เดอะ มิร์เรอร์ สื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษ นำเสนอ 5 เรื่องราวที่น่าสนใจจากเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดชิงชนะเลิศที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 2-0 เมื่อวันพุธที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา 

1. ป็อกบา โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น

ปอล ป็อกบา แสดงให้เห็นว่าทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงยอมทุ่มเงินมหาศาลคว้าเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัวที่สูงเป็นสถิติโลกเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

เกมนี้ดาวเตะชาวฝรั่งเศสมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกมการแข่งขันดังขึ้น โดยเขาวิ่งไล่บี้คู่แข่งตั้งแต่ต้นเกม, จ่ายบอลทะลุให้ ฆวน มาต้า และแสดงให้เห็นถึงความกระตือนรือร้นที่ยอดเยี่ยม

ป็อกบา ยังทำประตูได้ด้วย แม้ว่ามันจะมีโชคช่วยอยู่บ้างเพราะไปแฉลบหน้าแข้งของ ดาวินสัน ซานเชซ ก็ตาม

2. มูรินโญ่ ผู้คาดเดาได้ยาก

หากให้เปรียบเทียบกับเขาวงกตแล้วล่ะก็ อารมณ์ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คงเป็นหนึ่งในเขาวงกตที่ซับซ้อนที่สุดของโลก

ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มูรินโญ่ ดูจะมีอารมณ์เบื่อหน่าย อย่างที่เห็นได้จากการที่เขาให้สัมภาษณ์หลังจบเกมแค่ 15 วินาที ในเกมลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ทีมชนะ คริสตัล พาเลซ

พอถึงวันอังคารที่ผ่านมา เขากลับพูดปลุกใจได้อย่างน่าเหลือเชื่อภายหลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองแมนเชสเตอร์ แต่พอถึงเกมการแข่งขัน เขาดันไม่ใส่ชุดสูทสำหรับนัดชิงดำตามประเพณีของสโมสร แถมไม่มีอาการดีใจแม้แต่นิดเดียวตอนที่ ป็อกบา ยิงได้

อย่างไรก็ตาม พอถึงตอนฉลองแชมป์ เขากลับดีใจสุดขีดชนิดที่คนเห็นยังรู้สึกดีแทน

3. เอฟเวอร์ตัน อาจต้องคิดอีกทีกับการซื้อ คลาสเซ่น

โรนัลด์ คูมัน กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ชื่นชอบ ดาวี่ คลาสเซ่น เพลย์เมกเกอร์ชาวดัตช์ของ อาแจ็กซ์ มากๆ และเชื่อว่าเขาอาจจะทำผลงานได้ดีกับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ถ้าหากทีมต้องขาย รอสส์ บาร์คลี่ย์ ในช่วงซัมเมอร์นี้

แน่นอน สถิติของ คลาสเซ่น มันน่าประทับใจสุดๆ หลังจากฤดูกาลนี้เขามีส่วนร่วมกับประตูของ อาแจ็กซ์ ถึง 32 ลูกด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม การทำผลงานได้ดีใน เอเรดิวิซี่ และ ยูโรปา ลีก มันต่างกับการเล่นใน พรีเมียร์ลีก กรณีของ เมมฟิส เดอปาย ถือเป็นตัวอย่างได้ดี

ในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด คลาสเซ่น แทบโชว์ฟอร์มเก่งไม่ออก และทำพลาดในการตามประกบ ป็อกบา ซึ่งนำไปสู่ประตูขึ้นนำของ "ปีศาจแดง" คูมัน คงต้องตัดสินใจว่าแข้งวัย 24 ปี จะสามารถเล่นได้โดดเด่นใน พรีเมียร์ลีก รึเปล่า

4. ยูฟ่า ทำผิดพลาดในช่วงยืนไว้อาลัย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สวมปลอกแขนสีดำลงเล่น และขอร้องให้มีการยืนสงบนิ่งก่อนเกมการแข่งขัน 1 นาที เพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อ และครอบครัวของคนเหล่านั้น หลังจากเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกาศของสนามกลับไม่ได้บอกให้แฟนๆ ทำอย่างนั้นตอนที่มันเริ่มมีการยืนสงบนิ่ง และแผนที่วางเอาไว้ก็พังทลายลงหลังจากนั้นไม่นานเมื่อแฟนๆ ตัดสินใจว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะกอบกู้สถานการณ์นี้คือการปรบมือในช่วงเวลาที่เหลือของการไว้อาลัย

ยูฟ่า ควรจะรับมือกับเรื่องนี้ให้ดีกว่านี้

5. แมนฯ ยูไนเต็ด กับแฟนๆ ไว้อาลัยได้เหมาะสม

ก่อนที่เกมนี้จะเริ่มขึ้น สิ่งที่คนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษมันไม่ใช่ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เป็นเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองแมนเชสเตอร์

ถึงกระนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดครั้งนั้น และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ขุนพลจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คว้าชัยชนะในสนามเพื่อคนเหล่านั้น

นี่คือชัยชนะสำหรับพวกเขา และการที่กองเชียร์ตะโกนดังสนั่นว่า "แมนเชสเตอร์" ก็ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่ามันคือชัยชนะสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทีม และทุกคนในเมืองแมนเชสเตอร์อย่างแท้จริง