ตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมาขาใหญ่ในฟุตบอลถ้วยใบใหญ่ของยุโรปมักจะหนีไม่พ้น บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด หรือ บาเยิร์น มิวนิค ที่มักจะผ่านเข้ารอบลึกๆ และคว้าแชมป์มาหลายสมัย

อย่างไรก็ตามซีซํ่นนี้รายการดังกล่าวในรอบ 16 ทีมสุดท้าย มีทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลุดมาถึง 5 ทีมด้วยกัน และยังอยู่ในเส้นทางผ่านเข้าสู่รอบต่อไปทั้งหมด ทำให้มีการคาดว่าอย่างน้อยน่าจะมีสัก 1-2 ทีมเป็นตัวแทนจากเมืองผู้ดีเข้าไปช่วงชิงบัลลังก์ได้อีกครั้ง หลังทีมจากอังกฤษห่างหายจากความสำเร็จในถ้วยใบนี้นับตั้งแต่ในปี 2012 ที่เชลซีคว้าแชมป์

เราจะพามาดู 4 เหตุผลที่ทีมพรีเมียร์ลีก มีสิทธิ์จะคว้าแชมป์ยุโรปในปีนี้

1.ทีมใหญ่ฟอร์มตก
 ผลงานของหลายทีมยักษ์ใหญ่ในฤดูกาลนี้ดูดร็อปลงไป โดยเฉพาะแชมป์เก่าอย่าง เรอัล มาดริด ที่นักเตะพร้อมใจกันฟอร์มตก และดูความกระหายจะลดลงไป เช่นเดียวกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่ต้องไปดึง จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กลับมาคุมทัพอีกครั้งจนมีผลงานดีขึ้น

สวนทางกับ ฟอร์มของหลายทีมจากอังกฤษที่โชว์ฟอร์มร้อนแรง ทั้ง ลิเวอร์พูล ที่ทำประตุสูงสุดอันดับ 2 ในรอบแบ่งกลุ่ม และกำลังอยู่ในเส้นทางสดใสมากกว่าเพื่อน หลังถล่มเอฟซี ปอร์โต้ 5-0 ในเกมแรก เช่นเดียวกับ แมนฯ ซิตี้ ที่บุกไปถล่ม เอฟซี บาเซิ่ล 4-0 กุมความได้เปรียบเอาไว้ได้ทั้งหมด และถ้าไม่เกิดการพลิกล็อกมโหฬาร 2 ทีมนี้จะตบเท้าเข้าสู่รอบต่อไปอย่างแน่นอน 

2.แนวรุกที่จัดจ้าน

ฤดูกาลนี้หลายทีมในพรีเมียร์ลีกต่างทุ่มซื้อนักเตะซูเปอร์สตาร์เข้ามาร่วมทีมมากมาย ทำให้หลายทีมมีขุมกำลังที่น่ากลัวขึ้นกว่าเดิมและน่าจะต่อกรกับบรรดาบิ๊กทีมในยุโรปได้สูสีขึ้น โดยเฉพาะ 3 ประสานแนวรุกของแต่ละทีม ที่อยู่ในแถวหน้าของยุโรป
ลิเวอร์พูล - ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ - แฮรี่ เคน, คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี
แมนฯ ซิตี้ - เควิน เดอร์บรอยน์, เซร์คิโอ อเกวโร่, ดาบิด ซิลบา
แมนฯ ยูไนเต็ด - อเล็กซิส ซานเชซ, โรเมลู ลูกากู, ปอล ป็อกบา
เชลซี - อัลบาโร่ โมราต้า, เอแด็น อาซาร์, วิลเลียน

3.ประสบการณ์ทำให้แกร่งขึ้น
หนึ่งทีมที่น่าจะได้รับการจับตามองจากอังกฤษ คงต้องยกให้ สเปอร์ส ของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แม้ในฤดูกาลที่แล้วพวกเขาจะตกรอบแบ่งกลุ่มไปอย่างน่าเสียดายหลังอยู่ร่วมกลุ่มกับ โมนาโก, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ ซีเอสเคเอ มอสโก
อย่างไรก็ตาม พวกเขามีประสบการณ์มากขึ้น และสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการจบด้วยการเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอช ซึ่งมีทั้ง เรอัล มาดริด และ โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ และยิ่งไปกว่านั้นคือการเอาชนะแชมป์เก่าแบบไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี นอกจากนี้ยังบุกไปแบ่งแต้มจากยูเวนตุส ที่ตูริน ได้อีก ด้วยเหตุผลเหล่านี้หากบอกว่าสเปอร์สจะจบด้ววยการคว้าแชมป์คงดูไม่เกินความเป็นจริง

4.แฟนบอล

 แม้ว่าขนาดความจุสนามทีมจากอังกฤษจะไม่เทียบเท่ากับสนามอย่าง คัมป์ นู (บาร์เซโลน่า), ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (เรอัล มาดริด), อัลลิอันซ์ อารีน่า (บาเยิร์น มิวนิค)
อย่างไรก็ตาม สนาม แอนฟิลด์ (ลิเวอร์พูล), โอลด์ แทรฟฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด), เวมบลีย์ (สเปอร์ส) ก็แสดงให้เห็นว่าเสียงเชียร์จากแฟนบอลก็สร้างแรงกดดันให้กับคู่แข่งได้อย่างยอดเยี่ยม และยิ่งเป็นรายการนี้ก็จะทำให้บรรยากาศกลายเป็นนรกของทีมเยือนได้ไม่ยาก