ศึกแดงเดือดปีนี้จบลงด้วยชัยชนะของทีมปีศาจแดง ถือเป็นเกมแดงเดือดที่สนุกตื่นเต้นนัดหนึ่ง อีกทั้งยังเหมือนเป็นเกมวัดกึ๋นของกุนซือทั้งสองทีมด้วย และก็ต้องยกความดีความชอบให้ โฆเซ่ มูรินโญ่ ที่ใช้ความ “เขี้ยวลากดิน” สยบความร้อนแรงของลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ไว้ได้ สามสุดยอดแนวรุกที่ว่าแน่อย่าง ซาลาห์ มาเน่ ฟีร์มิโน่ โดนแนวรับทีมปีศาจแดงเก็บขึ้นหิ้งหมด โดยเฉพาะดาวยิงที่ร้อนแรงที่สุดอย่าง ซาลาห์ หายเงียบตลอดทั้งเกม

แต่ก็มีวิจารณ์ของแฟนบอลบางกลุ่มที่โจมตีว่า มูรินโญ่ เน้นแต่เกมรับ บ้างก็พูดว่าตั้งใจมาใช้แผนรถบัส มาอุดอย่างเดียวบ้าง ซึ่งก็คงต้องบอกว่าความผิดเหล่านี้ไปตกอยู่กับทีมผู้ชนะคงจะไม่ถูกนัก และ ลิเวอร์พูล ก็ควรจะผิดมากกว่าที่มีโอกาสเยอะแยะแต่ทำไม่ได้เอง ทำนองเดียวกับเสียงวิจารณ์ว่า แมนฯ ยูฯ ตั้งใจมาอุดอย่างเดียว ซึ่งก็คงไม่ยุติธรรมนักหากจะยกเอาสไตล์การเล่นออกมาชำแหละกันเพราะก็เป็นสิทธิ์ของ แมนฯ ยูฯ หรือ เชลซี ที่จะเล่นเกมรับแบบเข้มข้น ส่วน แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล จะเปิดเกมบุกทุกเกมก็ไม่มีใครไปโวยว่าพวกเขาบุกเยอะไปเหมือนกัน

ย้อนกลับมาดูตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก เชื่อว่าชัยชนะนัดนี้คงทำให้ แมนฯ ยูฯ หายใจได้โล่งขึ้นและโอกาสจบท็อปโฟร์ก็สูงตามไปด้วยส่วนโอกาสลุ้นแชมป์คงต้องรอฤดูกาลหน้าเพราะ แมนฯ ซิตี้ทำคะแนนทิ้งขาดลอยไปแล้ว ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังต้องลุ้นอีกเยอะเพราะทั้ง สเปอร์ส และ เชลซี ทำคะแนนจี้มาอย่างไม่ลดละ