หลังจากที่เดินทางออกจาเมืองไทย ซึ่งใช้เวลาราว 5 ชั่วโมง 40 นาที ไปถึงท่าอากาศยานนาริตะเวลา 16.25 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) โดยมีแฟนคลับชาวญี่ปุ่นที่สวมเสื้อคอนซาโดเล่ ซัปโปโร มายืนรอเพื่อขจอถ่ายรูปและลายเซ็น ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นที่ระลึกอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสื่อมวลชนญี่ปุ่นที่ดักรอขอสัมภาษณ์ดาวเตะป้ายแดงของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร โดย "เมสซี่เจ" ได้ทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "ฮาจิเมะมาชิเตะวาตาชิวะ เจเดส โดโซะ โยโรชิคุ โอเนไกชิมัส (สวัสดีครับผม เจ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ)"

จากนั้นสื่อมวลชนท้องถิ่นได้สอบถามว่าด้วยรูร่างที่เล็กเช่นนี้ จะสามารถงัดความสามารถใดมาให้กับแฟนบอลได้ชมกัน เจ้าตัวบอกว่า "การมาครั้งนี้มันเป็นความฝันของผมอยู่แล้ว ซึ่งผมเองเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ และถ้าอยากจะรู้ว่าผมจะสามารถทำได้ดีหรือไม่กับทีมใหม่ หรืออยากจะรู้เรื่องราวของผมให้มาติดตามได้ที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร"

ด้าน "ตาจุ้ง"ก้องภพ สรงกระสินธ์ คุณพ่อที่สั่งสอนในการเล่นฟุตบอลให้กับ "เมสซี่เจ" ได้เปิดใจถึงลูกชาย หลังจากเดินทางมาส่งพร้อมกับคุณแม่พรสวรรค์ สรงกระสินธ์ แทนที่รายหลังที่ร่ำลาลูกชายด้วยการกอดแล้วร้องไห้ว่า "จริงๆแล้วพ่อก็บอกทุกอย่างเขาไปหมดแล้ว พ่ออยากจะให้เขาได้ทำตามความฝันแบบให้ถึงที่สุด ต้องกล้าออกไปเผชิญและเรียนรู้กับคนที่เก่งกว่า เพื่อที่เราจะประสบความสำเร็จ และเป็นใบเบิกทางการไปเล่นที่ญี่ปุ่นของผู้เล่นไทยคนต่อไป"

ฝั่ง "เมย์"พิชนาฏร์ สาขากร แฟนสาวของ "ชนาคุง" เผยว่าเมื่อคืนนี้ถือว่านอนหลับเพราะเมย์ง่วงมาก ทว่าเจนอนไม่หลับเนื่องจากน่าจะตื่นเต้นอย่างมาก ส่วนตัวแล้วเวลานี้ภาพของเขามันแบบสวยหรูมาก เขาอาจจะคิดว่าสนุกเลยไม่คำนึงถึงความลำบาก แต่เรารู้ว่าญี่ปุ่นเป็นเมืองน่าอยู่ ทว่าไปอยู่คนเดียวตลอดเวลา เมย์ว่าก็ลำบากอยู่ดี อยากให้เขาโชคดี แม้ว่าเนื้อแท้แล้วอยากให้เขาเผชิญบรรยากาศโลกกว้างคนเดียว ซึ่งคงจะต้องเอาใจช่วยเขา เอาไว้หายซ่าตอนไหน เมื่อโทรมาหาเราก็พร้อมไปหาทันที แต่ช่วงแรกนั้นอยากให้เขาปรับตัวเองให้ได้ ตลอดจนทุกอย่างลงตัวก่อน เนื่องจากไม่อยากจะไปรบกวนสมาธิของเขาค่ะ จึงอยากให้เขาไปคนเดียวก่อน