ลิเวอร์พูล สิ้นสุดเส้นทางการไม่แพ้ใคร 18 นัดติดต่อกัน ด้วยการแพ้บ๊วยของลีก สวอนซี ซิตี้ 1-0 อย่างพลิกความคาดหมาย

คำถามคือมันเกิดอะไรขึ้น จากทีมที่เอาชนะได้แม้กระทั่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาพลิกล็อค แพ้ทีมอันดับ 20 ของตารางแบบนี้ สวอนซี ใช้กลยุทธ์ใดในการหยุดหงส์แดง

1) เล่นรถบัส

สวอนซี เกมนี้วางกองหลัง 5 คน และกองกลางอีก 4 คน ถอยลงมาอัดแน่น หน้าเขตโทษ 2 ชั้น จนทำให้ ลิเวอร์พูลไม่มีช่องในการเข้าทำ
เกมรุกของลิเวอร์พูล คือการเน้นสวนกลับเร็วเป็นหลัก แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมบุก ก็ไม่รู้จะสวนกลับอย่างไร การเล่นรถบัสเป็นการทำลายจุดแข็งของหงส์แดงอย่างสิ้นเชิง ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่สวอนซีที่ใช้แล้วได้ผล ทีมอย่างเอฟเวอร์ตัน หรือเวสต์บรอม ก็เก็บแต้มเสมอ ออกจากแอนฟิลด์ได้มาแล้ว ด้วยแผนรถบัส

2) อดทน แม้จะโดนโห่

การเล่นในบ้านตัวเอง แต่ไม่ยอมบุก นั่นทำให้ ย่อมมีแฟนตัวเองไม่พอใจแน่ๆ ขณะที่แฟนทีมเยือน ก็คงโห่ใส่ตลอดเกมเช่นกัน แต่ ถ้าอยากชนะลิเวอร์พูล ก็จำเป็นต้องอดทน ต่อเสียงโห่ดังกล่าว เพื่อไม่เปิดช่องให้ลิเวอร์พูลได้เล่นอย่างที่ถนัด

3) ใช้ประโยชน์จากเซ็ตพีซ

ประตูที่ สวอนซี ทำได้ มาจากจังหวะเตะมุม ในเมื่อ ตามปกติไม่ค่อยได้บุกมากนัก โอกาสเดียวที่จะลุ้นประตูได้ ก็คือลูกนิ่ง ลูกเซ็ตพีซ ซึ่งก็เป็นจุดอ่อนของลิเวอร์พูลพอดี

สวอนซี ทำประตูได้ และก็สามารถรักษาสกอร์นี้จนจบเกม

ย้อนกลับไปในเกมเสมอเอฟเวอร์ตัน 1-1 ที่แอนฟิลด์ ทีมทอฟฟี่ก็ไม่มีโอกาสได้ยิงเหมือนกัน แต่มาตีเสมอได้จากลูกจุดโทษ จะเห็นว่า การเล่นแผนอุด อาจไม่ได้ประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ ดังนั้น การเล่นลูกนิ่งต้องหวังผลให้ได้มากที่สุด

4) ตัดขาดกองกลางให้ได้

ในเกมที่คู่แข่งอุดกันแน่น คีย์แมนที่จะสร้างความแตกต่างคือเพลย์เมกเกอร์ ถ้ามีฟิลิปเป้ คูตินโญ่อยู่ ลิเวอร์พูลจะโจมตีด้วยการยิงไกล หรือ มีการคิลเลอร์พาสสวยๆเข้าทำในเขตโทษได้ แต่เมื่อไม่มีคูตินโญ่ ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่ เอ็มเร่ ชาน , อ็อกซ์เลน-แชมเบอร์เลน และ ไวจ์นัลดุม จะสังเกตได้ว่า ฝั่งสวอนซี จะไม่เปิดพื้นที่ให้สามคนนี้ได้เล่นง่ายๆตลอดเกม  ซึ่งเมื่อไม่มีกองกลางคอยป้อนบอล แนวรุกก็ไม่รู้จะเอาจังหวะไหนไปจบสกอร์

5) เลือกรักษาสกอร์นำมากกว่ายิงเพิ่ม

แม้จะเล่นในบ้านตัวเอง แต่สวอนซี ไม่มีความคิดที่จะยิงลูกที่ 2 พอขึ้นนำ 1-0 พวกเขาพอใจกับสกอร์ และรักษามันไว้ตลอดจนจบเกมการแข่งขัน

มีหลายทีม ที่ต้องการยิงเพิ่ม เพื่อปิดเกมให้ขาดไปเลย แต่สวอนซี รู้ดีว่าเจอกับลิเวอร์พูลจะประมาทไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาพอใจกับสกอร์ 1 เม็ด เราจะเห็นได้ว่าเปอร์เซ็นต์การครองบอลหลังจบเกม สวอนซี มีแค่ 35% เท่านั้น เนื่องจากปล่อยให้ลิเวอร์พูลได้ครองบอลบุก ส่วนตัวเองก็ตั้งรับอย่างเดียว ไม่หวังจะยิงเพิ่มแล้ว