"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องออกแรงเหนื่อยเหมือนกันกว่าจะซิวชัยเหนือ "นกนางนวล" ไบรท์ตัน ไปได้หวุดหวิด 1-0 เก็บสามแต้มแถมเพิ่มสถิติซิวชัยในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดติดต่อกันนัดที่ 7 รั้งรองจ่าฝูง ไล่จี้ "เรือใบ" ที่มีคิวแข่งวันพรุ่งนี้เหลือแค่ 5 คะแนน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560
แมนฯ ยูไนเต็ด 1 - ไบรท์ตัน 0

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    โชเซ่ มูรินโญ่ ใช้ทีมเดิมที่เอาชนะนิวคาสเซิ่ล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมี ปอล ป็อกบา ลงตัวจริงต่อเนื่อง ส่วนไบรท์ตัน ของ คริส ฮิวจ์ตัน เปลี่ยนคนเดียว ให้ ซอลลี่ มาร์ช แทน โฮเซ่ อิซกีเอร์โด้

    แค่ 2 นาทีแรก เจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นก่อน โรเมลู ลูกากู ทำชิ่งกับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล แต่หัวหอกเบลเยี่ยมซัดข้ามคานไปไกล ส่วนทีมเยือนก็ได้โอกาสจากจังหวะทะลุของ อองโตนี่ น็อคการ์ต แต่ยิงถากเสาไกลออกหลัง

    ไบรท์ตันเน้นรับแล้วรอโต้กลับ จากความเร็วของ น็อคการ์ต ทางริมเส้นด้านขวา แถมมีจังหวะจบในนาทีที่ 11 บรูโน่ เติมทางขวา ก่อนหักมาให้ ปาสกาล โกรสส์ กดด้วยขวาจากนอกเขตตรงตัว ดาบิด เด เคอา

    แผงหลังของ "เจ้านางนวล" ยังทำหน้าที่ได้ดี จากการบัญชาการของ เชน ดัฟฟี่ กับลูอิส ดังค์ ทำให้เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกแบบไร้สกอร์

    นาทีที่ 35 อันโตนิโอ วาเลนเซีย หนุนเกมขึ้นทางขวา ก่อนตักข้ามฟากไปที่เสาไกล ลูกากู เจอประกบเลยโหม่งไม่ถนัด บอลหลุดออกหลังอีกครั้ง

    เจ้าถิ่นเน้นเกมรุกและน่าได้ประตูขึ้นนำตอนท้ายครึ่งแรก มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดจากปีกขวาเข้าหัวลูกากู โขกจ่อๆ ติด แมต ไรอัน เซฟบนเส้น ป็อกบา ตามชาร์จก็ไม่ผ่านนายทวารออสซี่อีก

    หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

    ''เจ้านางนวล'' เริ่มครึ่งหลังได้ดี โกรสส์ ล็อกหลบทางขวาก่อนเปิดเข้ากลาง แต่ เกล็น เมอร์เร่ย์ ชาร์จไม่ทันรอดขาผ่านหน้าประตูไป

    เกมรุกของปีศาจแดงยังเจอรถบัสสองชั้นเหมือนเดิม แอชลี่ย์ ยัง หันมาลองยิงไกลแต่ไม่เข้ากรอบ ในนาทีที่ 50

    5 นาทีต่อมา ไบรท์ตันมีปัญหา เมื่อ น็อคการ์ต ปั๊มบอลกับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ล้มไปลงนอนเจ็บข้อเท้า แต่ยังเล่นต่อได้ ก่อนเมอร์เร่ย์จะโดนใบเหลืองคนแรกของเกม เพราะไปหวดป็อกบาในจังหวะขาด

    เข้าหนึ่งชั่วโมงเต็มมูรินโญ่เริ่มสั่งตัวสำรองไปวอร์ม ก่อนเปลี่ยน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ลงมาแทนมาต้า

    นาทีที่ 65 เจ้าถิ่นได้ประตูนำ 1-0 แบบมีโชค แรชฟอร์ด เตะมุมจากทางขวาโดนโขกสกัดออกมา แอชลี่ย์ ยัง เก็บตกก่อนหวดสวนด้วยซ้าย บอลโดนปลายเกือกของดังค์ที่พุ่งมาบล็อกเปลี่ยนทางโค้งเสียบสามเหลี่ยมพอดี

    มูรินโญ่ส่งสำรองคนที่สองในช่วง 20 นาทีท้าย เฮนริค มคิทาร์ยาน แทนมาร์กซิยาลก่อนที่ไบรท์ตันได้ลุ้นจากจังหวะโต้ดังค์เติมขึ้นไปยิงในเขตติดบล็อก

    หมดเวลา แมนฯ ยูฯ เฉือนชนะหวุดหวิด 1-0

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    แมนฯ ยูฯ (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, คริส สมอลลิ่ง, แอชลี่ย์ ยัง, ปอล ป็อกบา, เนมานย่า มาติช, มาร์คัส แรชฟอร์ด (มารูยาน เฟลไลนี่ น. 80), ฆวน มาตา (ซลาตัน อบราฮิโมวิช น. 62), อองโตนี่ มาร์กซิยาล (เฮนริค มคิทาร์ยาน น. 71), โรเมลู ลูกากู

    สำรอง : มาร์กอส โรโฮ, เซร์คิโอ โรเมโร่, อันเดร์ เอร์เรร่า,  สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

    ไบรท์ตัน (4-4-1-1) : แมต ไรอัน, บรูโน่, เชน ดัฟฟี่, ลูอิส ดังค์, เกตาน บงก์, อองโตนี่ น็อคการ์ต, เดล สตีเฟ่นส์, ดาวี่ ปร็อปเปอร์, ซอลลี่ มาร์ช (โฮเซ่ อิซกีเอร์โด้ น. 75), ปาสกาล โกรสส์ (อิไซอาห์ บราวน์ น. 88), เกล็น เมอร์เร่ย์ (โตเมอร์ เฮเหม็ด น. 74)

    สำรอง : บีรัม คายาล, คอนเนอร์ โกลด์สัน, เอเซกีล ชเคล็อตโต้, ทิม ครูล

    ใบเหลือง : เมอร์เร่ย์, ดัฟฟี่

    ผู้ตัดสิน : นีล ชวาร์บริค