รอยเตอร์ส สำนักข่าวระดับโลก เผยสถิติที่น่าสนใจระหว่าง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด กับ "ม้าลาย" ยูเวนตุส คู่ชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนามมิลเลนเนียน สเตเดี้ยม ในกรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนนี้

ยูเวนตุส VS เรอัล มาดริด
- ยูเวนตุส แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา คว้าแชมป์รายการนี้ 2 สมัยในปี 1985 กับ 1996
- เรอัล มาดริด แชมป์ลา ลีกา คว้าแชมป์รายการนี้ 11 สมัย 1956, 1957, 1958, 1959, 1960, 1966, 1998, 2000, 2002, 2014 และ 2016
- ทั้งสองทีมเคยดวลแข้งกันมาแล้วในเกมฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรป 18 ครั้ง โดยจบลงด้วยแต่ละทีมชนะ 8 ครั้งเท่ากัน และเสมอกันทีมละ 2 ครั้งเช่นกัน
- เรอัล มาดริด ยิงประตูในรายการนี้ไปแล้ว 499 ประตู และจะกลายเป็นทีมแรกในหน้าประวัติศาสตร์ทัวร์นาเมนต์นี้ที่ส่งบอลซุกก้นตาข่าย 500 ประตู ถ้าพวกเขาทำประตูได้ในนัดชิง
- ถ้า เรอัล มาดริด ชนะ ยูเวนตุส จะทำให้ยอดทีมลีก สเปน กลายเป็นทีมแรกที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันแชมป์นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อเป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
- ยูเวนตุส จะกลายเป็นสโมสรที่ 9 ในยุโรป ที่ทำสถิติคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ได้ ถ้าพวกเขาคว่ำ "ราชันชุดขาว" สำเร็จ เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งสอยแชมป์โคปปา อิตาเลีย และ เซเรีย อา ในซีซั่นนี้
- ยูเวนตุส มีลุ้นเป็นทีมแรกที่ชูโทรฟี่แชมป์รายการนี้แบบไร้พ่ายนับตั้งแต่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ในปี 2008
 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูได้ 100 ลูกในการลงเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้
- กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ทำสถิติเทียบเท่า ลิโอเนล เมสซี่ ในการซัด 7 แฮตทริก ในแชมเปี้ยนส์ ลีก
- โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะเพียงคนเดียวเท่านั้นในหน้าประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ซัดแฮตทริกติดต่อกันในรอบน็อกเอาต์

รอบชิงชนะเลิศ
- นัดชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีนี้ จะลงเล่นที่สนามกีฬาแห่งชาติของเวลส์ (มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม) ในกรุงคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งเปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1999 เกมรับบี้ ชิงแชมป์โลก
- สนามแห่งนี้จุผู้ชมได้ประมาณ 74,500 ที่นั่น 
- นัดชิงชนะเลิศปีนี้ มีการถ่ายทอดสดมากกวา 200 ประตู และคาดว่าจะมีการ "ไลฟ์สด" จากผู้ชมเฉลี่ยแล้วประมาณ 160 ล้านราย
- ทั้งสองทีมได้ลงเล่นนัดชิงในแชมเปี้ยนส์ ลีก 6 ครั้ง เทียบเท่ากับสถิติ เอซี มิลาน
- เฟลิกซ์ ไบรช์ ผู้ตัดสินชาวเยอรมัน จะลงทำหน้าที่เกมนี้ โดยท่านเปาวัย 41 ปี เคยทำหน้าที่ตัดสินในรอบชิง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ระหว่าง เซบีย่า พบ เบนฟิก้า ที่ตูริน เมื่อปี 2014

ดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาลนี้
- ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า)            11 ประตู
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด)            10 ประตู
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค)        8 ประตู
- เอดินสัน คาวานี่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)        8 ประตู
- ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง(โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)     7 ประตู

สโมสรทำประตูสูงสุด
- เรอัล มาดริด      499 ประตู
- บาร์เซโลน่า     459 ประตู
- บาเยิร์น มิวนิค     415 ประตู
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 350 ประตู
- อาร์เซน่อล     281 ประตู
- ยูเวนตุส         263 ประตู
- เชลซี         249 ประตู
- เอซี มิลาน     231 ประตู
- ปอร์โต้         218 ประตู
- โอลิมปิก ลียง     187 ประตู