นอกจากวันนี้จะมีนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกกันแล้ว ยังมีอีกหนึ่งศึกใหญ่ที่ทุกคนต้องจับตาดู นั่นคือการเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกที่สนามเวมบลีย์ในเวลา 23.00 น. นัดชิงชนะเลิศระหว่าง แอสตัน วิลล่า ปะทะ ฟูแล่ม ชิงตั๋วใบสุดท้ายซึ่งมีความหมายกับทั้งสองทีมเป็นอย่างมาก ก่อนเกมนี้เรามาดูประเด็นของทั้งสองทีมที่ฝ่าเข้ามาชิงชนะเลิศกันดีกว่า

1.น้องใหม่แต่หน้าเก่า

 ศึกชิงตั๋วครั้งนี้ถ้าใครเป็นแฟนบอลพรีเมียร์ลีกน่าจะรู้จักทั้งสองทีมกันเป็นอย่างดี ฟูแล่มนั้นตกชั้นมาเล่นแชมเปียนชิพเมื่อฤดูกาล 2013/14 ซึ่งมีเรเน่ มูเลนสตีน อดีตมือขวา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนคุมทัพ และโดนปลดไปช่วงเกือบท้ายฤดูกาลเพราะทีมผลงานย่ำแย่ ขณะที่แอสตัน วิลล่า ตกชั้นไปในฤดูกาล 2015/16 จมอยู่ที่ 20 คุมทัพโดย เรมี่ การ์ด ที่ผลงานสุดดิ่งเหว 20 เกมชนะแค่ 2 เกม ทั้งสองทีมมีโอกาสคัมแบ็คกลับมาพรีเมียร์ลีกหลังจากห่างหายกันไปเกินกว่า 2 ปี

2.จับตาคีย์แมนทั้งสองทีม

    ทั้งสองทีมเต็มไปด้วยนักเตะคุณภาพที่เคยผ่านเวทีพรีเมียร์ลีกมากันแล้วทั้งนั้น "สิงห์ผงาด" มีกัปตันทีมที่เรารู้จักกันดีนั่นคือ จอห์น เทอร์รี่ อดีตปราการหลังเชลซี เขาได้มาจัดระเบียบเกมรับของทีมให้แน่นขึ้นโดยเสียประตูไปแค่ 42 ประตูเป็นรองแค่สองทีมที่เลื่อนชั้นไปก่อนหน้านี้อย่างวูลฟ์แฮมป์ตันและคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ นอกจากนี้ยังนักเตะที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเช่น แจ็คเกรียลิช,โรเบิร์ต สนอดกราสส์, อลัน ฮัตตัน และไมล์ เยดินัค ส่วนหัวหอกของทีมนั้นเป็น ลูอิส แกร็บแบน กองหน้าตัวยืมจากบอร์นมัธ ที่ยิงรวม 20 ประตู ในลีกซีซั่นนี้

    ด้าน "เจ้าสัว" ฟูแล่ม มีโคตรดาวรุ่งที่น่าจับตามองอย่าง ไรอัน แซสเซอญง แนวรุกสุดจี๊ดวัยเพียงแค่ 18 ปี ที่บรรดาทีมยักษ์จากพรีเมียร์ลีกรุมจีบกันแบบสุดๆ โดยปีนี้เขากวาดรางวัลจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพหรือ PFA ไปถึง 5 รางวัลด้วยกันซึ่งก็รวมถึงการคว้ารางวัลใหญ่ของ "เดอะ แชมเปี้ยนชิพ" อย่าง นักเตะแห่งปี และ ดาวรุ่งแห่งปี อีกด้วย ขณะที่กองหน้ายังมี อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ที่ยืมตัวมาจากนิวคาสเซิ่ล ที่เป็นดาวซัลโวของทีมซัดไป 12 ประตู

3.ผู้ชนะรับเงินอู้ฟู่

    หลังจากที่วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และ คาร์ดิฟฟ์ นั้นได้เลื่อนชั้นไปแบบอัตโนมัติ เหลืออีก 1 ทีมที่จะคว้าสิทธิ์ไปพรีเมียร์ลีกซึ่งนอกจากทีมจะได้ไปเล่นในเวทีสูงสุดของประเทศแล้ว ทีมจะได้รับเงินอู้ฟู้ดอีกด้วย โดย 3 ทีมที่เลื่อนชั้นนี้จะได้เงินรางวัลอย่างน้อย 160 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 7200 ล้านบาท และหากอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้ก็มีโอกาสจะรับเงินเข้าคลังถึง 280 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,600 ล้านบาท) เลยทีเดียว

4.ย็อคก้า vs สตีฟ บรูซ

    แฟนบอลบ้านเราน่าจะรู้จักกุนซือของทั้งสองทีมเป็นอย่างดี  "ย็อคก้า" สลาวิซ่า โยคาโนวิช กุนซือชาวเซิร์บของฟูแล่ม ที่เคยคุมเมืองทอง ยูไนเต็ด มาแล้ว หวังจะพาทีมเลื่อนชั้นให้ได้อีกครั้ง หลังเคยพาวัตฟอร์ดเลื่อนชั้นมาแล้วแต่ดันไม่มีบุญหมดสัญญากับทีมก่อนทำให้อดคุมทีมในพรีเมียร์ลีก หลังจากนั้นเขามาคุมฟูแล่มก็เกือบพาเลื่อนชั้นในฤดูกาลที่แล้วเพราะดันอกหักตกรอบเพลย์ออฟตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ

    ขณะที่ สตีฟ บรูซ นั้นมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกค่อนข้างมากเพราะเป็นผู้จัดกาารพเนจรคนหนึ่งในลีกของอังกฤษเลยทีเดียว เขาเคยคุมทีมอย่าง วีแกน, คริสตัล พาเลซ,เบอร์มิงแฮม, ซันเดอร์แลนด์,  ฮัลล์ ซิตี้ และมาอยู่กับทีมปัจจุบันอย่างแอสตัน วิลล่า

5.เข้าชิงเพลย์ออฟครั้งแรกของทั้งคู่

    ฟูแล่มทำสถิติ สุดแกร่งในแชมเปียนชิพฤดูกาลนี้โดยไม่แพ้ใครไปถึง 23 เกม น่าเสียดายที่เกมสำคัญอย่างนัดสุดท้ายดันพ่ายให้กับเบอร์มิงแฮม ทำให้ทีมอดเลื่อนชั้นอัตโนมัติ และนี่จะเป็นการเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศครั้งแรกของพวกเขา หลังเคยตกรอบรองฯไปถึง 3 ครั้ง ในฤดูกาล 1988/89, 1997/98 และ 2016/17   ส่วนแอสตัน วิลล่าจะเป็นการชิงชนะเลิศครั้งแรกเช่นกัน แต่วิลล่ามีสถิติของสตีฟ บรูซ ข่มอยู่ เพราะนี่จะเป็นการเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 3 ของ บรูซ โดยสองครั้งก่อนหน้านี้เขาชนะหมดและพาทีมเบอร์มิงแฮมและฮัลล์ ซิตี้ เลื่อนชั้นตามลำดับ