ตัดเกรด 6 นักเตะที่ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ทั้งสองทีมจะดวลแข้งกันในวันอาทิตย์นี้

ลิเวอร์พูล จะบุกไปเยือน เซาแฮมป์ตัน ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม เซนต์ แมรี่ส์ วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ และเป็นการกลับไปเยือนถิ่นเก่าของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์   

 ฟาน ไดค์ เพิ่งย้ายจาก "นักบุญ" มาอยู่กับ "หงส์แดง" เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวถึง 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,375 ล้านบาท)

 เซาธ์แฮมป์ตัน กลายเป็นคู่เจรจาอันดับหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ในประวัติศาสตร์ โดยการซื้อขายกันของสองทีมนี้ นับเฉพาะ 4 ปีหลังสุด มีมูลค่าสูงถึง 170 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,650 ล้านบาท) เลยทีเดียว

    ส่วนผลงานของ 6 นักเตะที่ย้ายจาก เซาแฮมป์ตัน มาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2014 เป็นอย่างไร และได้เกรดเท่าไหร่บ้างนั้น ไปดูกันได้เลย โดยไล่ตั้งแต่ผลงานแย่สุดไปถึงดีสุด

6. ริคกี้ แลมเบิร์ต - ค่าตัว 4 ล้านปอนด์ ปี 2014

    แลมเบิร์ต เป็นนักเตะที่แฟนบอล "หงส์แดง" คาดหวังว่า จะมาระเบิดฟอร์มในถิ่น แอนฟิลด์ แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นแบบนั้น

    แลมเบิร์ต ทำผลงานกับ "นักบุญ" ได้อย่างยอดเยี่ยม จนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษ ก่อนย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2014 ด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์

    อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน แลมเบิร์ต มาอยู่กับ "หงส์แดง" ผิดเวลา โดยซัดไปเพียง 3 ประตูจาก 36 นัด ก่อนต้องอำลาทีมไปในปี 2015

    ตัดเกรด : 4 เต็ม 10 ไม่ได้มีช่วงเวลาที่น่าจดจำใน แอนฟิลด์ เลย

5. เดยัน ลอฟเรน - ค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ปี 2014

ใครเจ๋ง-ใครห่วย!ตัดเกรดแข้งนักบุญมาอยู่หงส์
    ลอฟเรน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ทำให้ตอนนั้นกลายเป็นกองหลังค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร

    อย่างไรก็ตาม ลอฟเรน ทำผลงานได้ไม่คงเส้นคงวา และสร้างความผิดพลาดอยู่หลายครั้ง แม้มีความทุ่มเททุกนัดเวลาที่ลงสนามก็ตาม

    ชอตพลาดเข้าตาสุดเห็นจะเป็นนัดที่บุกไปพ่าย สเปอร์ส 1-4 หลังมีส่วนรับผิดชอบต่อ 2 ประตูแรกที่เสียในช่วงต้นเกม จนโดน เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรก

    ตัดเกรด : 5 เต็ม 10 ต้องโชว์ฟอร์มให้คงเส้นคงวามากกว่านี้

4. อดัม ลัลลาน่า - ค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ปี 2014

    ในช่วงแรก ลัลลาน่า อาจยังทำผลงานได้ไม่เปรี้ยงปร้างมากนัก ตอนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คุมทัพ แต่พอ คล็อปป์ เข้ามาทำงานในเดือนตุลาคม 2015 เขาก็เริ่มฉายแสงมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่กองกลางวัย 29 ปี ต้องมาโดนอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ต้องหลุดจากตำแหน่งตัวจริง

    ในเวลานี้ ลัลลาน่า หายเจ็บกลับมาแล้ว แต่อาจเป็นเรื่องยากที่จะเบียดเข้าไปเป็นตัวจริง ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามเร่งฟอร์มให้ได้เร็วที่สุด

    ตัดเกรด : 7 เต็ม 10 ฟอร์มกำลังดี แต่น่าเสียดายมาเจอโรคเดี้ยงเล่นงาน

  3. นาธาเนียล ไคลน์ - ค่าตัว 12 ล้านปอนด์ ปี 2015

    ย้ายมาด้วยค่าตัวที่ไม่ได้แพงในช่วงซัมเมอร์ปี 2015 แต่สามารถโชว์ฟอร์มได้คงเส้นคงวาในตำแหน่งแบ็กขวา

    ไคลน์ เป็นตัวจริงตลอด แต่ต้องมาโชคร้ายบาดเจ็บยาวในฤดูกาลนี้ ทำให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ โจ โกเมซ เบียดกันมาเล่นเป็นแบ็กขวา

    ตัดเกรด : 8 เต็ม 10 รอวันหายเจ็บกลับมายึดตำแหน่งแบ็กขวาตัวจริงเหมือนเดิม

2. ซาดิโอ มาเน่ - ค่าตัว 34 ล้านปอนด์ ปี 2016

    ปีกทีมชาติเซเนกัล แทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวเลยกับการมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ในปี 2016

    มาเน่ ลงเล่นในลีกให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 45 นัด ทำได้ 19 ประตู โดยฟอร์มในซีซั่นนี้อาจดร็อปลงไปหน่อยตั้งแต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ย้ายมาร่วมทีม แต่ก็ยังเป็นนักเตะสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้

    ตัดเกรด : 9 เต็ม 10 คุ้มค่าแล้วกับจำนวนเงินที่ ลิเวอร์พูล จ่ายไป

    1.  เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ - ค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ปี 2018

 ฟาน ไดค์ ทำสถิติเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดของ ลิเวอร์พูล หลังย้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยมูลค่าสูงถึง 75 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา

กองหลังชาวดัตช์ ประเดิมลงสนามได้เหมือนฝัน หลังโหม่งทำประตูชัยให้ทีมชนะ เอฟเวอร์ตัน ในศึก เอฟเอ คัพ อย่างไรก็ตาม เกมต่อมาหลังจากนั้นมีชอตทำพลาดอยู่บ้าง

ตัดเกรด : เร็วเกินไปที่จะให้คะแนน แต่เชื่อว่า จะมีทีเด็ดมาให้แฟนบอล "หงส์แดง" แน่นอน