นักเตะอาชีพไม่ต่างอะไรกับชีวิต "หมาล่าเนื้อ" มีโอกาสต้องรีบกอบโกย เพราะอาชีพนี้เป็นอะไรที่อาจจะท้าทาย แต่ก็สามารถพลิกผันได้เสมอ หลายครั้งที่แฟนบอลชื่นชมความยิ่งใหญ่บนความสำเร็จของพวกเขา แต่ก็มีหลายครั้งที่เบื้องหลังของความสำเร็จเกิดขึ้นจากการตัดสินใจทั้งท

"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหม่ป้ายแดงของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เป็นนักเตะที่มีเกียรติประวัติการรับใช้ทีมชาติไทยมากมายโดยเฉพาะการสังหารประตูไปถึง 70 เม็ดใน 131 แมตซ์ ช่วงรับใช้ทีมชาติ พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ ซีเกมส์,คิงส์ คัพ,ไทเกอร์ คัพ,อันดับ 4 เอเซียนเกมส์ 2 สมัย และ พาไทยผ่านเข้าสู่รอบ 10 สุดท้ายฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย

ช่วงของการค้าแข้งนักเตะทุกคนมีฝันอยากจะไปค้าแช้งต่างแดนโดยเฉพาะยุโรปยิ่งเป็นอังกฤษด้วยแล้วมันคือความฝันของนักเตะไทยทุกคน จุดประกายจากการไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสร "เดอะโบโร่"มิดเดิลโบร์ แม้ว่าจะไม่ถูกเลือก แต่ศูนย์หน้าจอมตีลังกาก็ไม่ยอมลดละสำหรับโอกาสของตัวเองได้ไปร่วมทดสอบฝีเท้ากับสโมสรฮัดเดิลฟิลด์ ทาวน์ ทีมในระดับ ดิวิชั่น 1 จนประสบความสำเร็จอย่างใจหวัง แต่การเดินทางไปครั้งนั้น "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ก็ทำการตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการเขียนใบลาออกจากข้าราชการตำรวจในยศ ร้อยตำรวจโท เพื่อตามฝันลูกหนังของตัวเอง

"เมสซี่เจ"ชนาธิป สรงกระสินธ์

"เมสซี่เจ"ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยอดแข้งจอมเทคนิคทีมชาติไทย ของ สโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นอีกหนึ่งคนที่เดินหน้าล่าฝันฟุตบอลของตัวเองมาตลอดชีวิต แม้ว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อาจจะดูพรั่งพรูทั้งในนามทีมชาติไทย ที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ ซีเกมส์,คิงส์ คัพ,อันดับ 4 เอเซียนเกมส์ และ พาทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีม สุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

ผลงานกับสโมสร ชนาธิป ก็เต็มอิ่มในความสำเร็จ ทั้งการพาเทโรฯ คว้าแชมป์ลีกคัพ และ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดปี 2016 ,แชมป์ร่วมโตโยต้าลีกคัพ 2016 พ่วงท้ายด้วยการพาทีมต้นสังกัดผงาดรอบ 16 ทีมสุดท้ายในเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก 2017 "เมสซี่เจ" ถูกหมายตาจากสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ ทีมในเจลีก 1 สุดท้ายทุกอย่างลงตัวเขาถูกยืมตัวไปโชว์ฟอร์มด้วยสัญญาหนึ่งปีครึ่ง เจ้าตัวตัดสินใจลาออกจากข้าราชการตำรวจในยศสิบตำรวจตรี มุ่งหน้าหาฝันฟุตบอลของตัวเองอย่างเต็มที่

"โอ"นครินทร์ ฟูปลูก

"โอ"นครินทร์ ฟูปลูก กองหลังดาวรุ่งวงการฟุตบอลไทย ที่แจ้งเกิดตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ปี ด้วยการก้าวขึ้นมามีชื่อติดทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวี ลงดวลแข้งกับยอดขุนพลตัวท็อปทั่วฟ้าเมืองไทยในรายการไทยลีก จนสุดท้ายมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ในยุคของ ซิกกี้ เฮลด์ บรมกุนซือชาวเยอรมัน ลงทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ก่อนหน้านั้นยอดแข้งที่มีถิ่นกำเนิดจาก จ.ลำปาง ก็พาชื่อตัวเองพาเหรดติดทีมชาติไทยตั้งแต่ระดับเยาวชน จนถึงทีมชาติไทยชุดยังบลัด

แม้ว่าจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนจ่าทหารเรือ หลังจบการศึกษาที่ ร.ร.กีฬา จ.นครสวรรค์ พร้อมกับเล่นฟุตบอลไปด้วยจนติดยศจ่าตรี ท้ายที่สุด นครินทร์ เลือกเส้นทางเดินฟุตบอลอาชีพตัดสินใจลาออกจากข้าราชการทหารเรือ ไปเซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับสโมสร "บัวหลวง"ธ.กรุงเทพ ด้วยค่าฉีกสัญญาใจ 1 แสนบาท พร้อมเงินเดือนอีกเดือนละ 3 หมื่นบาทไม่รวมเบี้ยเลี้ยงซ้อม นครินทร์ ยืนหยัดเล่นฟุตบอลอาชีพอย่างต่อเนื่องจนถึงสโมสรสระบุรี เอฟซี เลื่อนชั้นขึ้น ไทยลีก ปี 2015 ก่อนจะเลิกเล่นไปในปีนั้น ซึ่งเงินเดือนก้อนสุดท้ายในสารบบบอลอาชีพรับอยู่ที่ 7 หมื่นบาท

"หนุ่ม"นพพล ปิตะฝ่าย

"หนุ่ม"นพพล ปิตะฝ่าย แบ๊คซ้ายจาก จ.ร้อยเอ็ด แจ้งเกิดกับ ร.ร.พณิชยการราชดำเนิน ธนบุรี จนโด่งดังแบบสุดขีดในทีมเยาวชน 19 ปี ทีมชาติไทยชุดชิงแชมป์เอเชีย กลายเป็นที่หมายตาของบรรดายอดทีมในเมืองไทย มหกรรมความฝันบนถนนสายลูกหนังจึงเกิดขึ้นในใจ เพราะชีวิตใช้ฟุตบอลเป็นเข็มทิศชี้ทางตลอดมา ช่วงหลังติดทีมเยาวชน 19 ปี นพพล มีโอกาสลงเล่นให้กับสโมสรทหารอากาศ เพราะได้โควตาศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนจ่าอากาศและเล่นฟุตบอลไปด้วย จนติดยศจ่าอากาศตรี

นเรศ สุขงาม

นเรศ สุขงาม ที่เปลี่ยนชื่อเป็นครั้งที่สามจาก ชื่อแรกมาเป็น ณัฐพงษ์ และ ล่าสุดเป็น สรศักดิ์ จัดว่าเป็นนักเตะระดับพรสวรรค์ของวงการฟุตบอลไทยอีกคน ที่พีคสุดขีดเมื่อประมาณเกือบ 20 ปี ที่แล้ว ยอดแข้งจากจ.พิจิตรลงรับใช้ ร.ร.อสช.ศรีราชา จนโด่งดังกลายเป็นหนึ่งในขุนพลสโมสรใหญ่การท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมกับโอกาสติดทีมชาติไทยในหลายชุด ทั้ง ฟุตบอลสนามใหญ่,ฟุตบอลชายหาด และ ฟุตซอล

นเรศ สุขงาม เล่นให้กับการท่าเรือฯ จนได้รับการบรรจุงานเพื่อเป็นการตอบแทนที่ลงรับใช้ต้นสังกัดอย่างยาวนาน เกือบ 10 ปี ท้ายที่สุดแล้วแว๊บ!ของการตัดสินใจ ก็มาเยือน เมื่อเจ้าตัวผ่านการทดสอบฝีเท้ากับ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรฯ ในยุคของ "โค้ชแต๊ก"อรรถพล ปุษบาคม จึงตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นแข้งของสิงห์ท่าเรือพร้อมลาออกจากงานที่มั่นคงไปเล่นให้กับสังกัดใหม่ และ อยู่สังกัดใหม่เพียงปีเดียวก็โยกไปค้าแข้งในระดับวิชั่น 1 ของลีกอินโดนีเซีย กับสโมสร เปอร์ซิบาย่า ในเกาะสุราบาย่า รับเงินเดือน 6 หมื่นบาท พร้อมโบนัสอีกนัดละ 2 หมื่น เมื่อทีมชนะ เขาพาทีมผงาดแชมป์ และโบยบินกลับมาไทยในช่วงบั้นปลายชีวิตค้าแข้งลงเล่นให้กับอีกหลายสโมสรปัจจุบันทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชในสโมสรลำปาง เอฟซี

"โค้ชโชค"โชคทวี พรมรัตน์

โชคทวี พรมรัตน์ อดีตกองหลังจอมแกร่งทีมชาติไทย ผู้ที่ผ่านสมรภูมิลูกหนังมาแล้วทุกรายการ คืออีกหนึ่งตำนานที่มีหมายเหตุเรื่องราวของฟุตบอลไทยที่สามารถศึกษาได้ เขาคือผู้เล่าอายุน้อยในนามขุนพลทีมชาติไทยยุคดรีมทีม ที่เกาะติดทีมจนถึงทีมชาติไทยชุดใหญ่ในหลายๆยุคหลายๆสมัยจากยอดโค้ชไทยและต่างชาติทั่วสารทิศ พร้อมกับประสบการณ์ชีวิตค้าแข้งต่างแดนในเอสลีก,วีลีก และ เอ็มลีก ก่อนที่จะกลับมาโลดแล่นให้กับสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคฯ พร้อมกับได้รับการบรรจุงานหลังจากนั้น

ชีวิต "กระยางดำ" แนวรับแห่งพังงา ประสบความสำเร็จมากมายสมัยค้าแข้ง แต่ที่พีคสุดขีดในวิถีฟุตบอลอาชีพของเขาก็คือการได้รับโอกาสเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ โชคทวี พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ผงาดเหรียญทอง ชื่อเสียงของเขาโด่งดังเป็นที่ต้องการของสโมสรต่างๆในเมืองไทย เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจทีมชาติเจ้าตัวทบทวนตัวเองพร้อมกับลาออกจากพนักงานการไฟฟ้าฯ ไปเริ่มงานโค้ชอาชีพในสโมสร อุดรธานี เอฟซี ทีมระดับดิวิชั่น 2 ก่อนจะเดินบนเส้นทางโค้ชอาชีพต่อเนื่องกับสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ในระดับ ดิวิชั่น 1 ณ ปัจจุบัน

"ขงเบ้ง"อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์

อดีตนักเตะมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและรายการระดับฟุตบอลถ้วยพระราชทานถ้วยเล็ก มีความใฝ่ฝันว่าจะเป็นโค้ชลูกหนังเพื่อยกระดับวงการฟุตบอลไทย เจ้าของฉายา "ขงเบ้ง" อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กลายเป็นผู้ฝึกสอนชื่อบิ๊กเนมของเมืองไทยในเวลาต่อมา บนถนนเส้นฝันที่หวังไว้ปรมาจารย์ลูกหนังรายนี้เริ่มต้นกับการทำงานในทีมสำรองของสโมสรฟุตบอล "ตราชฎา" ราชประชา ก่อนที่จะยกระดับตัวเองพัฒนาไปสู่ยอดโค้ชสโมสรเมืองไทยหลายทีมรวมไปถึงการรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชในทีมชาติไทยชุดใหญ่

หลังจากจบการศึกษา แม้ว่าฟุตบอลจะเป็นเส้นเลือดใหญ่แห่งความฝันแต่ยังไม่สามารถเลี้ยงชีพได้ อ.อาจหาญ สอบบรรจุข้าราชการครู สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยนครินทรวิโรฒ พร้อมกับสร้างทีมฟุตบอลระดับปัญญาชนไปด้วย จุดเปลี่ยนของการเป็นโค้ชอาชีพเริ่มต้นจากการแข่งขันเอเซียนเกมส์ปี 2002 ที่ปูซาน เกาหลีใต้ ครั้งนั้นทำงานร่วมกับ ปีเตอร์ วิธ และเป็นครั้งแรกที่กำหนดอายุผู้เล่นไม่เกิน 23 ปี มีโควตาอายุเกินได้ 3 คน 2 ใน 3 โควตาอายุเกินเป็นทางด้าน "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ ดุสิต เฉลิมแสน ผู้เล่นของสโมสร ฮองอันยาลายส์ ความสนิทสนมจริงจังเกิดในช่วงนั้นพอดี หลังจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว "ขงเบ้งลูกหนังไทย" ตัดสินใจลาออกจากข้าราชการครู เดินหน้าหาฝันของตัวเองไปเป็นโค้ชให้กับฮองอันยาลายส์ ในวีลีกของเวียดนามจนเป็นที่มาของโค้ชอาชีพในที่สุด