ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » ราชันบู่ไม่หาย! "อัลลี่" ซัด2ตุงนำไก่ถลุงแชมป์เก่าหมดสภาพ 3-1 ลิ่ว16ทีม

ราชันบู่ไม่หาย! "อัลลี่" ซัด2ตุงนำไก่ถลุงแชมป์เก่าหมดสภาพ 3-1 ลิ่ว16ทีม

Posted 02/11/2017 by siamsport

    แชมป์เก่า เรอัล มาดริด ฟอร์มยังแย่ไม่เลิกหลังล่าสุดบุกมาโดน "ไก่เดือยทอง" ไล่ถลุงยับเยิน 3-1 เดเล่ อัลลี่ เหมาสองประตูให้เจ้าถิ่น แม้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะซัดตีไข่แตกขึ้นนำดาวซัลโวยูซีแอล แต่ไม่อาจช่วยทีมได้ ส่งผลให้สเปอร์ส ยังไร้พ่ายมีเพิ่ม 10 คะแนน การันตีเข้ารอบ16ทีมสำเร็จ ส่วน "ราชันชุดขาว" มี 7 แต้ม ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอช เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอช
วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2560
สเปอร์ส (อังกฤษ) 3 - เรอัล มาดริด (สเปน) 1

สนาม: เวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม, (ลอนดอน, อังกฤษ)

     เปิดเกมครึ่งแรกมาได้ 11 นาที ไก่เดือยทอง ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ แฮร์รี่ เคน หลุดไปทางกรอบเขตโทษด้านขวา ตัดสินใจชิปด้วยขวา แต่ กีโก้ กาซีย่า นายทวารของเรอัล มาดริด รับเอาไว้ได้สบาย

    สองนาทีต่อมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง แฮร์รี่ เคน เปิดมาให้กับ คีแรน ทริปเปียร์ ตวัดวอลเลย์ด้วยขวาทันที เดเล่ อัลลี่ เข้าชาร์จไม่ถึง บอลผ่านหน้าปากประตูออกไป

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 20 สเปอร์ส ได้ลุ้นต่อเนื่อง มาร์เซโล่ สกัดบอลไม่ดี บอลย้อนไปในกรอบเขตโทษตัวเองเข้าทาง แฮร์รี่ วิงค์ส กองกลางเจ้าบ้านหวดจังหวะแรกวืด ก่อนจะพาบอลกระชากหลบ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังของราชันชุดขาว
เข้าไปกดด้วยขวามุมแคบติดเซฟของ กีโก้ กาซีย่า นายทวารเรอัล มาดริด

    ถัดมาสี่นาที ไก่เดือยทอง จำเป็นต้องเปลี่ยน โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ กองหลังทีมชาติเบลเยี่ยม ที่มีอาการบาดเจ็บออกมาแล้วส่ง มุสซ่า ซิสโซโก้ ลงมาเล่นแทน พร้อมกับมีการปรับเอา เอริค ดายเออร์ ถอยจากแดนกลางมายืนช่วยเกมรับ

    ผ่านมา 27 นาที สเปอร์ส มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ แฮร์รี่ วิงค์ส วางบอลข้ามมาให้ คีแรน ทริปเปียร์ ตวัดจากกราบขวาแบบไม่จับ เข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เดเล่ อัลลี่ สอดมาชาร์จจ่อๆด้วยขวาเข้าประตูไป

    จากนั้นนาทีที่ 32 โอกาสของเรอัล มาดริด บ้าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไขว้หลอก คีแรน ทริปเปียร์ ก่อนลากไปสับด้วยซ้ายมุมแคบทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ทว่า อูโก้ โยริส นายทวารของสเปอร์ส ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน

    สี่นาทีต่อมา คลับไก่ มาอีกครั้ง เดเล่ อัลลี่ เปิดบอลให้กับ แฮร์รี่ เคน วอลเลย์ด้วยซ้ายจากทางกรอบโทษด้านซ้ายบอลตรงตัวของ กีโก้ กาซีย่า นายทวารทีมเยือน

    ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที ราชันชุดขาว ลุยขึ้นมาทาง อัคราฟ ฮาคิมี่ ผ่านจากกราบขวาให้ คาริม เบนเซม่า กดด้วยขวาจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ไม่ผ่านมือของ อูโก้ โยริส นายทวารของเจ้าบ้าน หมดครึ่งแรก สเปอร์ส นำก่อน 1-0

    กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง สเปอร์ส มาได้ประตูนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ เอริค ดายเออร์ เปิดบอลจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้กับ เดเล่ อัลลี่ จับแล้วกระชากขึ้นมา ง้างเท้าหลอก คาเซมีโร่ จนทิ้งตัวขวาง ก่อน อัลลี่ จะแตะบอลเข้าเขตโทษ แล้วตะบันด้วยขวาบอลแฉลบตัวของ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังกัปตันทีมของราชันชุดขาว เข้าประตูไป และเป็นประตูที่สองของ อัลลี่ ในเกมนี้

    เรอัล มาดริด อยู่ไม่ได้แล้ว เปิดเกมรุกกลับทันที มีโอกาสในนาทีที่ 62 เมื่อได้ลูกเตะมุมเปิดมาถึง นาโช่ ยิงจังหวะแรกติด คีแรน ทริปเปียร์ ผู้เล่นของสเปอร์ส สกัดจากเส้นประตู บอลมาเข้าทาง รามอส ยิงซ้ำจ่อๆ ไปติดตัวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพื่อนร่วมทีม อย่สงน่าเสียดาย

    สามนาทีต่อมา ไก่เดือยทอง นำขาด 3-0 แล้วจากจังหวะโต้กลับเร็วขึ้นมา แฮร์รี่ เคน เปิดจากกราบขวาเข้ากลางให้ คริสเตียน เอริคเซ่น สอดขึ้นมาแล้วยิงด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษบอลผ่านตัวของ กีโก้ กาซีย่า นายทวารเรอัล มาดริด เข้าประตูไป

     กระเถิบมานาทีที่ 74 เรอัล มาดริด เปลี่ยนผู้เล่นรวดเดียวสองรายให้ มาร์โก อาเซนซีโอ กับ บอร์ฆา มาโยราล ลงเล่นแทน เบนเซม่า กับ อีสโก้ ตามลำดับ

    สี่นาทีต่อมา สเปอร์ส น่าจะได้ประตูที่สี่ เมื่อ คีแรน ทริปเปียร์ โยนจากกราบขวาเข้ากลางให้ เดเล่ อัลลี่ โหม่งคนเดียวจ่อๆ แต่โดนไม่เต็ม บอลหลุดเสาซ้ายไปอย่างน่าเสียดาย 

    อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด ไล่มา 1-3 ในนาทีที่ 80 เมื่อ มาร์เซโล่ ตวัดบอลจากสุดเส้นหลังด้านซ้ายเข้ากลาง บอร์ฆา มาโยราล พยายามจะโหม่ง บอลมาตกตรงหน้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดด้วยขวาจากระยะแค่ 7 หลา บอลแฉลบ เอริค ดายเออร์ ผู้เล่นของสเปอร์ส เข้าประตูไป นับเป็นประตูที่ 6 ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในแชมเปี้นส์ ลีก ซีซั่นนี้

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม สเปอร์ส เปิดบ้านทุบ เรอัล มาดริด ไปได้สวยงาม 3-1 เก็บสามแต้มล้ำค่า ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเอช พร้อมกับตีตั๋วผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
   
    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
   
    สเปอร์ส: อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) -โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ (มุสซ่า ซิสโซโก้ น.24), ดาวินซอน ซานเชซ, ยาน แฟร์ต็องเก้น - คีแรน ทริปเปียร์, เอริค ดายเออร์, แฮร์รี่ วิงค์ส ( มูซ่า เด็มเบเล่ น.66), เบน เดวิส - เดเล่ อัลลี่, คริสเตียน เอริคเซ่น - แฮร์รี่ เคน (เฟร์นานโด ยอเรนเต้ น.79)

    สำรองไม่ได้ใช้: มิเชล ฟอร์ม (ผู้รักษาประตู) - แดนนี่ โรส, แซร์ช โอริเย่ร์, ซน ฮึง-มิน

    เรอัล มาดริด: กีโก้ กาซีย่า - อัคราฟ ฮาคิมี่, นาโช่ เฟร์นานเดซ, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - โทนี่ โครส, คาเซมีโร่, ลูก้า โมดริช (เตโอ แอร์กน็องเดซ น.81) - อีสโก้ (บอร์ฆา มาโยราล น.74) - คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า (มาร์โก อาเซนซีโอ น.74) 

    สำรองไม่ได้ใช้: โมฮา รามอส (ผู้รักษาประตู) - เฆซุส บาเยโฆ่, ดาเนียล เซบาโยส, ลูกัส บาซเกซ

    ผู้ตัดสิน: คูเนย์ต ชาคีร์ (ตุรกี)

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »