ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » 5 เหตุการณ์สุดช็อกในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

5 เหตุการณ์สุดช็อกในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

Posted 14/06/2018 by siamsport

เหตุการณ์สุดช็อกก่อนฟุตบอลโลก 2018 จะเปิดฉากขึ้นคงหนีไม่พ้นเรื่องราวภายในมุ้งทีมชาติสเปน เพราะมีการประกาศสั่งปลดฟ้าผ่า จูเลน โลเปเตกี ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชนิดที่นักเตะทัพ "กระทิงดุ" ยังช็อก โดยเหตุผลก็เพราะเจ้าตัวดันทำอะไรพลการในการรับงานคุม เรอัล มาดริด โดยไม่ปรึกษาสหพันธ์ลูกหนังสเปน

สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่พึ่งเคยเกิดขึ้น เพราะเรื่องวุ่นๆ ในฟุตบอลโลก มีมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่ที่เด็ดดวงโดนใจของหลายๆ คนคงหนีไม่พ้น 5 เรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นเหตุฉาวที่คอลูกหนังยังคงจดจำได้ไม่มีวันลืม

1.สเปน ไล่ จูเลน โลเปเตกี ก่อนศึกฟุตบอลโลก

 

อีกเพียงแค่ 1 วัน (ตามเวลาท้องถิ่น) ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการ และ สเปน ทำให้โลกลูกหนังต้องช็อกกันทั้งบางเมื่อจัดการเฉดหัวเทรนเนอร์ทัพ "กระทิงดุ" ออกหน้าตาเฉย ซึ่งนำไปสู่วิกฤติภายใน สเปน ทันที

เหตุผลหลักก็คือ หลุยส์ รูเบียเลสประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน แสดงความไม่พอใจอย่างแรงหลังได้ทราบเกี่ยวกับการตัดสินใจของ โลเปเตกี เพียงแค่ 5 นาทีก่อนที่ เรอัล มาดริด จะประกาศแต่งตั้งเขาเป็นเฮดโค้ชแทน ซีเนดีน ซีดาน ที่อำลาสโมสรเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

2.เรย์มงด์ โดเมเน็ค  ทะเลาะกับลูกทีม

 

หนึ่งในเหตุการณ์ภายในทีมชาติที่สุดอื้อฉาวก็ต้องมีเรื่องนี้เช่นกัน โดยในปี 2010 ฝรั่งเศส ร่วงตกรอบแรกศึกฟุตบอลโลก ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยที่พวกเขาเก็บได้เพียง 1 คะแนนเท่านั้น

หลังจากเปิดฉากรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการเสมอกับ อุรุกวัย 0-0 จากนั้นทัพ "ตราไก่" ต้องเจอกับเรื่องสุดช็อกเมื่อแพ้ เม็กซิโก 0-2 โดยในช่วงพักครึ่งของเกมแพ้ทัพ "จังโก้" นิโกลาส์ อเนลก้า มีปากเสียงกับ โดเมเน็ค และมีรายงานว่าเขาพูดจากหยาบคายใส่กุนซือแบบขาดความเคารพ

เรื่องยังไม่จบแค่นั้นเพราะ อดีตหัวหอกอาร์เซน่อล, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด ปฏิเสธที่จะขอโทษ นั่นทำให้สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (แอฟแอฟแอฟ)ตัดสินใจไล่ อเนลก้า กลับบ้านทันที

ด้วยการที่โอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายค่อนข้างริบหรี่ทำให้ภายในแคมป์ทีมชาติฝรั่งเศสเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน และสุดท้ายก็ถึงจุดแตกหักในช่วงฝึกซ้อม

ปาทริซ เอวร่า มีปัญหาทะเลากับ โรแบร์ ดูแวร์เน่ โค้ชฟิตเนส ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะเลิกฝึกซ้อมเพื่อเป็นการประท้วงในกรณีของ อเนลก้า โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าแฟนบอลหลายคน จากนั้นบรรดานักเตะ "ตราไก่" ก็ยกเลิกการซ้อมไปโดยปริยาย

ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมทีมของกุนซือเรย์มงด์ โดเมเน็ค ถึงแพ้ให้กับ แอฟริกาใต้ เจ้าภาพ ในเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม

3.เหตุฉาวที่เกาะไซปัน

 

นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์สุดคลาสสิคที่เกิดจากปาก และอารมณ์เดือนของ รอย คีน

อดีตกัปตันทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ สร้างความสับสนอลหม่านให้กับทัพ "ยักษ์เขียว" เมื่อออกโรงจวก ไอร์แลนด์ว่า ขาดความเป็นมืออาชีพ และการเตรียมความพร้อมสำหรับลุยศึกฟุตบอลโลก 2002
 
นอกจากนี้ "คีโน่" ยังได้สร้างเรื่องสุดฉาวขณะอยู่ที่ เกาะไซปัน สถานที่เก็บตัวทีมชาติไอร์แลนด์ เมื่อเจ้าตัวด่ากราด มิค แม็คคาร์ธี่ย์ กุนซือของทีมในเวลานั้น ชนิดที่ไม่สามารถนำมาเขียนได้เพราะมันรุนแรงมากๆ (ตามสไตล์ดิบๆ ของ คีน)

หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้น แม็คคาร์ธี่ย์ ได้ออกโรงแถลงข่าวด้วยการยืนยันว่า คีน โดนส่งตัวกลับบ้านเรียบร้อย ทำให้เขาอดช่วยชาติทำศึกมหกรรมลูกหนังแห่งมวลมนุษยชาติฉบับเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น

4.แกสคอยน์ และฟุตบอลโลก 1998

 

เกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล ได้พร่ำพรรณาว่าตัดชื่อ พอล แกสคอยน์ ออกจากขุมกำลังชุดทำศึกฟุตบอลโลก 1998 เป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สุดแสนเศร้าหัวใจที่สุดในชีวิตของเขา

หลังจาก 2 ปีที่ "แก๊ซซ่า" โชว์การยิงประตูสุดเหนือชั้นในเกมชนะ สกอตแลนด์ ศึก ยูโร 96 ที่ดินแดนผู้ดี อดีตสตาร์ลูกหนัง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็เจอเรื่องสุดดราม่าเมื่อ ฮ็อดเดิ้ล ตัดสินใจหั่นชื่อเขาหลุดทีม "สิงโตคำราม" บุกดินแดนน้ำหอม ในศึกฟร็องซ์ 98

"ผมให้โอกาสเขาเยอะมากในการที่เขาจะเรียกความฟิต 6-7 เดือนก่อนผมพูดว่า -นายต้องฟิตสมบูรณ์ นี่เป็นโอกาสอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของนาย- แต่คุณคงเห็นว่าเขาไม่ฟิต มันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุดที่ผมต้องทำ การตัดชื่อ พอล แกสคอยน์ ออกจากทีม เพราะเขาไม่ฟิต และเขาไม่พร้อมสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้" ฮ็อดเดิ้ล กล่าว

ทั้งนี้ เดวิด เบ็คแฮม ได้รับบทบาทคอยสร้างสรรค์เกมให้กับ อังฤษ และเราทุกคนคงจำกันได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเกมที่ "ทรี ไลอ้อนส์" ดวล อาร์เจนตินา ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
 
5.เหตุการณ์สร้อยเพรชสุดช็อกที่โบโกต้า    

 

เหตุการณ์วุ่นวายในครั้งนั้นไม่ใช่แค่สร้างความอลหม่านให้กับ อังกฤษ แต่ยังส่งผลกระทบกับโลกด้วย และนำไปสู่การแทรกแซงทางการทูตจาก ฮาโรลด์ วิลสัน นายกรัฐมนตรีเมืองผู้ดีในขณะนั้น

ก่อนที่ฟุตบอลโลก 1970 ที่ประเทศเม็กซิโก จะเปิดฉากขึ้น บรรดานักเตะทัพ "สิงโตคำราม" มีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 เกมในทวีปอเมริกาใต้ เพื่อเป็นการทดสอบสภาพร่างกายเมื่อต้องเจอกันสภาพแวดล้อมที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล

แมตช์แรก อังกฤษ พบกับ โคลอมเบีย ที่โบโกต้า หลังจากที่เดินทางมาถึงโรงแรมเตเกนดามา บ็อบบี้ มัวร์ กับ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน โดนกล่าวหาว่าขโมยเครื่องเพชรจากร้านเครื่องประดับที่อยู่แถวๆ ห้องโถงของโรงแรมที่ทัพ "สิงโตคำราม" พัก

ว่ากันว่าก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนกำลังหาของขวัญให้กับภรรยาของชาร์ลตัน แต่ไม่มีอะไรถูกใจ และก็ออกจากร้านดังกล่าว  อย่างไรก็ตามเจ้าที่ร้านดังกล่าวได้รีบตามออกมา หลังจากอ้างว่าทั้งสองคนขโมยเครื่องเพชร และสร้อยข้อมือพลอยมรกต มูลค่า 625 ปอนด์ (ราว 28,125 บาท) (หากคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันประมาร 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ  225,000 บาท)

มัวร์ และ ชาร์ลตัน ยืนยันไม่ได้ขโมยเครื่องประดับดังกล่าว และสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองจากเจ้าหน้าที่โรงแรม และตำรวจท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม หลังจบเกมอุ่นเครื่องชนะ โคลอมเบีย และ เอกวาดอร์ แล้ว มัวร์ ดันโดนจับตำรวจนอกเครื่องแบบจับขณะที่กลับไปโรงแรม โดย ฮีโร่แชมป์ฟุตบอลโลก 1966  โดนจับยัดซังเตเป็นเวลา 4 วัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโคลอมเบีย จะพบว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะเอาผิด มัวร์

สุดท้าย มัวร์ ก็ได้กลับมาช่วงเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเม็กซิโก เพื่อทำศึกฟุตบอลโลก นัดเปิดสนามพบ โรมาเนีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »