บิ๊กแมตช์นัดกระชับมิตร..."สิงโตคำราม" อังกฤษ เตรียมปรับทัพหลายตำแหน่งแต่ แฮร์รี่ เคน ยังคงนำล่าตาข่าย เกมเยือนถิ่น "ขุนพลตราไก่" ฝรั่งเศส ที่จะพักแข้งหลักหลายรายเช่นกันโดย โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น่าจะเป็นแกนหลักล่าตาข่าย

ปรีวิวฟุตบอล นัดกระชับมิตรทีมชาติ   
วันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2560
ฝรั่งเศส  -   อังกฤษ
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต เอชดี 2, เวลา 02.00 น.

สนาม : สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ (แซงต์-เดอนีส์, ฝรั่งเศส)

        ทีมชาติฝรั่งเศส จะเปิด สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์ ชานกรุงปารีส รับการมาเยือนของ อังกฤษ ในบิ๊กแมตช์นัดกระชับมิตร

        ทั้งสองยักษ์ใหญ่เจอกันมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดพบกันในเกมอุ่นเครื่อง เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2015 อังกฤษ ชนะ ฝรั่งเศส 2-0 ที่เวมบลีย์ สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน

        ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เซเล็กซิยอนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศสวัย 48 ปี นำทีมลงสนามล่าสุดแพ้เกมเยือน สวีเดน 1-2 ที่ เฟรนด์ส อารีน่า กรุงโซลน่า ในบิ๊กแมตช์ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มเอ. เมื่อวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน

        แมตช์ดังกล่าว โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยิงให้ ตราไก่ นำก่อนนาที 37 แต่ จิมมี่ ดูร์มาซ ตีเสมอให้เจ้าถิ่นนาที 43 และ ตราไก่ มาเสียประตูช่วงทดเวลาเจ็บนาที 90+3 อูโก้ โยริส นายทวาร กัปตันทีมฝรั่งเศสเล่นพลาดมหันต์ สกัดบอลไม่ดีไปเข้าทาง โอล่า ตอยโวเน่น ยิงสวนเท้าขวาจากวงกลมกลางสนาม บอลกระเด้งลงพื้นเข้าประตูไปอย่างเหลือเชื่อ

        จากความพ่ายแพ้ทำให้ ฝรั่งเศส หล่นมาอยู่อันดับสองของกลุ่มเอ. มี 13 คะแนน จากการลงสนาม 6 นัด แต้มเท่า สวีเดน จ่าฝูง แต่ ตราไก่ มีผลต่างประตูได้-เสีย น้อยกว่า (ที่ +6 ต่อ +8)

        สำหรับนัดนี้ เดส์ชองส์ จะเปลี่ยนผู้เล่นหลายคนจากเกมล่าสุด พร้อมปรับแท็กติกจาก 4-2-3-1 มาเล่นระบบ 4-4-2

        "เดเด้" ประกาศรายชื่อผู้เล่น 11 คนแรก ออกมาเรียบร้อยแล้ว เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์เชลซี, ซามูแอล อุมติตี้ เซนเตอร์แบ็กบาร์เซโลน่า, อุสมาน เดมเบเล่ ปีกโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ไม่ได้ลงสนามนัดล่าสุด จะลงตัวจริง

        ขณะที่ โตมาส์ เลอมาร์ ปีกซ้ายดาวรุ่งของโมนาโก และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดาวยิงเนื้อหอมวัย 18 ปี ของโมนาโก ที่หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา ซึ่งทั้งคู่เป็นตัวสำรองเกมแพ้ สวีเดน ทว่าทั้งสองคนจะได้ลงสนามตั้งแต่วินาทีแรก
 

        ฝั่งอังกฤษ เพิ่งผ่านเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่บุกเสมอ สกอตแลนด์ 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นำก่อนจาก อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ตัวสำรอง แต่สุดท้ายต้องมาไล่ตีเสมอจาก แฮร์รี่ เคน

        สิงโตคำราม เก็บเพิ่มอีก 1 แต้ม ยังนำจ่าฝูงกลุ่มเอฟ แต่ก็มีสโลวาเกีย กับสโลวีเนีย ที่ต่างคว้าชัยชนะ ทำแต้มไล่จี้เข้ามากระชั้นขึ้นแล้ว

        กุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต มีนักเตะ 23 คนเป็นตัวเลือก หลังจาก เนธาเนียล ไคลน์ แบ็กขวาเจ็บหลัง กับ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าเจ็บต้นขาเล็กน้อยตอนซ้อม ถอนตัวตั้งแต่ก่อนเกมกับสกอตแลนด์

        คนอื่นๆ ก็ไม่มี เวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีมที่ถูกเมิน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, รอสส์ บาร์คลี่ย์, ไมเคิ่ล คีน, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ก็บาดเจ็บทั้งหมด

        หน้าใหม่ของชุดนี้ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาจากสเปอร์ส กับ เบน กิ๊บสัน เซนเตอร์มิดเดิ้ลสโบรช์ มีลุ้นประเดิมทีมชาติแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะตัวจริงหรือสำรอง

        การจัดทัพน่าจะปรับเปลี่ยนทีมเยอะทีเดียว หนึ่งในนั้นเป็นผู้รักษาประตูที่ เซาธ์เกต เปิดเผยว่าจะใช้ ทอม ฮีตัน ในครึ่งแรก แล้วเปลี่ยน แจ็ค บัตแลนด์ ลงในครึ่งหลัง

        แผงหลังเลือก ไคล์ วอล์คเกอร์, คริส สมอลลิ่ง, แกรี่ เคฮิลล์ และ ไรอัน เบอร์ทรานด์ แดนกลางส่ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน จับคู่กับ เอริค ดายเออร์ แผงรุกส่ง เจสซี่ ลินการ์ด กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ลงประสาน อดัม ลัลลาน่า หน้าเป้ายังให้ แฮร์รี่ เคน สวมปลอกแขนกัปตันทีมนำทัพเหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - ฌิบริล ซิดิเบ้, ราฟาแอล วาราน, ซามูแอล อุมติตี้, เบนฌาแม็ง เมนดี้ - อุสมาน เดมเบเล่, ปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, โตมาส์ เลอมาร์ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

        อังกฤษ  : ทอม ฮีตัน - ไคล์ วอล์คเกอร์, คริส สมอลลิ่ง, แกรี่ เคฮิลล์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เอริค ดายเออร์ - เจสซี่ ลินการ์ด, อดัม ลัลลาน่า, ราฮีม สเตอร์ลิง - แฮร์รี่ เคน(กัปตันทีม)