ตลาดนักเตะ ปิดฉากไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับพรีเมียร์ลีก จากนี้ไป ทุกทีมต้องยึดผู้เล่นชุดนี้ จนกว่าจะถึงเดือนมกราคม

เราไปเช็กดูกันดีกว่า ว่า 6 ทีมใหญ่ เต็ง 1-6 ในซีซั่นนี้ พวกเขามีตลาดที่น่าพอใจหรือไม่ ใครซื้อขายเข้าเป้า และสโมสรใดที่แฟนๆต้องกุมขมับ

เจาะท็อป 6 พรีเมียร์ลีก ตลาดซื้อขายครั้งนี้ ใครรุ่ง-ใครเละ

เชลซี - เละ

ตลาดครั้งนี้ ถือเป็นความพ่ายแพ้อย่างแท้จริงของเชลซี พวกเขาเดินเกมได้ไม่ดีเอามากๆ และอาจส่งผลเสียต่อทั้งฤดูกาลแน่นอน

พวกเขาปล่อยเนมานย่า มาติช กลางรับระดับท็อปๆของยุโรป ที่อยู่ในวัยกำลังพีก ให้แมนฯยูไนเต็ดคู่แข่งสำคัญ ด้วยราคา 40 ล้านปอนด์ แต่ดันไปซื้อ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ จากเลสเตอร์ในราคา 35 ล้านปอนด์ คือทีมแทบไม่ได้ยกระดับขึ้นเลย

เป้าหมายแต่ละตัวที่เล็งไว้ก็วืด ทั้งโรเมลู ลูกากู ที่ต้องไปซื้อ อัลบาโร่ โมราต้ามาแทน รวมถึง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ได้เจรจาเป็นทีมแรก แต่ดีลกลับล้มเหลว

นักเตะใหม่ อย่างติเอมูเอ้ บากาโยโก้ ก็มีคำถามว่า จ่ายแพงเกิน 40 ล้านขนาดนั้น มันแพงไปหรือไม่

แถมยังมีปัญหากับดีเอโก้ คอสต้า ที่สุดท้ายค้างเติ่งอย่างนั้น ลงเล่นก็ไม่ได้ ขายก็ไม่ได้ กลายเป็นสินทรัพย์ที่เสื่อมมูลค่าไปเรื่อยๆ

เชลซี จะประคับประคองตัวได้ ด้วยทีมที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่า ทีมแข็งแกร่งขึ้นกว่าปีที่แล้วหรือไม่ คำตอบคือ ไม่

เจาะท็อป 6 พรีเมียร์ลีก ตลาดซื้อขายครั้งนี้ ใครรุ่ง-ใครเละ

สเปอร์ส - เละ

ในขณะที่ทีมอื่นๆ เดินหน้าซื้อผู้เล่นกันหนักหน่วง แต่ทีมลุ้นแชมป์อย่างสเปอร์ส ขยับตัวช้ามาก

พวกเขาเริ่มจากการปล่อยนักเตะตัวหลักอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ ให้กับคู่แข่งแย่งแชมป์โดยตรง ซิตี้ จากนั้นก็โละ เฟเดริโก้ ฟาซิโอ ,คลินตัน เอ็นชีเย่ และ เควิน วิมเมอร์ ทั้งหมดทุกคนได้เงินก้อนมาราวๆ 77 ล้านปอนด์

สเปอร์ส เอาไปเล่นแร่แปรธาตุ ได้ตัว เดวิดสัน ซานเชซ จากอาแจ๊กซ์ในราคา 42 ล้านปอนด์ คำถามคือ จะเล่นแทนใคร ในเมือแฟร์ต็องเก้น กับ อัลเดอร์ไวเรลด์ยังเข้าขากันดี แต่ราคาขนาดนี้ จะซื้อมาสำรองก็คงยาก

คนอื่นๆ ดูเหมือนเป็นการแพนิค บาย ทั้งสิ้น คีอมาซื้อเอาในช่วง 48 ชม.สุดท้าย อย่างเฟร์นันโด ยอร์เรนเต้ ที่อายุก็ 32 แล้ว รวมถึง แซร์ช โอริเย่ร์ ที่มีชื่อเสียงเรื่องวินัยย่ำแย่ ตั้งแต่อยู่เปแอสเช

รวมแล้วหักลบกัน สเปอร์ส ใช้เงินซื้อ มากกว่าเงินจากการขายแค่ไม่ถึง 20 ล้านปอนด์ แถมตัวที่เข้ามา ก็ยังมีคำถามเยอะ ว่าจะยกระดับทีมได้จริงหรือไม่

เจาะท็อป 6 พรีเมียร์ลีก ตลาดซื้อขายครั้งนี้ ใครรุ่ง-ใครเละ

แมนฯ ซิตี้ - รุ่ง

เรือใบสีฟ้า ยอมจ่ายเงินหนัก ในแต่ละดีล แต่ก็แลกมากับผู้เล่นที่มีคุณภาพ พวกเขาไม่ต้องต่อรองมาก พร้อมจ่ายทันที

แมนฯ ซิตี้ ได้ตัวนักเตะท็อปๆมา 5 คน คือ ดานิโล่ ,เบนฌาแม็ง เมนดี้, เบนาร์โด้ ซิลวา, เอดูอาร์โด้ และ ไคล์ วอล์คเกอร์ แต่ละคนสามารถเป็นตัวจริง ได้ทันที นี่ไม่ใช่การซื้อมาเพื่อเป็นอะไหล่  แถมแต่ละคนพิสูจน์ตัวเองกับต้นสังกัดหมดแล้ว

ตัวที่ปล่อยไป ไม่มีตัวหลักเลย เป็นกลุ่มที่อายุเยอะ และไม่ได้ใช้งานแล้วทั้งนั้น เช่น กาบาเยโร่ , กลิชี่ , โคลารอฟ,ซาบาเลต้า , โบนี่ หรือ นาสรี่ เป็นต้น ไม่มีผลกระทบอะไรกับทีมนัก

แมนฯซิตี้ ปิดตลาดเร็วกว่าใครเพื่อน ปิดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. จริงๆถ้าได้อเล็กซิส ซานเชซ มาอีกคน จะเป็นตลาดที่เพอร์เฟ็กต์มากๆ แต่ถึงไม่ได้ ทีมก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่

เจาะท็อป 6 พรีเมียร์ลีก ตลาดซื้อขายครั้งนี้ ใครรุ่ง-ใครเละ

ลิเวอร์พูล - รุ่ง

ลิเวอร์พูล มีตลาดที่ดีมาก ในช่วงซัมเมอร์นี้ พวกเขาได้นักเตะ 4 คนไปเสริมทัพ ได้แก่ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ,โดมินิค โซลันกี้ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เบน แต่ละคนถือว่ามีดีกรีในระดับใช้ได้

ส่วนผู้เล่นที่ปล่อยไปแต่ละคน ก็ได้ราคาดีมาก ลูคัส อายุ 30 ยังขายได้ 5 ล้านปอนด์ เช่นเดียวกับ เควิน สจ๊วร์ต ที่ไม่ค่อยได้ใช้ ยังขายได้ 4 ล้านปอนด์ ขณะที่มามาดู ซาโก้ ก็ปฏิเสธข้อเสนอของพาเลซถึง 3 ครั้ง ก่อนจะมายอมรับที่ตัวเลข 26 ล้านปอนด์ ซึ่งทำกำไร จากตอนซื้อมาถึง 9 ล้านปอนด์

ขณะที่กลุ่มดาวรุ่ง ก็มีการปล่อยให้ยืมตัว ทั้งดิว็อค โอริกี้ และไรอัน เคนท์ ปล่อยชั่วคราวเพื่อไปเก็บประสบการณ์กับทีมอื่น

นอกจากนี้ พวกเขา มีสิทธิเก็บคูตินโญ่ เอาไว้กับทีมได้ในฤดูกาลหน้า ซึ่งปี 2018 จะเป็นปีฟุตบอลโลก ดังนั้น ต่อให้คูตี้อยากไปบาร์ซ่า เขาก็จะต้องกลับมาตั้งใจเล่นให้ลิเวอร์พูลอยู่ดี เพื่อโอกาสไปบอลโลกรอบสุดท้าย

จุดด้อยอย่างเดียวของหงส์ คือ พวกเขาพลาดได้ตัว เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ทำให้เซ็นเตอร์แบ็กของทีม ดูจะไม่แข็งแกร่งมากนัก อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม  ลิเวอร์พูลทำได้ดีมากในตลาดครั้งนี้

เจาะท็อป 6 พรีเมียร์ลีก ตลาดซื้อขายครั้งนี้ ใครรุ่ง-ใครเละ

อาร์เซน่อล - เละ

ทีมปืนใหญ่ ค้นพบหายนะอย่างแท้จริง ในตลาดนักเตะครั้งนี้ อย่างแรกคือพวกเขา ขายอเล็กซ์  อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ให้กับคู่แข่งโดยตรงอย่งลิเวอร์พูล  นักเตะปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่ แม้ปืนใหญ่จะยอมจ่ายมากกว่าลิเวอร์พูล สูงลิบ  นอกจากนั้น ยังเสีย กาเบรียล เปาลิสต้า ให้บาเลนเซีย ,เสีย คีแรน กิ๊บส์ ไปเวสต์บรอมฯ

ส่วนตัวที่ซื้อมา ได้แค่ 2 คนเท่านั้น คนแรกคือเซอัด โคลาซินัช เซ็นฟรีๆจากชาลเก้ อีกหนึ่งรายคือ อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ จากลียง ราคา ประมาณ 46.5 ล้านปอนด์ (แต่ทั้งคู่ เกมกับลิเวอร์พูลนัดล่าสุดก็ไม่ได้ลง)

พวกเขาอาจโชคดีที่เก็บอเล็กซิส ซานเชซ เอาไว้ได้ แต่นั่นก็แค่เสมอตัวเท่านั้น เพราะแปลว่าทีมไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นเลย เพียงแต่แค่ประคองชุดเดิมเอาไว้ แค่นั้นเอง

นักเตะที่เหมือนจะทุ่มหนักๆอย่างโตมัส เลอมาร์ ของ โมนาโก สุดท้าย ก็ทำเป็นว่าจะซื้อ แล้วก็ไม่ซื้อดีลล้มเหลวอีกครั้ง

รวมๆแล้ว ปืนใหญ่มีตลาดที่แย่มาก ยิ่งฟอร์มในลีกก็แย่ขนาดนี้ น่าคิดว่า พวกเขา จะไม่ยอมทำให้ทีมแข็งแกร่งกว่านี้หรืออย่างไร

เจาะท็อป 6 พรีเมียร์ลีก ตลาดซื้อขายครั้งนี้ ใครรุ่ง-ใครเละ

แมนฯยูไนเต็ด - รุ่ง

เป็นตลาดซื้อขายที่ยอดเยี่ยมมาก ของปีศาจแดง พวกเขายอมจ่ายเงินหนักๆ แต่ก็แลกมากับนักเตะคุณภาพ ที่พร้อมเป็นตัวจริงได้เลย

โรเมลู ลูกากู ยอมจ่าย 75 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มออปชั่นสูงเป็น 90 ล้านปอนด์ แต่ก็ตอบแทนด้วยการยิงประตูต่อเนื่อง เช่นเดียวกับเนมานย่า มาติช ราคา 40 ล้าน ทำให้แดนกลางทีมมีความสมดุลอย่างน่ากลัว

อิบราฮิโมวิช ทีมเซ็นคัมแบ็กกลับสู่ทีมอีกครั้งแบบไม่มีค่าตัว ซึ่งถ้าซลาตันฟิตเต็มร้อย ปีศาจแดงจะมีแนวรุกที่หลากหลายมากๆ ขณะที่วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ก็อาจไม่พร้อมเป็นตัวจริง แต่ถ้าปรับตัวได้ ก็อาจลุ้นแย่งตำแหน่งได้เหมือนกัน

ขณะที่ ตัวผู้เล่นที่เสียไป ก็เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้ใช้นัก อย่างเวย์น รูนี่ย์ ที่เป็นสำรองตลอด รวมถึง กุยเยอร์โม่ บาเลร่า, อัดนาน ยานาไซ รวมถึง จอช แฮร์รอป ดาวรุ่งจากซีซั่นก่อน

แมนฯยูไนเต็ด ซื้อตัวไม่มาก แต่เอาของดีไปเลย ผลงานในลีกตอนนี้พิสูจน์ทุกอย่างได้ดีอยู่แล้ว ว่าตลาดครั้งนี้ พวกเขาทำได้ดีมาก แถมไม่ต้องไปดิ้นรนในวันเดดไลน์ด้วยซ้ำ