เรอัล มาดริด มีคิวดวลกับ ยูเวนตุส ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม มิลเลนเนียม สเตเดี้ยม กรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนนี้ ขณะที่ บีที สปอร์ต สื่ออังกฤษ วิเคราะห์ 5 จุดสำคัญที่อาจเป็นตัวตัดสินผู้ชนะในเกมระหว่าง แชมป์เก่าและเจ้าของสถิติคว้าแชมป์รายการนี้สูงสุด 11 สมัย กับทีมแกร่งจากอิตาลี ที่ผงาดซิวแชมป์ เซเรีย อา อิตาลี ตลอด 6 ฤดูกาลหลัง ดังต่อไปนี้

1.) การปะทะกันของอดีตเพื่อนร่วมทีม - เซร์คิโอ รามอส ดวล กอนซาโล่ อิกวาอิน

อิกวาอิน เล่นร่วมกับ รามอส ในรัง "ราชันชุดขาว" ถึง 6 ฤดูกาล โดยคว้าแชมป์ ลา ลีกา 3 สมัย และ โกปา เดล เรย์ 1 สมัย ก่อนอำลาถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในปี 2013 ขณะที่เวลานี้เจ้าตัวกำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรงในฤดูกาลแรกกับ ยูเวนตุส โดยยิง 32 ประตูรวมทุกรายการ หลังย้ายมาจาก นาโปลี เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ อาจโชว์ฝีเท้าไม่ออกเมื่อต้องเจอกับความแข็งแกร่งในแนวรับของกองหลังทีมชาติสเปน

 2.) จอมผ่านบอลขั้นเทพ - โทนี่ โครส ดวล มิราเล็ม ปานิช

เกมนี้จะเป็นการวัดเทคนิคเชิงลูกหนังและการต่อสู่ในแดนกลางอาจเป็นจุดสำคัญที่จะตัดสินผู้ชนะในบั้นปลาย ขณะที่ คาเซมิโร่ และ ซามี่ เคดิร่า คอยเก็บกวาดหน้าแผงแนวรับให้กับต้นสังกัดของแต่ละฝ่าย การล่อหลอกและการสร้างสรรค์เกมระหว่าง โครส และ ปานิช น่าจะเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ที่แอสซิสต์ถึง 12 ครั้งเมื่อซีซั่นที่แล้ว มีครบครันทั้งความมั่นใจ, ประสบการณ์และความสามารถในการควบคุมจังหวะเกม ขณะที่กองกลางทีมชาติบอสเนีย เล่นในบทบาทเดียวกันนั้นกับ "ม้าลาย" โดย ปานิช ยิงในลีกไป 9 ประตู และมีลูกยิงฟรีคิกสุดเฉียบคมไม่เป็นสองรองใครอีกด้วย

 3.) กุนซือ - ซีเนดีน ซีดาน ดวล มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี

ซีดาน เคยโชว์ฝีเท้าสร้างความตื่นตาตื่นให้กับแฟนบอลทั่วโลกกับทั้ง เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส ในอดีต ขณะที่ปัจจุบันเจ้าตัวประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับการคุมทัพ "ราชันชุดขาว" ช่วง 17 เดือนที่ผ่านมา ด้าน อัลเลกรี อาจไม่มีอะไรโดดเด่นในช่วงค้าแข้ง แต่เวลานี้ได้รับการยกย่องในฐานะหนึ่งในยอดกุนซือแห่งโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน โค้ชวัย 49 ปีนำ "ม้าลาย" คว้าแชมป์ลีก 3 ปีติดตั้งแต่ย้ายมาจาก เอซี มิลาน ขณะที่ยังเกือบนำทีมคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก สำเร็จในปี 2015 อีกด้วย

 4.) เจ้าของสถิติถล่มประตู กับ แผงหลังภูผาหิน - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดวล จอร์โจ้ คิเอลลินี่, อันเดรีย บาร์ซาญี่ และ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่

โรนัลโด้ ร้อนแรงแบบหยุดไม่อยู่ยิงถึง 32 ประตู จาก 12 นัดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ หรือเฉลี่ย 2.67 ประตูต่อเกม ขณะที่ยิงรวมในรายการนี้ไปแล้วถึง 103 ประตู อย่างไรก็ตาม โคตรแข้งชาวโปรตุกีส อาจต้องเจองานหนักในการฝ่าเข้าไปทะลวงตาข่าย ยูเวนตุส ที่มี จอร์โจ้ คิเอลลินี่, อันเดรีย บาร์ซาญี่ และ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ยืนพิทักษ์แนวรับ ซึ่งประสานงานร่วมกันช่วยให้ "ม้าลาย" เสียเพียง 3 ประตู จาก 12 เกมในถ้วยสโมสรยุโรปใบโตซีซั่นนี้   

 5.) ผู้รักษาประตู - เกย์ลอร์ นาบาส ดวล จานลุยจิ บุฟฟ่อน

บุฟฟ่อน ลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้วมากกว่า 100 เกม แต่ยังไม่เคยคว้าแชมป์แม้แต่ครั้งเดียว ขณะที่ครั้งนี้เป็นการลงเฝ้าเสาในรอบชิงชนะเลิศครั้งที่ 3 ของเจ้าตัว โดยนายทวารทีมชาติอิตาลี เก็บคลีนชีตถึง 21 นัดกับ ยูเวนตุส ในซีซั่นนี้ ด้าน นาบาส ลงเล่นในรายการนี้ไปแล้ว 24 นัด รวมถึงรอบชิงชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม จอมหนึบทีมชาติคอสตาริกา ไม่โดนคู่แข่งเจาะตาข่ายเพียง 7 นัดเท่านั้น จาก 40 เกม