ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ราเยวัช - การไปพบ 3 แข้งเจลีกก่อนคิงส์คัพสำคัญอย่างไร?

ราเยวัช - การไปพบ 3 แข้งเจลีกก่อนคิงส์คัพสำคัญอย่างไร?

Posted 18/03/2018 by goal.com

เปิดใจกุนซือช้างศึก การไปพบ 3 แข้งไทยในเจลีก ก่อนคิงส์คัพสำคัญอย่างไร ? และ พูดอะไรกับพวกเขาเหล่านั้นบ้าง ? ติดตามที่นี่

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ การแข่งขันคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 จะเริ่มเปิดฉากขึ้น ระหว่างวันที่ 22-25  มีนาคมนี้ ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่าเดย์
 
นอกจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ทำงานหนัก จนได้ 3 ชาติที่แรงกิ้งสูงกว่า 100 ทั้งหมด มาร่วมชิงชัยแล้ว  ไม่ว่าจะเป็น สโลวาเกีย อันดับ 29 ของโลก , สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อันดับ 79 ของโลก และ กาบอง อันดับ 95 ของโลก ในคอนเซปต์ที่น่าสนใจอย่าง "ศึก 3 ทวีป Battle of Continents”  และเป็นการแข่งขันระดับ A-Match ที่มีความสำคัญต่อคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง

ข่าวอื่นๆ | ติดตามข่าว ฟุตบอลไทย เพิ่มเติมที่นี่

ในส่วนของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ มีการเตรียมทีมอย่างหนักไม่แพ้กัน นอกจากภาพที่เราเห็นจนชินตา ในการที่เฮดโค้ชวัย 64 ปี เดินทางไปเสาะหาผู้เล่นด้วยตัวเอง ถึงขอบสนาม ทั้งในโตโยต้า ไทยลีก  (ไทยลีก1) และ เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก2) แล้ว ก่อนหน้านี้ เจ้าตัว ยังลงทุนบินไปถึงประเทศญี่ปุ่น เพื่อเช็คฟอร์มการเล่นของ 3 แข้งไทยในเจลีก ทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราทร บุญมาทัน และ ชนาธิป สรงกระสินธ์
 
เรื่องดังกล่าวสำคัญอย่างไร ? ทั้งที่ มิโลวาน ราเยวัช รู้จัก 3 ผู้เล่นเหล่านี้ดีอยู่แล้ว ทุกคนล้วนเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งของตนเอง ? ติดตามบทสัมภาษณ์แบบ EXCLUSIVE ได้ที่นี่
 
“มันต่างแน่นอน” ราเยวัช บอกกับเราทันที เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้
 
“เวลาเราได้ไปดูผู้เล่นที่สนาม บางอย่างในทีวีเรามองไม่เห็น อย่างตำแหน่งที่ไม่มีบอล พวกเขาขยับ หรือ เคลื่อนที่ยังไง ถ้าเราดูสด เราจะเห็นหลายอย่างๆ ว่าจะให้พวกเขาพัฒนาต่อตรงไหน ซึ่งต่างจากที่เราดูจากทีวี ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเราต้องเดินทางไปที่ญี่ปุ่น และ มันสำคัญแค่ไหน”

"เราต้องการที่จะทำให้ทีมชาติไทยคือหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของเอเชีย ไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และถ้าหากเราทำผลงานได้ดี เราก็แอบหวังถึงการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้"

ไม่เพียงแต่เป็นเหตุผลด้านฟุตบอล ขณะเดียวกันการเดินทางไปครั้งนี้ ราเยวัช ยังเชื่อว่ามีผลต่อกำลังใจของพวกเขาอีกด้วย
 
“เรารู้ว่าผู้เล่นทั้ง 3 คนมีความสามารถที่จะเล่นที่นั่นได้ แต่ถ้าเราไปดู เราอาจจะมีคอมเมนต์ที่ช่วยให้พวกเขาเล่นได้ดีขึ้น อีกอย่างเราอยากแสดงให้พวกเขาเห็นด้วยว่า ถึงแม้จะไปเล่นที่ต่างประเทศแล้ว แต่พวกเขายังอยู่ในความสนใจของเราเหมือนเดิม รวมถึงยังเป็นการให้กำลังใจด้วย ว่าพวกเขาสำคัญขนาดไหน”

ขณะเดียวกัน มิโลวาน ราเยวัช ยังถือโอกาสนี้ เข้าพบกับผู้เล่นทั้ง 3 คนด้วย ทั้งเกมที่ ธีรศิลป์ แดงดา ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ช่วย ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา บุกชนะ อุราวะ เรด ไดมอนด์ส 2-1 , เกมที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำประตูแรกของตัวเอง ให้ คอนซาโดเล ซัปโปโร บุกเสมอ เซเรโซ โอซาก้า 3-3  และ เกมที่ วิสเซล โกเบ บุกเสมอ โซงัน โทสุ 1-1 แม้ ธีราทร บุญาทัน จะไม่มีส่วนร่วมก็ตาม

“ใช่ ผมมีโอกาสคุยกับทั้ง 3 คนหลังจบเกม” ราเยวัช เปิดเผยกับเราถึงเรื่องนี้

“ผมมีคอมเมนต์เล็กๆน้อยๆให้พวกเขา อย่าง มุ้ย (ธีรศิลป์ แดงดา) ผมบอกวิธีเขาเกี่ยวกับการยืนตั้งรับ แล้วก็ให้กำลังใจ ส่วน เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์) โค้ชของเขา (มิไฮโล เปรโตวิช) รู้จักกับผมดี เพราะเป็นอดีตเพื่อนร่วมทีมที่ เรดสตาร์ เบลเกรด ผมก็บอกถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของเจ ให้เขาทราบ และก็บอกเจ ถึงวิธีการทำงานร่วมกับเขา ซึ่งวันนั้นมันยอดเยี่ยมมากๆ ที่มีโอกาสไปดูเขา แล้วสามารถทำประตูแรกได้”

“ขณะที่ อุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) วันนั้นที่ผมไป เขาไม่มีโอกาสลงเล่น แต่เราทุกคนก็รู้ถึงศักยภาพเขาดีอยู่แล้ว  เขาเป็นคนที่มุ่งมั่นสูง เราเชื่อว่าเขาเล่นได้ แต่ก็ต้องสู้ต่อไป พยายามปรับตัวให้เร็วที่สุด เพราะมันไม่ง่ายกับการออกไปเล่นต่างประเทศครั้งแรก”

มิโลวาน ราเยวัช ที่เพิ่งได้รับสัญญาใหม่ 2 ปี จากผลงานที่ยอดเยี่ยม ยังพูดถึงเป้าหมายส่วนตัว ในการคุมทีมชาติไทย หลังจากนี้ว่า  “ทุกๆรายการแข่งขันล้วนมีความสำคัญสำหรับเรา มันเป็นเรื่องดีที่ทีมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และสามารถเล่นเพื่อผลการแข่งขันที่ดีได้ “
 
“เป้าหมายที่แท้จริงของเราคือเอเชียนคัพ (2019) เพราะมันจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ทีมชาติไทยจะสร้างผลงานให้เป็นที่จดจำในเอเชีย ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือมากกว่านั้นถ้าเป็นไปได้ นั่นคือเป้าหมายที่สำคัญที่สุด เพราะมันคือรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย”


 “เราต้องการที่จะทำให้ทีมชาติไทยคือหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของเอเชีย ไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และถ้าหากเราทำผลงานได้ดี เราก็แอบหวังถึงการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้”
 
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้ว แม้ มิโลวาน ราเยวัช จะยอมรับว่าเป้าหมายที่แท้จริงอยู่ที่ เอเชียนคัพ รอบสุดท้าย ปี 2019 แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่า ระหว่างนี้ ทุกๆการแข่งขันยังสำคัญเสมอ โดยเริ่มจาก คิงส์คัพ ที่จะกำลังจะเริ่มขึ้น
 
“ทั้งทัวร์นาเมนต์คิงส์คัพหรือทัวร์นาเม้นต์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมกระชับมิตรหรือชิงแชมป์อาเซียน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสำหรับเป้าหมายใหญ่ แต่ทุกๆการแข่งขันเราก็ต้องทำให้ดีที่สุดเสมอ”
 
มิโลวาน ราเยวัช จะคุมทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติกาบอง ในการแข่งขันคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 รอบแรก วันที่ 22 มีนาคมนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »