แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลุกปั้นนักเตะเยาวชน จนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชุดใหญ่มาแล้วมากมายในอดีต ทั้ง ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม, แกรี่ เนวิลส์ หรือ พอล สโคลส์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลุกปั้นนักเตะเยาวชน จนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชุดใหญ่มาแล้วมากมายในอดีต ทั้ง ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม, แกรี่ เนวิลส์ หรือ พอล สโคลส์

แน่นอนว่ามีหลายคนที่ประสบความสำเร็จกับสโมสรแห่งนี้ และก็มีอีกหลายคนที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ไม่อาจสอดแทรกอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้จนต้องแยกย้ายไปอยู่กับหลายทีมในพรีเมียร์ลีก

เรารวบรวม 7 นักเตะที่ย้ายออกไปแล้วทำผลงานได้ดีจนกลายเป็นตัวหลักให้กับต้นสังกัดจนถึงปัจจุบัน จะมีใครกันบ้างไปติดตามกัน..

โจชัว คิง (บอร์นมัธ)

กองหน้าชาวนอร์เวย์วัย 26 ปี ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งแต่สมัยเล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสร วาเลเรนก้า ในลีกบ้านเกิด ก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจมาร่วมทัพปีศาจแดงในปี 2008 ในวัย 16 ปี และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2009-10

อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามเพียงเกมเดียวเท่านั้นคือเกมลีกคัพกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน และถูกปล่อยยืมตัวให้กับหลายสโมสรทั้ง เปรสตัน, โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค, ฮัลล์ ซิตี้ และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตามลำดับ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บอร์นมัธ ในปี 2015 และกลายเป็นกำลังสัญของทีมจนถึงปัจจุบัน

ร็อบบี้ เบรดี้ (เบิร์นลีย์)

ปีกชาวไอร์แลนด์วัย 26 ปี ย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนของปีศาจแดงพร้อมกับ โจชัว คิง ในปี 2008 หลังโชว์ฟอร์มเข้าตาขณะที่ลงเล่นให้กับ เซนต์ เควินส์ บอยส์ ทีมในลีกบ้านเกิด และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2010

อย่างไรก็ตามเขาต้องรอคอยถึง 2 ปี กับการได้ลงประเดิมสนามเป็นเกมแรก โดยถูกส่งลงเล่นในนาทีที่ 86 ในเกมลีกที่ต้นสังกัดพบนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นเกมเดียวในโรงละครแห่งความฝัน ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ฮัลล์ ซิตี้, นอริช ซิตี้ และทำผลงานได้น่าประทับใจจน เบิร์นลีย์ จะดึงตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติสโมสร (13 ล้านปอนด์) ในปี 2017 และกลายเป็นตัวหลักของทีมในซีซั่นนี้

ไรอัน ชอว์ครอส (สโต๊ค ซิตี้)

เซ็นเตอร์ร่างยักษ์วัย 30 ปี เข้าสู่ทีมเยาวชนในปี 2002 ด้วยวัย 15 ปี และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2006

อย่างไรก็ตามเขาได้รับโอกาสลงสนามเพียง 2 นัดในเกมลีกคัพกับ ครูว์ อเล็กซานดร้า และ เซาธ์เอนด์ ยูไนเต็ด และถูกปล่อยยืมตัวให้กับ โรยัล อันท์เวิร์ป ในปี 2007 และ สโต๊ค ซิตี้ ก่อนจะโชว์ฟอร์มเยี่ยมเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ ลีก และถูกดึงตัวไปด้วยสัญญาซื้อขาดในปีถัดมา กลายเป็นกำสำคัญให้กับทีมจนถึงปัจจุบัน

มาเม่ บีรัม ดิยุฟ (สโต๊ค ซิตี้)

กองหน้าชาวเซเนกัลวัย 30 ปี โชว์ฟอร์มสุดยอดสมัยเล่นให้กับ โมลด์ ซัดไป 29 ประตู จาก 62 นัดในลีกนอร์เวย์ ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะดึงตัวไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 ก่อนจะยิงประตูแรกได้ต่อหน้าแฟนบอลในเกมที่เอาชนะ เบิร์นลีย์ 3-0 หลังลงมาแทน เวยน์ รูนีย์ นาทีที่ 74

อย่างไรก็ตามเจ้าตัวไม่ได้รับโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ หลังได้ลงเล่นเพียง 5 เกม จนถูกปล่อยยืมให้กับต้นสังกัดเก่า และแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตามลำดับ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ฮันโนเวอร์ ในปี 2012 ซึ่งสามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้อีกครั้งจากสถิติยิง 35 ประตู จากการลงสนาม 71 นัดทุกรายการ และถูกสโต๊ค ซิตี้ ดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2014

ฟิล บาร์ดสลี่ย์ (เบิร์นลีย์)

ฟูลแบ็กชาวสก็อตวัย 32 ปี ขึ้นจากทีมเยาวชนมาสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2003 และได้รับโอกาสลงสนามเพียง 2 นัดในเกมลีกคัพ และเอฟเอ คัพ ก่อนจะไปอยู่กับ โรยัล อันท์เวิร์ป ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และทำท่าว่าจะกลายเป็นอนาคตของทีม เมื่อในฤดูกาล 2005 เจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนาม 15 นัดทุกรายการ หลัง แกรี่ เนวิลล์ แบ็กขวาตัวหลักมีปัญหาอาการบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตามเมื่อ เนวิลล์ กลับมาเขาก็ไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอจนถูกปล่อยให้หลายสโมสรยืมตัว และย้ายไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ ในปี 2008-14, สโต๊ค ซิตี้  2014-17 และมาอยู่กับ เบิร์นลีย์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ (เชลซี)

มิดฟิลด์ชาวอังกฤษวัย 27 ปี เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ดในปี 2008 แต่ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเลยแม้แต่เกมเดียว โดยมีโอกาสใกล้เคียงที่สุดคือการมีชื่อในม้านั่งสำรองในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2008-09 ซึ่งตลอด 4 ปีที่อยู่ที่นี่เขาถูกปล่อยยืมให้กับบรรดาสโมสรในอังกฤษหลายทีม

อย่างไรก็ดีการย้ายไปสู่ เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2012 เขาจะกลายเป็นตัวหลัก และช่วยทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้ในปี 2015 และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดประวัติศาสตร์สโมสรที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกหลังเลื่อนชั้นขึ้นมาเพียงปีเดียวเท่านั้น และย้ายมาอยู่กับเชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

แดนนี่ ซิมพ์สัน (เลสเตอร์ ซิตี้)

แบ็กขวาชาวอังกฤษวัย 31 ปี เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ดในปี 2003 และขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2006 แต่ไม่อาจสอดแทรกลงสนามได้จนต้องถูกปล่อยให้หลายสโมสรยืมใช้งาน โดยมีโอกาสลงเล่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพียง 8 เกมทุกรายการในฤดูกาล 2007-08

อย่างไรก็ดีเขาสามารถแจ้งเกิดได้กับสโมสรใหม่อย่างนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ช่วยทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาล 2010 และย้ายมาเล่นกับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ในปี 2013-14 ก่อนจะถูกเลสเตอร์ ซิตี้ ดึงตัวไปใน 2014 และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดประวัติศาสตร์สโมสรที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเช่นเดียวกับ ดริงค์วอเตอร์ ในฤดูกาล 2015-16