GOAL RECAP : สรุปทุกประเด็น "ซิโก้" นายใหญ่คนใหม่ท่าเรือ
Posted 24/06/2017 by goal.com
โกล สรุปทุกประเด็นหลัง ‘ซิโก้’ รีเทิร์นงานโค้ชสโมสรคุม ‘สิงห์เจ้าท่า’ เผยเหตุผล บื้องลึก-เบื้องหลัง ทุกบรรยากาศ ทุกคำพูดติดตาม ที่นี่ที่เดียว
กลายเป็นข่าวฮือฮาประจำฤดูกาล 2017 หลังจาก การท่าเรือ เอฟซี ประกาศแต่งตั้ง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย มาทำหน้าที่ นายใหญ่คนใหม่ อย่างสุดเซอร์ไพรส์ โกล ประเทศไทย ร่วมเกาะติด และสรุปลำดับเหตุการณ์-ทุกประเด็นที่เกิดขึ้นในงานแถลงข่าวครั้งนี้
ซิโก้มากับฝน
บรรยากาศเมื่อช่วงบ่าย วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2560 ที่สนาม แพท สเตเดียม คึกคักไปด้วยกองทัพสื่อมวลชน ที่มารอทำข่าวเปิดตัว เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย ที่ตัดสินใจคัมแบ็กวงการอีกครั้ง ด้วยการรับงานเป็น หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
บรรดาสื่อมวลชนจากเกือบทุกสำนัก ขนทีมงาน นักข่าว, ช่างภาพนิ่ง-ภาพเคลื่อนไหว กันมาอย่างเต็มที่ อาทิ ช่อง 3 ช่อง 7 ไทยรัฐ ทีวี ที่ยก รถถ่ายทอดสดสัญญาณเคลื่อนที่ (OB) มาประจำการบริเวณด้านข้างสนาม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยิงสดสัญญาณไปยังสถานี ไม่เว้นแม้แต่ ลุงยามที่สนาม ก็ยกมือถือขึ้นไลฟ์ผ่านเฟสบุคด้วยเช่นกัน โดยการแถลงข่าวเริ่มขึ้น ตามกำหนดการเวลา 15.00น. ท่ามกลางสภาพอากาศค่อนข้างร้อน
เวลา 14.40น. “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ขับรถยนต์มาถึงรังเหย้าสิงห์เจ้าท่า พร้อมกับได้พาทีมงาน เข้าพบ กับผู้บริหารสโมสรการท่าเรือ เอฟซี โดยคาดว่าน่าจะเป็นการเจรจาขั้นตอนสุดท้าย ขณะที่พี่น้องสื่อมวลชนต่างเฝ้ารอกันอย่างใจจด ใจจ่อ
ต่อมาได้มีการเลื่อนกำหนดแถลงออกไป ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเริ่มมีเมฆฝนเข้ามาแทนที่แสงแดดจ้า จากนั้น เวลา 16.00น. ซิโก้ เดินเข้าสู่สนาม พร้อมกับ มาดามแป้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะร่วมแถลงข่าว ภายในสนาม แพท สเตเดียม
โดยระหว่างการแถลงข่าว ฝนได้ตกลงมา จนสื่อที่ยืนอยู่ด้านนอกเต๊นท์ชั่วคราว ต้องหลบเข้ามาภายใน ซึ่งระหว่างการแถลง ซิโก้ ได้แสดงความห่วงใยพี่น้องสื่อด้วยการบอกว่า “ระวังไฟดูด ดูปลั๊กไฟด้วย” เนื่องจากฝนสาดมาค่อนข้างหนัก
ความผูกพัน-สัญญาใจ “ไม่มีใครดึงผมออกจากวงการฟุตบอลได้”
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เปิดใจเหตุผลที่รับงานในครั้งนี้ มีด้วยกัน 3 ข้อหลักๆ พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยประโยคเด็ด “ไม่มีใครดึงผมออกจากฟุตบอลได้”
เหตุผลข้อแรก เจ้าตัวมีความผูกพันกับสนาม แพท สเตเดียม เนื่องจากเป็นสนามแรกที่ได้เข้ามาคัดตัวเป็นเยาวชนทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นตำนานช้างศึก ในเวลาต่อมา
เหตุผลข้อสอง ประทับใจมนต์ขลังความเป็นตำนานของ สิงห์เจ้าท่า สโมสรเก่าแก่ของบอลไทย และอยากสัมผัสการเชียร์ที่ฮาร์ดคอร์ดุดัน เฉกเช่น สมัยไปเยือน เวียดนาม, อินโดนีเซีย ฯ ซึ่่งสร้างแรงกระตุ้นให้กับตัวของซิโก้ อยากคุมทีมข้างสนาม อยากเห็น แพท สเตเดียม สนามแตก
เหตุผลข้อสุดท้าย อยากทำฟุตบอลที่สนุก รุกเร้า วิ่งสู้ฟัด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ เยาวชนในพื้นที่ย่านคลองเตย
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า การมารับงานคุมทีมระดับสโมสร ไม่ได้ถือเป็นการลดระดับตัวเอง เพราะทุกวันนี้ก็ไปสอนฟุตบอลแก่เด็กๆทั่วประเทศอยู่แล้ว ตนเองตั้งหากที่รู้สึกได้รับเกียรติจากประธานสโมสร ให้เข้ามาทำงาน
"หลายๆคนอาจชอบสไตล์ผม หรือไม่ชอบในการทำทีมชาติ คนที่ชอบก็ชม ไม่ชอบก็ด่าไม่เป็นไร ตรงนั้นเป็นสิทธิ์ แต่ไม่มีใครที่สามารถดึงผมออกจากวงการฟุตบอลได้"
ส่วนเรื่องของ สัญญาการคุมทีมนั้น มาดามแป้ง เปิดเผยว่า ไม่ได้มีการทำสัญญาที่กำหนดระยะเวลา แต่เป็นการทำสัญญาใจระหว่าง โค้ชซิโก้ กับ สิงห์เจ้าท่า ที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ
ปัจจุบัน ทีมบริหารของประธาน นวลพรรณ ล่ำซำ เหลือสัญญา MOU กับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (เจ้าของสิทธิ) อีก 2 ปีครึ่ง และทางสโมสรหวังว่า ซิโก้ จะอยู่คุมทีมให้ยาวนานที่สุด อย่างน้อยที่สุด ก็จนสิ้นสุดสัญญา MOU กับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย
ด้าน ซิโก้ ได้พูดถึงการทำสัญญาใจว่า ส่วนตัวไม่ได้สนใจเรื่องของสัญญาอยู่แล้วว่า สั้นหรือยาว ถ้าผลงานดี ทีมมีพัฒนาการ นักฟุตบอลเล่นเต็มที่วิ่งสู้ฟัด ก็พร้อมลุยต่อ แต่ถ้าหากผลงานไม่ดี ตนต้องถอยอยู่แล้ว ไม่ได้ซีเรียสตรงนี้ ขอทำให้เต็มที่ที่สุด จนถึงช่วงจบฤดูกาลนี้ก่อน
มาดามเผยเหตุผลทาบซิโก้, จเด็จร่วมยินดี
ด้าน นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ได้เปิดเผยเบื้องหลังการทาบทาม เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มาเป็นกุนซือคนใหม่ แทนที่ จเด็จ มีลาภ ที่หลีกทางไปนั่งตำแหน่ง ที่ปรึกษาทีม
โดย มาดามแป้ง กล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักกับ ซิโก้ มาหลายปี และมีความใฝ่ฝันตั้งแต่เริ่มทำสโมสร เมื่อปี 2014 ว่าอยากได้ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย มาทำหน้าที่กุนซือเพราะประทับใจในฝีมือ ความเป็นมืออาชีพ เชื่อว่า ซิโก้ จะเข้ามาทำให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้น และเป้าหมายที่สูงขึ้นกว่าเดิม
“เลกสอง เราเห็นทุกทีมเสริมทัพ เปลี่ยนแปลงทีม ดังนั้น ถ้าเราต้องการอยู่ในระดับไทยลีกต่อได้ไป หรือได้เป้าหมายที่สูงขึ้น คงจะเป็นเรื่องยาก นักฟุตบอลฝีเท้าดี ค่าตัวแพง ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยทีมได้ แต่เครืองปรุงที่ดี จะขาดคนปรุงที่ีมีฝีมือไม่ได้”
“ที่ผ่านมา เขาทำทีมชาติประสบความสำเร็จมากมาย ทำให้กระแสฟุตบอลกลับมาดีอีกครั้ง ในฐานะประธานสโมสร ต้องขอบคุณ ซิโก้ ที่ให้เกียรติพี่แป้งมาก แป้งกับซิโก้ คิดตรงกันอย่างหนึ่ง คือเราเป็นคนตรงไป ตรงมา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไร และที่นี่อยู่กันอย่างครอบครัว และเรายินดีต้อนรับ ซิโก้ เข้ามาทำหน้าที่ เฮดโค้ชคนใหม่ของสโมสร”
ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น จเด็จ มีลาภ ที่ปรึกษาสโมสร ที่ก้าวลงจากตำแหน่งกุนซือ ได้มาร่วมถ่ายภาพและแสดงความยินดีกับ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ ซิโก้ มารับงานต่อจาก จเด็จ หลังเคยเข้าแทนที่ “มาสเซอร์” ในทีม ชลบุรี เอฟซี เมือปี 2010
ดึงสองผู้ช่วยคู่บุญร่วมงาน
การมาคุมท่าเรือครั้งนี้ “ซิโก้” ไม่ได้มาตัวเปล่า เขาหนีบเอาสองผู้ช่วยที่รู้ใจ มารับงานในครั้งนี้ด้วย รายแรก “โค้ชรุ่ง” ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์ เป็นหนึ่งในทีมงานของ ซิโก้ สมัยทำทีมชาติไทย ส่วนรายที่สอง “โค้ชเก๋” วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ อดีตผู้ช่วยสมัยคุมสโมสร บีบีซียู เอฟซี ที่กำลังว่างงานหลัง “เดอะ บิ๊กแบง” ยุบทีม มาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ยังมี เจ้าหน้าที่ อีก 2 ราย จากฝั่งของซิโก้ ที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมงาน
ส่วนทีมงานชุดเก่าของ จเด็จ มีลาภ นั้น ทางกุนซือป้ายแดงสิงห์เจ้าท่า ได้บอกว่า เท่าที่มีการพูดคุยกับ มาดามแป้ง ทางสโมสรก็ไฟเขียวให้ทีมงานชุดเก่าอยู่ต่อได้ เนื่องจากเข้าใจว่าทุกคนมีครอบครัว และตัวซิโก้ ก็เป็นห่วงเพื่อนร่วมอาชีพ ไม่ต้องการเตะขัดขากันเอง
ดังนั้น “ซิโก้” จะเปิดโอกาสให้ สตาฟฟ์ชุดเก่าที่มีความประสงค์อยากร่วมงาน มาทำงานต่อไป เช่นเดียวกับ นักฟุตบอล ที่โค้ชใหม่ยังไม่มีแผนเสริมทัพ เนื่องจากพอใจกับ 35 นักเตะที่มีอยู่ แต่หากผู้เล่นคนไหนต้องการขยับหาโอกาสลงสนามกับสโมสรอื่น ก็สามารถพูดคุยได้เช่นกัน
ยอมรับมีข้อเสนอจากทีมชาติ-สโมสรอื่นๆ
ก่อนหน้านี้ ซิโก้ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ยังไม่มีความสนใจกลับมารับงานคุมทีมระดับสโมสร และทีมชาติในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากต้องการให้เวลากับครอบครัว มีสมาธิกับการเรียนหลักสูตรโปรไลเซนส์ รวมถึงต้องการสอนฟุตบอลเยาวชนก่อน
ที่ผ่านมา ซิโก้ ตกเป็นข่าวลือว่าได้รับความสนใจจาก ทีมชาติอินโดนีเซีย, ทีมชาติเวียดนาม รวมถึงทีมดังลีกแดนอิเหนาอย่าง เปอร์ซิบ บันดุง แต่่สุดท้ายกลับเป็น “สิงห์เจ้าท่า” ที่สามารถเปลี่ยนใจ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทยได้
ซึ่งเรื่องดังกล่าว ซิโก้ ได้ออกมาพูดต่อหน้าสื่อมวลชนว่า เจ้าตัวได้รับข้อเสนอเช่นนั้นจริงๆ “ต้องขอบคุณหลายๆ สโมสร รวมถึงทีมชาติ ที่ติดต่อเข้ามา อย่างแรก ถ้าผมไปทำทีมชาติอื่น มาเจอกับไทย ตอนนี้ก็คงไม่มีความสุข หรือไปสร้างเด็กในประเทศอื่นๆ แถบอาเชียน เราก็ยังทำใจไม่ได้ เราอยากปั้นเด็กไทยก่อน เป้าหมายในชีวิตยังมีอยู่ และยังเปนอุดมการณ์ของตัวเอง ฝากคำขอบคุณผ่านสื่อไปยังทุกสโมสรที่ติดต่อมา แต่วันนี้ดีใจและภูมิใจกับการทำหน้าที่ให้กับทีมการท่าเรือ”
หนักใจประเดิมชนบียู- คุมซ้อมทันที
เวลาต่อมา โค้ชซิโก้ ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อมมื้อแรก หลังจากได้รับตำแหน่ง ในเวลา 17.00น. โดยอนุญาตให้ สื่อมวลชน บันทึกภาพได้เพียง 15 นาที เนื่องจากเป็นการฝึกซ้อมแบบปิด แต่ก็มีแฟนบอลเจ้าถิ่นบางส่วนที่ตามให้กำลังใจถึงขอบสนาม ท่ามกลางสภาพท้องฟ้าที่เปิดอีกครั้ง
ทั้งนี้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ออกมายอมรับว่า ตนเองตัดสินใจรับงานคุมการท่าเรือ โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องของโปรแกรมว่าจะเจอกันเป็นทีมแรก แต่เมื่อเห็นว่า เกมแรกเจอกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็ถือเป็นเกมที่หนักเพราะว่า แบงค็อก เป็นทีมใหญ่ มีการเสริมทัพที่ดี แต่เชื่อว่าศักยภาพนักฟุตบอลของการท่าเรือไม่ได้เป็นรอง บวกกับเสียงเชียร์จากแฟนบอล น่าจะสู้ได้สนุก พร้อมเชิญชวนแฟนบอลมาร่วมกันกดดัน บียู ให้เยอะๆ
“ที่ผ่านมาคงได้เห็นสไตล์ฟุตบอลของพี่โก้ว่า เป็นบอลสนุก แฟนท่าเรือน่าจะชอบ ก็จะทำหน้าที่ให้เต็มที่ตลอด 90 นาที ที่คุมทีมข้างสนาม เราอาจะไม่ใช่ทีมใหญ่เหมือน เมืองทอง บุรีรัมย์ แต่อยากให้คู่แข่งรู้ว่า นี่คือ นรกของทีมเยือน และวันนี้เราอยากเดินเคียงข้างไปกับแฟนบอล”
เป้าหมายลุ้นไปเอเชีย-แฟนต้อนรับอบอุ่นหลังซ้อม
การรับงาน คุมทีมการท่าเรือ เอฟซี ในครั้งนี้ “ซิโก้” ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกคาดหวังจากแฟนบอล รวมถึงสโมสร แต่เจ้าตัวก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า จากการพูดคุยกับ มาดามแป้ง สโมสรเองก็ไม่ได้กดดันอะไร เนื่องจากต้องการจบอันดับด้วยเลขตัวเดียว ซึ่ง “มาสเซอร์เด็จ” ทำไว้ได้แล้วในเลกแรก (จบที่ 8) หลังจากนี้จะอันดับขึ้นหรือลง คงเป็นบทพิสูจน์ฝีมือ
แต่ถ้าถามถึงเป้าหมายในใจของ ซิโก้ กับการคุมทีม การท่าเรือ ก็หวังที่จะเห็นทีมไปได้ไกลที่สุด ตอนนี้ สิงห์เจ้าท่า ยังมีลุ้นถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ ก่อนหน้าจะมาแถลงข่าว ได้เข้าไปถามน้องๆแล้วว่า “อยากเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกไหม ถ้าอยากเล่นก็ต้องไปให้ถึงแชมป์ ทำไมจะทำไม่ได้ ก็เคยชนะ เมืองทอง เชียงราย เสมอ บุรีรัมย์ มาแล้ว”
ดังนั้นเป้าหมายของ ซิโก้ จึงเป็นการซิวแชมป์ถ้วยน็อกเอาท์ไทย เพื่อคว้าตั๋วไปลุยรอบเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2018
นอกจากนี้ ภายหลังการฝึกซ้อมลูกทีมเสร็จสิ้น “ซิโก้” ได้เดินมาขอบคุณกองเชียร์ที่ตามมาให้กำลังถึงขอบสนาม พร้อมกับพูดคุย ตอบคำถาม และถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง สร้างความประทับใจแก่กันและกัน ก่อนที่ ท่าเรือ ยุคซิโก้ จะประเดิมงานแรกด้วยการพบกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
วิเคราะห์บอล ทีมชาติฟิลิปปินส์ พบ ทีมชาติไทย วันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 67
เขี่ยอินโดฯตกรอบ แข้งฟิลิปปินส์ โดนสโมสรอินโดฯยกเลิกสัญญา
ต้องจ่ายหากหวังแชมป์!ยอร์ค ชี้ อาร์เซน่อล ควรเซ็น อิซัค
ที่สุดของหัวใจ! ไกเซโด้ เผยครอบครัวไม่ยอมกินเพื่อซื้อสตั๊ดให้ตน
ไม่ต้องพูดถึงแชมป์!เป๊ป รับ แมนซิตี้ เสี่ยงชวดลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์