แกเร็ธ เบล ดาวเตะเลือดเวลส์ของ เรอัล มาดริด ยอมรับผิดหวังที่ไม่ได้เล่นตัวจริง แต่สุดท้ายก็สามารถช่วยทีมในฐานะตัวสำรองและซัดเบิ้ลนำ "ราชันชุดขาว" ปราบ ลิเวอร์พูล 3-1 ผงาดคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 13 ของทีม

แกเร็ธ เบล ปีกตัวเก่งของ เรอัล มาดริด เปิดใจผิดหวังที่ไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่กลายเป็นซูเปอร์ซับซัด 2 ประตูในแมตช์ถลุง ลิเวอร์พูล 3-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เริ่มต้นเกม "หงส์แดง" ทำผลงานเหนือกว่าไล่บดขยี้ "ราชันชุดขาว" แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่จากการปะทะกับ เซร์คิโอ รามอส ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวออก จากนั้นในครึ่งหลัง แชมป์เก่าได้ประตูแบบโคตรมหาเฮง เมื่อ ลอริส คาริอุส ผ่านบอลไปโดนขา คาริม เบนเซม่า เข้าประตูไปแบบไม่ต้องออกแรง

อย่างไรก็ตาม ซาดิโอ มาเน่ ยิงตีเสมอให้กับต้นสังกัดในอีก 4 นาทีต่อมา หลังจากนั้น ซีเนดีน ซีดาน ส่ง เบล ลงมาแทน อิสโก้ และก็แผลงฤิทธิ์ยิงประตูจากจังหวะจักรยานอากาศทำให้ทีมขึ้นนำ 2-1 และในช่วงท้ายเกม ดาวเตะเลือดเวลส์ ซัดไกลบอลไม่มีอะไรเลย แต่ คาริอุส คนเดิมปัดบอลกระฉอกเข้าประตูไปเฉยเลย ทำให้ เรอัล ทิ้งห่างเป็น 3-1 จบเกม ยอดทีมแห่งถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ผงาดคว้าแชมป์สมัยที่ 13 และเป็นแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน

เบล เปิดใจหลังจบเกมว่า "ผมผิดหวังมากๆ ที่ไม่ได้ลงเล่นตัวจริง แต่เรามีผู้เล่นมากกว่า 11 คน ผมต้องสร้างผลงานให้ดีเยี่ยมที่สุด และผมก็ทำได้ เรารู้ถึงสิ่งที่เราประสบความสำเร็จ เรารู้ว่ามันดีเยี่ยมแค่ไหน เราผิดหวังในเกมลีก แต่สุดท้ายมันก็เปลี่ยนเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม เรารู้ว่าเรามีความกระหายมากแค่ไหน เราพูดกันตลอดในเรื่องนี้เวลาที่อยู่ในห้องแต่งตัว"

"สำหรับประตูแรกที่ผมยิงได้ มันเป็นประตูที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยยิงมาด้วย ในรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่มีเวทีไหนยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว แน่นอนว่าเรามีความสุขมากๆ ที่คว้าชัยชนะได้สำเร็จ" อดีตดาวเตะเซาธ์แฮมป์ตัน และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กล่าว