะรอดตัวจากการเข้าทะเล่อทะล่า เพราะตัวเองดันเหลี่ยมเสียเปรียบ บวกกับความช้าเป็นทุนเดิม

        ยังมีอีกบางจังหวะที่กองหลังรายนี้แสดงความไม่นิ่งออกมาให้เห็น นี่ขนาดโบโร่ที่แทบไม่มีพิษสง ไม่อยากนึกภาพถ้าต้องขึ้นเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเจอกับพวกเสือสิงห์กระทิงแรด


 4. ไวจ์นัลดุมปลดล็อก

        ลิเวอร์พูล ปีนี้ทำประตูในช่วงทดเจ็บของครึ่งแรกได้บ่อย แต่ลูกนี้ของจินี่ ไวจ์นัลดุม เทียบเท่าการยกภูเขาเอเวอเรสต์ออกจากอกของแฟนบอล

        จังหวะเข้าทำ กระชับสั้น แม่นยำ และรวดเร็ว ใช้บอลทะลุขึ้นหน้าแค่สามจังหวะของไคลน์, ฟีร์มิโน่ ก่อนมาจบโดยมิดฟิลด์ชาวดัตช์

        ถือเป็นนักเตะที่ชอบโผล่ในเกมใหญ่ ทั้งแมนฯ ซิตี้, เชลซี, อาร์เซน่อล ตกเป็นเหยื่อโดนสอยมาแล้วทั้งสิ้น

        นี่คือประตูที่ 17  ในพรีเมียร์ ลีกตลอดสองซีซั่น ของไวจ์นัลดุม และทั้งหมดยังคงคอนเซปต์ของการยิงเฉพาะเกมในบ้านไม่ว่าที่เซนต์ เจมส์ พาร์ก ของนิวคาสเซิ่ล หรือแอนฟิลด์
 

 5. ครึ่งหลังล่อเป้า

        ประตูของไวจ์นัลดุม ช่วยต่อยอดความมั่นใจในการลงสนามครึ่งหลัง

        อะไรที่ว่ายากก็กลายเป็นง่าย และกล้าคิดกล้าทำ ตัวอย่างเช่นลูกยิงฟรีคิกระดับโลกของคูตินโญ่ ที่หลอกแบรด กูซาน จนเข่าแทบบิด

        ก่อนจังหวะเคาน์เตอร์ แอคแท็ก ที่ดาหน้ามา 4-5 คน และจบด้วยการซัด 3-0 ของอดัม ลัลลาน่า

        อารมณ์เชียร์บอลของแฟนลิเวอร์พูล ผิดเป็นคนละเรื่องเดียวกันเมื่อเทียบกับไม่กี่สิบนาทีก่อนหน้า
 

 6. กลับสู่ชปล. แต่ภารกิจเพิ่งเริ่ม

        เป้าหมายขั้นต่ำสุดของคล็อปป์ สำเร็จลุล่วงโดยการพาทีมคัมแบ็กเวทียุโรป

        แต่ก่อนจะเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ยังต้องฝ่าฟันอีกหนึ่งด่านในรอบเพลย์ออฟ ซึ่งบอกเลยว่าไม่ใช่งานง่าย

        นอกเหนือจากการทำศึกยุโรปในฤดูกาลหน้า ผลงานในพรีเมียร์ ลีก ก็ต้องพยายามทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะฟันธงได้ว่าทั้งแมนฯ ยูไนเต็ด กับอาร์เซน่อล คงไม่ยอมอยู่ใต้ตรีนอีกต่อไป

        ยิ่งมองความห่างจากทีมแชมป์อย่างเชลซี ถึง 17 แต้ม งานที่ต้องเร่งทำของคล็อปป์ ยังกองพะเนินสูงท่วมหัว...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »