โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกชาวอียิปต์งัดฟอร์มสุดยอดพังประตูที่ 4 ใน 5 เกม หลังล่าสุดบุกไปปราบเจ้าถิ่น "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค แชมป์จากเยอรมันคา อัลลิอันซ์ อารีน่า 3-0 ในเกมออดี้ คัพ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อป ตบเท้าผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ พบกับ แอตเลติโก มาดริด ในคืนวันพุธนี้

Bayern Munich 0 - 3 Liverpool 

ฟุตบอลออดี้ คัพ 2017 รอบรองชนะเลิศ

วันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2560

บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 0 - ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 3

สนาม: อัลลิอันซ์ อารีน่า, (มิวนิค, เยอรมัน)

    ''เสือใต้'' บาเยิร์น มิวนิคยอดทีมของเยอรมัน ส่ง โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ กับ ฮาเมส โรดริเกซ สองผู้เล่นใหม่ลงเล่นในอัลลิอันซ์ อารีน่าเป็นนัดแรก

    แนวรับได้ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ คุมแผงหลัง ส่วนแดนกลางวาง ติอาโก้ อัลกันตาร่า, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ และ โธมัส มุลเลอร์ กัปตันทีมลงทำเกม

    สามประสานแดนหน้าอันตรายทีเดียวมีทั้ง ฮาเมส โรดริเกซ, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ ฟร้องค์ ริเบรี่

    ทางด้าน ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สวมชุดเยือนใหม่สีขาว-เขียว ของฤดูกาล 2017-18 ลงสนามเป็นครั้งแรกในเกมเผชิญหน้ากับบาเยิร์น มิวนิคในออดี้ คัพ

    ตำแหน่งผู้รักษาประตูให้ ลอริส คาริอุส นายทวารวัย 24 ปี ชาวเยอรมันลงมาเฝ้าเสา ส่วนแนวรับใช้งาน โฌแอล มาติป กับ เดยัน ลอฟเรน ยืนเป็นคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ

    สำหรับแดนกลางวาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม), เอ็มเร่ ชาน และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงทำเกมสนับสนุนสามประสานแดนหน้าทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เข้าทำประตู โดยก่อนเริ่มเกมมีฝนตกลงมาด้วย 

    ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้แค่ 7 นาทีหงส์แดงชิงขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ วางบอลยาวให้กับ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงด้วยซ้ายผ่านการป้องกันของ สเวน อูลไรช์ นายทวารบาเยิร์น มิวนิคเสียบเสาไกลเข้าไป

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 20 บาเยิร์นได้โอกาสจากจังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ ได้ยิงบริเวณริมกรอบเขตโทษแต่ไม่เข้ากรอบ โดยนาทีเดียวกันนั้นเสือใต้จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วให้ เรนาโต้ ซานเชส ลงมาเล่นแทน

    ห้านาทีต่อมาหงส์แดงได้โอกาสอีกครั้ง อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ปั่นฟรีคิกโค้งเข้ากรอบ แต่ สเวน อูลไรช์ นายทวารบาเยิร์น มิวนิคปัดออกมาได้ทัน

    ผ่านมา 35 นาที ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0 เมื่อมาเน่ไขว้หลังส่งให้กับ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ สอดมาเปิดจากกราบซ้ายไปแฉลบผู้เล่นของบาเยิร์น เล่นเอา สเวน อูลไรช์ นายทวารบาเยิร์นต้องออกแรงปัดออกมา ทว่าบอลมาเข้าทางของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกชาวอียิปต์โหม่งจ่อๆ เข้าประตูไป

    ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียวหงส์แดงได้ฟรีคิกทางด้านขวา เมื่อ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ปั่นโค้งด้วยขวาบอลเฉี่ยวเสาไกลออกไป หมดครึ่งแรกลิเวอร์พูลบุกมานำก่อน 2-0

    กลับมาเล่นครึ่งหลังเกมผ่านไปถึงนาที 68 เจอร์เก้น คล็อป เปลี่ยนตัวสำรองลงมาอีกหลายคน แล้วก็เป็น แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่เพิ่งลงมาได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบโทษด้านซ้ายก้อนซัดหลุดเสาไกลออกไปไม่เยอะ

    ต่อจากนั้นนาที 72 หงส์แดงส่งบอลเข้าประตูจากจังหวะที่ ไรอัน เคนท์ ลากบอลหลุดเข้าไปสุดเส้นด้านซ้ายหลบ ราฟินญ่าก่อนตบกลับให้ มาร์โก กรูยิช แปชนเสาเข้าไปแต่ผู้กำกับเส้นยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า อดัม ลัลลาน่า ก่อน

    ก่อนจบเกม 7 นาทีลิเวอร์พูลมาได้ประตูตอกฝาโลงจากจังหวะที่เบน วู้ดเบิร์น แทงบอลจากกลางสนามให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ หลุดไปชิพข้ามหัว สเวน อูลไรช์ เข้าไปอย่างเหนือชั้น

    ช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมครบ 90 นาที ลิเวอร์พูลบุกมาชนะบาเยิร์น มิวนิค 3-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ แอตเลติโก มาดริด ที่พลิกแซงเอาชนะ นาโปลี 2-1 ส่วนเจ้าภาพ "เสือใต้" ไปชิงอันดับ 3 กับ นาโปลี ในคืนวันพุธนี้

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    บาเยิร์น มิวนิค: สเวน อูลไรช์ - ราฟินญ่า, ฆาบี มาร์ติเนซ, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - ติอาโก้ อัลกันตาร่า, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, โธมัส มุลเลอร์ (กัปตันทีม) - ฮาเมส โรดริเกซ, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ฟร้องค์ ริเบรี่

    ลิเวอร์พูล: ลอริส คาริอุส - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม), เอ็มเร่ ชาน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่