"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ฟอร์มในรังยังยอดเยี่ยมไม่แพ้ทีมใด หลังกลับมาซิวชัยหนแรกในรอบ4นัดด้วยการไล่ถล่ม "หงส์ขาว" สวอนซี ทีมบ๊วยของตารางไปอย่างขาดลอย 5-0 นัดนี้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เหมาคนเดียวสองประตูช่วยพาทีมซิวสามแต้มแซง "ไก่เดือยทอง" ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกกษ นัดบ็อกซิ่งเดย์ คืนวันอังคารที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 26 ธันวาคม 2560
ลิเวอร์พูล 5 - สวอนซี 0

สนาม : แอนฟิลด์ (ลิเวอร์พูล)

    ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล ต้องขาด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางตัวกลั่นที่มีอาการบาดเจ็บจากเกมล่าสุด เลยต้องใช้งาน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงมาทำเกมร่วมกับ เอ็มเร่ ชาน และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุมสามประสานแดนหน้าส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงกะซวกตาข่าย

    ทางด้าน ''หงส์ขาว'' สวอนซี ทีมบ๊วยของตารางคะแนนที่ปลด พอล คลีเมนต์ ออกจากตำแหน่ง หลังทำผลงานย่ำแย่ โดยให้ ลีออน บริตตัน รักษาการคุมทีม ได้ ลีรอย เฟอร์ กับ เวย์น เราท์เล็ดจ์ หายเจ็บกลับมาทำเกมช่วยทีม โดยวาง โอลิเวอร์
แม็คเบอร์นี่ ยืนเป็นหอกเป้า 

    ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้แค่ 6 นาที หงส์แดงขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตัดบอลได้ก่อนเปิดขึ้นหน้าให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ชิ่งต่อเร็วให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จับแล้วปั่นด้วยขวาจากหน้ากรอบเขตโทษบอลโค้งเลี้ยวเสียบ
ตาข่ายงามหยด ช่วยให้ลิเวอร์พูลนำเร็ว 1-0 และเป็นประตูที่ 7 ของคูตินโญ่ในลีกซีซั่นนี้

    ผ่านมา 20 นาที สวอนซีตั้งเกมได้แล้วมีลุ้นบ้าง เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ ปราการหลังชาวอาร์เจนไตน์ จ่ายให้กับ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ กองหน้าวัย 21 ปี ชาวสกอตแลนด์ หวดด้วยขวา แต่ไม่ผ่านมือของ ซิมง มิโญเล่ต์ นายทวารลิเวอร์พูล

    สามนาทีต่อมา หงส์แดงบุกมาทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เปิดต่อให้กับ เอ็มเร่ ชาน ตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษ ไม่ผ่านมือของ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ นายทวารสวอนซี

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 31 เจ้าถิ่นได้โอกาสอีก คูตินโญ่จ่ายให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ วางเท้ากดด้วยขวาจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งวาบเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

    ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+1 หงส์แดงน่าจะได้ประตูเพิ่ม เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายเร็วขึ้นหน้าให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ล็อกหนีกองหลัง ก่อนแต่งแล้วยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลหลุดเสาแรกไปนิดเดียวเท่านั้น หมดครึ่งแรก ลิ
เวอร์พูลเลยนำอยู่แค่ 1-0
   
    มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้แค่ 4 นาที สวอนซี ได้โอกาสก่อนจากจังหวะที่ ทอม แคร์โรลล์ จ่ายให้กับ จอร์แดน อายิว กดด้วยขวาจากนอกเขตโทษติดเซฟของ ซิมง มิโญเล่ต์

    อย่างไรก็ตาม หงส์แดง มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เปิดฟรีคิกจากทางด้านซ้ายข้ามไปเสาสองให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าชาวบราซิล เพื่อนร่วมชาติ สอดมาแปด้วยขวาจ่อๆ แค่ 6 หลาเข้าประตูไป ในนาทีที่ 52 และเป็นประตูที่ 8 ของฟีร์มีโน่ ในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

    กระเถิบมานาทีที่ 65 ลิเวอร์พูล นำขาด 3-0 เมื่อกองหลังของสวอนซี โหม่งสกัดออกมาเข้าทางของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาสอดขึ้นมาตะบันด้วยขวาจากในกรอบเขตโทษ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด

    ถัดมานาทีเดียว เจ้าถิ่นโต้เร็วขึ้นมาทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายจากกราบขวาเข้ากลางไปเสาสองให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตามมาแปด้วยขวาจ่อๆเข้ากลางประตูไปให้ลิเวอร์พูล นำกระจุย 4-0 และเป็นประตูที่ 9 ของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้แล้ว

    ท้ายเกมนาทีที่ 82 หงส์แดง ทิ้งห่าง 5-0 เมื่อ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ฉกบอลได้ในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนพักด้วยหน้าขาแล้วดีดด้วยขวาทันทีบอลย้อยเสียบสามเหลี่ยมซ้ายเข้าไปอย่างสุดงาม

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดรังถล่มสวอนซี ยับเยิน 5-0 เขยิบแซงกลับมารั้งอันดับ 4 ของตารางได้อีกครั้ง ส่วนสวอนซี ยังจมบ๊วยเหมือนเดิม

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, รักนาร์ คลาวาน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (เจมส์ มิลเนอร์ น.75) - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เอ็มเร่ ชาน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม -โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (อดัม ลัลลาน่า น.69), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (โดมินิก โซลันกี้ น.68), ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

    สำรองไม่ได้ใช้ : ลอริส คาริอุส (ผู้รักษาประตู) - เดยัน ลอฟเรน, โจ โกเมซ, ซาดิโอ มาเน่

    สวอนซี : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - ไคล์ นอตัน, เฟเดรีโก้ เฟร์นานเดซ, อัลฟี่ มอว์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน - โรเก้ เมซ่า (แซม คลูคาส น.66) - เวย์น เราท์เล็ดจ์, ลีรอย เฟอร์ (เรนาโต้ ซานเชส น.78), ทอม แคร์โรลล์, จอร์แดน อายิว - โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ (แทมมี่ อับราฮัม น.62)

    สำรองไม่ได้ใช้ : คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลด์ท (ผู้รักษาประตู) - ไมค์ ฟาน เดอร์ ฮูร์น, อังเคล รานเคล, เนธาน ดายเออร์

    ใบเหลือง : มาร์ติน โอลส์สัน น.56

    ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์