ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ล้วงลึก อดีต ปัจจุบัน อนาคต "ตั้ม"ธนบูรณ์ เคลียร์จบครบทุกประเด็น

ล้วงลึก อดีต ปัจจุบัน อนาคต "ตั้ม"ธนบูรณ์ เคลียร์จบครบทุกประเด็น

Posted 22/07/2017 by siamsport

ณ เวลานี้ หนึ่งในซูเปอร์สตาร์ลูกหนังไทยที่แฟนฟุตบอลชื่นชอบ ย่อมมีชื่อของ "ตั้ม"ธนบูรณ์ เกศารัตน์ ติดอยู่ในโผ แม้จะไม่หวือหวา แต่มาแบบซึมลึก ในไอจีส่วนตัวมีคนติดตาม 6 แสนกว่าคน ในเฟสบุ๊กที่ไม่ค่อยได้เล่น มีคนติดตามหลักแสนคนเช่นกัน

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ชาญฉลาด บวกบุคลิกภาพแบบผู้ใหญ่ "ตั้ม"ในวัย 24 ปี กลายเป็นหนึ่งดาวดวงเด่นในวงการฟุตบอลไทย แถมเป็นเจ้าของสถิติค่าตัวแพงสุดของแข้งไทยถึง 50 ล้านบาทจากเอสซีจี เมืองทอง ไปสิงห์ เชียงราย กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปทันที 
   
วันนี้ เว็บไซด์ สยามสปอร์ต จะขอนำเรื่องราวทุกเรื่องเกี่ยวกับ "ตั้ม"ธนบูรณ์ มาเปิดใจให้แฟน ๆ ได้รับรู้ตัวตนของเขาในทุกเรื่องที่คุณอยากรู้
   
นักเตะสารพัดตำแหน่ง
    
กว่าจะมาเป็นนักเตะที่เล่นตำแหน่งตัวรับที่ยอดเยี่ยมทั้งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และกองกลางตัวรับ "ตั้ม"ธนบูรณ์ ในวัยเด็กผ่านการเล่นมาแทบจะทุกตำแหน่งยกเว้นประตู โดยเล่นทั้งกองหน้า, ปีก, แบ๊คขวา, กลางรับ และเซ็ฯเตอร์ฮาล์ฟ  จนเมื่อเข้ามาอยู่ร.ร.กีฬากทม.เขาตัดสินใจเล่นกองกลางตัวรับอย่างที่พี่ชาย สมเจตน์ เกศารัตน์ เคยเล่นและเป็นไอดอลของตัวเขา เพราะรู้ดีว่า ตัวเองความสามารถไม่ถึงในตำแหน่งผู้เล่นเกมรุก ยิงประตูไม่คม 

อดีตคือ นักเตะหัวร้อน
   
"ตั้ม"เล่าว่า สมัยตอนเล่นบอลนักเรียน เขาคือ นักเตะที่หัวร้อนเร็วคนหนึ่ง ถ้ามีการปะทะนอกเกม จะไม่ยอมใครและมักจะเอาเรื่อง หากโดนเตะจะเอาคืนทันควัน แต่เมื่อได้รับการกล่อมเกลาจากพ่อและพี่ชายที่พร่ำสอนให้เห็นโทษของการอารมณ์ร้อน เจ้าตัวก็เริ่มคิดได้ ยิ่งเข้าสู่ทีมชาติไทย พ่อจะคอยบอกว่าต้องเป็นตัวอย่างของคนรุ่นหลังที่ดูอยู่ จึงทำตาม เวลาโดนเตะถามว่าโมโหไหม ก็โมโห แต่ต้องควบคุมให้ได้ และคิดว่าเราเล่นบอลอย่างเดียวดีกว่า มีสมาธิกับเกม ถ้าเราหลุดไปตอบโต้ครั้งหนึ่งโดนเหลือง อีกทีโดนแดง ใครเสีย ก็ทีมเสีย เพื่อนก็จะเหนื่อยมากขึ้น จึงกลายเป็นนักเตะใจเย็นที่ไม่ตอบโต้ใครดั่งภาพที่เห็นเจนตา
    
ที่มาของแข้งมันสมอง
   
จุดเด่นสุด ๆ ของธนบูรณ์ เกศารัตน์ คือ การอ่านเกมสกัดที่ดูเหมือนง่ายดาย แต่สำหรับคนเล่นบอลในตำแหน่งตัวรับมันไม่ง่าย "ตั้ม"เล่าว่า ตัวเองเป็นคนชอบดูบอลมาก ดูมาตั้งแต่เด็ก และจะชอบดูการเล่นของแผงหลัง ดูแล้วก็คิดตามไปด้วยว่า เขาอ่านเกมยังไง สำหรับตัวเองแล้ว จะมองคนที่ไม่มีบอลรอบตัว จากนั้นจะมองไปที่บอล แล้วอ่านจังหวะว่า เขาจะทำอย่างไรต่อก็จะชิงดักไว้ก่อน การอ่านเกมต้องอ่านรอบตัวทั้งคนมีบอลและไม่มีบอล ไม่ใช่ดูที่บอลอย่างเดียว แต่ก็ต้องมีการฝึกฝนเพิ่มเติมเรื่อย ๆ


ค่าตัวมหาศาล แบกแรงกดดันมหาศาล
    
"ผมรู้ว่าเรื่องค่าตัวของผมที่มันสูงมหาศาลแบบนี้ ทุกคนย่อมคาดหวังกับเราแน่นอน ผมเต็มที่กับมันทุกแมตช์ ถามว่าผมกดดันไหมกับเรื่องที่ต้องแบกค่าตัวมหาศาลลงไป ยอมรับครับว่ากดดันมันทำให้แกว่งไปบ้าง แต่ก็จะเพิ่มความมุ่งมั่นเข้าไปอีก จากเคยเล่น 100 ก็ต้องเป็น 120 ไม่เคยมีนัดไหนที่ผมเล่นไม่เต็มที่ เพราะผมรู้ดีถึงความคาดหวังของทุกคน แต่ฟุตบอลมันมีทั้งวันดีและวันที่ไม่ดี ถ้าเราชนะก็โอเคไป แต่ถ้าแพ้บางที ผมจะโดนมองก่อน เพราะมาด้วยค่าตัวมหาศาล ผมเข้าใจตรงจุดนี้"
    
ดราม่าโซเชียล เมื่อ"ตั้ม"โดนว่า เล่นไม่เต็มที่
    
การถูกจับจ้องมองเป็นพิเศษ ย่อมตามมาด้วยกระแสทั้งด้านบวกและลบ เมื่อไม่นานมานี้ แฟนฟุตบอลบางคนได้มาพูดในทำนองว่า ตั้ม"ดูเหมือนเล่นไม่เต็มที่ ทำให้เจ้าตัวออกมาโพสต์ตอบโต้ทันควันในทำนองว่า เต็มที่สุด ๆ แล้ว ถ้าดีจริง ๆ ก็ต้องเมสซี่ 
    
การออกมาโพสต์โต้แบบนี้ "ตั้ม"บอกว่าไม่ใช่นิสัยของตัวเอง แต่วันนั้นบอลแพ้มา กำลังเสียใจ "ถ้าเขาบอกว่าผมเล่นไม่ดี ฟอร์มตก ผมไม่ติดใจครับ แต่ที่มีอารมณ์เพราะเราโดนหาว่าเล่นไม่เต็มที่ ไม่รักทีม อันนี้ทนไม่ไหวจริง ๆ ปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยออกมาโพสต์เรื่องส่วนตัวอะไรในโซเชียลเท่าไหร่ ยิ่งการสร้างดราม่านี่ยิ่งไม่เคยเลย แต่ครั้งนี้ต้องออกมาโต้ เพื่อให้ทุกคนได้รู้ความจริง ซึ่งก็มีทั้งกระแสบวกที่ให้กำลังใจ แต่บางคนก็บอกว่าไม่น่าตอบโต้ ผมก็น้อมรับทุกคำติชม แต่สำหรับผมแล้วขอยืนยันผมทุ่มเต็มที่ทุกแมตช์


เจ็บเรื้อรัง สภาพล้า ไม่ได้แก้ตัวแต่เรื่องจริง
    
ข้อวิจารณ์หรือตำหนิติติงว่า "ตั้ม"ไม่เหมือนเดิมในเรื่องของฟอร์มการเล่น กองกลางตัวรับทีมชาติไทยออกมาบอกว่า สิ่งที่ตนจะบอกไม่ใช่ข้อแก้ตัวเรื่องฟอร์มการเล่น แต่เป็นความจริงคือ ตนมีอาการบาดเจ็บจากหินปูนเกาะที่ข้อเท้าทำให้มีอาการเจ็บออด ๆ แอด ๆ แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร เพียงแต่มันมีผลเรื่องของการวิ่ง การเล่นบ้าง ทุกวันนี้ก็พยายามรักษาประคับประคองอยู่ แต่ถ้าจะให้หายสนิทก็ต้องพักหรือส่องกล้อง ซึงต้องใช้เวลายาวนาน
    
"อาการบาดเจ็บผมมันไม่ได้ร้ายแรงแต่มันส่งผลบ้าง อีกอย่างคือเรื่องอาการล้า ที่ต้องเตะทีมชาติและสโมสรที่เตะแบบติด ๆ กัน บางครั้งตอนอยู่เอสซีจี เมืองทอง สมองมันล้า เบลอร์ ลงไปเล่นพอได้บอลไม่รู้จะส่งให้ใคร เหมือนสมองมันไม่สั่งงาน บางทีขาล้า สมองสั่งงานแต่ขามันช้าไปจังหวะหรือสองจังหวะ เพื่อน ๆ หลายคนในทีมชาติก็เป็น อย่างอยู่ที่สิงห์เชียงราย ก็ต้องเดินทางตลอด มันคืออาการล้าสะสม แต่ก็ต้องแก้ไขด้วยการดูแลตัวเองและพักผ่อนให้มาก ๆ ซึ่งก็พอช่วยได้ เมื่อจบฤดูกาลก็จะรักษาอย่างจริงจังให้หายสนิท
    
สไตล์ "ซิโก้" กับสไตล์ ราเยวัช
    
"สมัยตั้มเล่นยุค "พี่โก้"คุมทีม ส่วนใหญ่จะถูกจับเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ถามว่าเล่นได้ไหม เล่นได้ครับ โดยจะเป็นตัวคอยซ้อนเก็บตกจากการชนของเพื่อนกองหลัง ขณะที่ยุคของ ราเยวัช ผมจะได้เล่นเป็นกองกลางตัวรับ ซึ่งผมชอบมากกว่า คือ เราจะได้งัดประสิทธิภาพที่เรามีอยู่ออกมาใช้ได้เต็มที่ เพราะนี่คือตำแหน่งที่เราถนัดและมีอิสระในการเล่น ผมไม่ได้เก่งกว่าคนอื่น แต่ผมคิดว่าถ้าผมเล่นในตำแหน่งที่ผมได้ใช้ความสามารถเต็มประสิทธิภาพมันน่าจะเวิร์คกว่า


แท็คติกใหม่เน้นรับ เน้นผลแข่ง
    
ฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทย ยุค ราเยวัช ถูกมองว่าเล่นเน้นรับ แต่บุกไม่เร้าใจ "ตั้ม"เผยว่า "คอนเซ็ปต์หลัก ของราเยวัช คือการไขเกมรับให้แน่นขึ้น ตำแหน่งต้องเป๊ะ แล้วค่อยหาจังหวะสวนกลับ บางคนบอกว่าเกมรุกไม่ไหลลื่น แต่ผมมองว่าก็โอเค เกมบุกดุดัน ไหลลื่น แต่เสียประตูเยอะ แล้วผลออกมาแพ้ ต้องถามว่าแฟนบอลรับได้ไหม กับการเล่นเน้นรับ แล้วบุกโต้กลับ จบเกมแล้วชนะ แฟนต้องการแบบไหน"
    
ปรับโฉมสไตล์ตัวเอง หนีคลื่นลูกใหม่
    
"แม้วันนี้ ผมจะพอใจกับความสำเร็จที่ได้มากับวัยแค่ 24 ปี แต่ผมไม่หยุดพัฒนาแค่นี้แน่ ผมจะต้องมีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นทุกปีเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า ธนบูรณ์ มีอะไรดี ๆ ขึ้นเรื่อย ๆตอนนี้ผมจะเพิ่มโปรแกรมซ้อมพิเศษของตัวเอง ทั้งเรื่องการยิงประตูจากแถวสอง การผ่านบอลเปลี่ยนแกน และการยิงฟรีคิก เพิ่มต่างหากจากการซ้อมปกติ  รวมถึงการฟิตเนสเพื่อเสริมความแข็งแรงของร่างกาย เดี๋ยวนี้คลื่นลูกใหม่ก็ขึ้นมาเรื่อย ๆ ผมต้องพัฒนาตัวเองให้หนีเขาไปให้ได้ และผมต้องการประสบความสำเร็จกับสิงห์เชียงรายและทีมชาติไทย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »