เชลซีไล่กดดันพื้นที่แชมเปียนส์ลีกแบบไม่หยุด หลังจากโชว์ความเด็ดขาดบุกมาอัดเบิร์ลีย์ 2-1 ได้ วิคเตอร์ โมเสส โชว์ฟอร์มเยี่ยมมีส่วนกับทั้งสองประตูทำให้ตอนนี้ "สิงห์บลูส์" ตามสเปอร์สอยู่ 5 แต้ม ขณะที่เหลืออีก 4 นัดสุดท้าย ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพฤหัสบดีที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน 2561 
เบิร์นลี่ย์ 1  -  2 เชลซี

สนาม : เทิร์ฟ มัวร์

    เบิร์นลีย์ซึ่งชนะรวดในลีกห้าเกมหลัง และมีโอกาสลุ้นคว้าพื้นที่ไปเล่นถ้วยยูโรปาลีกใช้ทีมชุดเดิมทุกตำแหน่งจากนัดก่อนที่เปิดรังพิชิตเลสเตอร์ 2-1 ลงบู๊

    ส่วนเชลซีปรับทัพหกรายจากแมตช์บุกไปสยบเซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 เนื่องจากมีเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือกกับนักบุญในวันอาทิตย์รออยู่โดยเก็บเอแด็น อาซาร์ , เชส ฟาเบรกาส และวิลเลี่ยนเอาไว้ในซุ้มข้างสนาม

    นอกจากนี้ สิงห์บลูส์ก็ขาดมาร์กอส อลอนโซ่ที่เริ่มติดโทษแบนสามเกม ทำให้เอเมอร์สันแบ็กซ้ายแซมบ้าได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกเกมแรก ขณะที่อันโตนิโอ รือดิเกอร์ที่โดนดร็อปจากนัดก่อนได้กลับคืนสู่ทีม

    เศรษฐีลอนดอนเริ่มเกมได้อันตรายกว่า และนาทีที่ 11 โมราโต้ก็ได้ลูกสะกิดกระชากบอลเข้าเขตโทษด้านขวาไปกดมุมแคบ แต่โดนนิค โป๊ปใช้เท้าสกัดถากออกเสาไกลได้

    อย่างไรก็ดี นาทีที่ 20 เชลซีซึ่งกดดันเจ้าบ้านต่อเนื่องก็ได้เฮจากจังหวะที่แกรี่ เคฮิลล์ตักบอลยาวจากวงกลมกลางสนามออกทางขวาให้วิคเตอร์ โมเสสทะลุเข้าเขตโทษไปโยนบอลแล้วโป๊ปขยับออกมาปัดไปชนเควิน ลองกองหลังพวกเดียวกันที่พยายามเข้าช่วยเคลียร์ทะลักเข้าประตูตัวเองสงเคราะห์ให้อาคันตุกะนำ 1-0

    ขยับมานาทีที่ 27 เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ก็ได้ใบเหลืองก่อนใครเพื่อนเนื่องจากเหนี่ยวไหล่โมราต้าเอาไว้ไม่ให้หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย แต่เปโดรซัดลูกฟรีคิกระยะ 23 หลาเฉี่ยวเสาแรก

    ถัดจากนั้น เดอะ คลาเรตส์ก็พยายามฮึดสู้ แต่ความแข็งแกร่งยังเป็นรอง จบครึ่งแรกเชลซีนำหน้าไปก่อน 1-0

    เริ่มครึ่งหลังเบิร์นลี่ย์ชวนทะเลาะทันที แต่นาทีที่ 55 จากจังหวะบุกกันทั้งแผงแล้วจ่ายบอลพลาด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ก็ดักบอลหน้าเขตโทษได้แล้วจ่ายจังหวะเดียวให้โมราต้ากระชากจากครึ่งสนามหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านขวาไปซัดระยะ 14 หลาออกเสาแรกเหลือเชื่อ

    กระนั้นนาทีที่ 64 โยฮันน์ เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน ก็กระชากบอลจากกราบขวาหักเข้ามากระทุ้งหน้าเขตโทษแล้วบอลกระทบ แอชลี่ย์ บาร์นส์ เปลี่ยนทิศเสียบเสาสองพาเจ้าบ้านตีเสมอเป็น 1-1

    อย่างไรก็ดี เชลซีกลับมาบุกทันทีหวังพังประตูให้ได้ และนาทีที่ 69 เอเมอร์สันก็สาดบอลจากกราบซ้ายมาหน้าประตู แม้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จะเผด็จศึกวืด แต่บอลหลุดไปเสาสองให้โมเสสเข่นมุมแคบไม่พลาดพาทีมเยือนนำ 2-1 แล้วเปลี่ยนอาซาร์ลงไปแทนโมราต้าทันที ขณะที่เจ้าบ้านใช้งาน แซม โว้คส์ แทน คริส วู้ด

    ช่วงเวลาที่เหลือ สิงห์บลูส์คุมสถานการณ์ได้สำเร็จ กระทั่งครบ 90 นาทีจึงเก็บสามแต้มกลับเมืองหลวงด้วยการคว้าชัย 2-1
   
11 รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม  
    เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โป๊ป - แม็ทธิว ลอว์ตัน, เควิน ลอง, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, สตีเฟ่น วอร์ด - อารอน เลนน่อน, แจ็ค คอร์ก, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, โยฮัน เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน - แอชลี่ย์ บาร์นส์, คริส วู้ด
    ผู้จัดการทีม : ฌอน ไดช์

    เชลซี (3-4-2-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - วิคเตอร์ โมเสส, ติเยมูเอ้ บากาโยโก้, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เอเมอร์สัน  - เปโดร โรดริเกซ, อัลบาโร่ โมราต้า - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์   
    ผู้จัดการทีม : อันโตนิโอ คอนเต้