"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอ เอฟซี ปอร์โต้ ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 แต่รวมผลสองนัดเป็น ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์ 5-0 ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง) เมื่อคืนวันอังคารที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง)
วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 0   -   0 เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
(รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยสกอร์ 5-0)

สนาม : แอนฟิลด์
    ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล เก็บชัยเหนือ เอฟซี ปอร์โต้ มาได้ก่อนถึง 5-0 นัดนี้จึงพักแข้งหลักหลายตำแหน่ง โดยวางสามแนวรุกคือ ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, อดัม ลัลลาน่า ขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีชื่อตัวสำรอง
   
    เอฟซี ปอร์โต้ ไม่มีอะไรจะเสียจึงต้องเปิดเกมสู้สถานเดียวหวังพลิกนรกสร้างปาฏิหาริย์ มี อีเกร์ กาซิยาส เฝ้าเสา ส่วนสองกองหน้าใช้ อับดุล มาจีด วาริส กับ แว็งซองต์ อาบูบาการ์
   
    ก่อนเริ่มเกมมีการยืนไว้อาลัยให้กับ ดาวิเด้ อัสตอรี่ เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีม ฟิออเรนติน่า ที่เสียชีวิตกะทันหันจากสภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา

    เลยมาถึงนาทีที่ 18 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นบวกสกอร์ก่อนจากจังหวะ โจ โกเมซ เติมเกมรุกขึ้นมาเปิดบอลเลยไปถึง ซาดิโอ มาเน่ ยื่นเท้าหวังจิ้มบอลแต่โดนไม่ดีหลุดออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย
   
    นาทีที่ 31 ลิเวอร์พูล พลาดได้ประตูขึ้นนำ เจมส์ มิลเนอร์ โยนบอลข้ามแผงหลัง ปอร์โต้หลุดไปถึง ซาดิโอ มาเน่ ดึงบอลลงก่อนยิงด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษทีมเยือนบอลพุ่งชนเสาไกลอย่างจัง
   
    ใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นนาทีที่ 34 เป็นของ อันเดอร์ อันเดอร์ แข้งปอร์โต้เข้าสกัดฟาวน์ด้านหลังใส่ อัลเบร์โต้ โมเรโน่

    ยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมบุกได้มากกว่าแต่เจาะตาข่ายผู้มาเยือนไม่เข้าจบครึ่งแรกเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

    เริ่มครึ่งหลังมาถึงนาทีที่ 55 โอลิเวอร์ ตอร์เรส นักแตะปอร์โต้ได้จังหวะซัดไกลระยะประมาณ 25 หลาแต่บอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่มีลุ้น
   
    นาทีที่ 59 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดนใบเหลืองจากจังหวะเสียบเข้าที่ข้อเท้า เฮซุส โกโรน่า

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกนาทีที่ 61 โดยถอด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ออกไปพักและส่ง แดนนี่ อิงส์ ลงมาแทน

    ถัดมาอีก 5 นาที แดนนี่ อิงส์ เบียดเอาชนะแผงหลัง ปอร์โต้ ขึ้นโขกแต่บอลไร้น้ำหนักไปเข้ามือ อีเกร์ กาซิยาส นายด่านทีมเยือนรับไว้สบาย

    นาทีที่ 73 ลิเวอร์พูล ส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงมายืดเส้นยืดสายแทน ซาดิโอ มาเน่
   
    ลงมาได้ 4 นาที ซาลาห์ เปิดบอลให้ เจมส์ มิลเนอร์ ขึ้นโขกแต่ทิศทางตรงตัว อีเกร์ กาซิยาส รับเข้าซอง

    หงส์แดง ยังคงครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ นาทีที่ 82 ซาลาห์ ได้โอกาสซัดทางฝั่งซ้ายมุมกรอบเขตโทษปอร์โต้แต่ไม่ดีพอที่จะผ่านมือ กาซิยาส

    นาทีที่ 87 ลิเวอร์พูล หวิดได้ประตูขึ้นนำ แดนนี่ อิงส์ ขึ้นโหม่งโล่งๆ ไม่ถึง 6 หลาแต่ อีเกร์ กาซิยาส ลอยตัวปัดข้ามคานไปได้

    จบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงเสมอ ปอร์โต้ 0-0 แต่เมื่อรวมผลสองนัดเป็น ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์ 5-0
   
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม   
    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ลอริส คาริอุส - โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป,  เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน(รักนาร์ คลาวาน น.80) - ซาดิโอ มาเน่(โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.73), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่(แดนนี่ อิงส์ น.62), อดัม ลัลลาน่า
    สำรองไม่ได้ใช้ :   ซิมง มิโญเล่ต์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์
    เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

    เอฟซี ปอร์โต้ (4-4-2) : อีเกร์ กาซิยาส - แม็กซี่ เปรเรยร่า, เฟลิเป้, ดีเอโก้ เรเยส, ดิโอโก้ ดาล็อต - โอลิเวอร์ ตอร์เรส, อันเดอร์ อันเดอร์(แซร์โจ้ โอลิเวยร่า น.62), บรูโน่ คอสต้า, เฮซุส โกโรน่า - อับดุล มาจีด วาริส(ริคาร์โด้ เปเรยร่า น.68), แว็งซองต์ อาบูบาการ์(กอนซาโล่ ปาเซี่ยนเซีย น.80)
    สำรองไม่ได้ใช้ : โอตาวินโญ่, ยาซีน บราอิมี่, หลุยส์ มาต้า
    เทรนเนอร์ : แซร์โจ้ คอนไซเซา

    ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ (เยอรมัน)