"ตราไก่" ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบต่อไปเรียบร้อยแล้วอาจมีการปรับตัวผู้เล่นบางตำแหน่งโดย โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จะเป็นตัวหลักล่าสกอร์ เกมพบ "โคนม" เดนมาร์ก ที่ต้องการอย่างน้อย 1 แต้มก็จะการันตีทะลุ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี นัดสุดท้าย) คืนวันอังคารที่ 26 มิ.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3 และ TV5, เวลา : 21.00 น.

ปรีวิวฟุตบอลโลก 2018
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี นัดสุดท้าย)
วันอังคารที่ 26 มิถุนายน 2561
เดนมาร์ก (2)   -   ฝรั่งเศส (1)
ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3 และ TV5, เวลา : 21.00 น.

สนาม : ลุชนิกี้ สเตเดี้ยม, มอสโก, ประเทศรัสเซีย (สนามกลาง)
ทีมชาติเดนมาร์ก รองจ่าฝูงของกลุ่ม ซี จะปะทะ ฝรั่งเศส จ่าฝูงของกลุ่ม ในฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 หรือเกมสุดท้ายของรอบนี้ โดยฟาดแข้งที่ลุชนิกี้ สเตเดี้ยม กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

สำหรับ เดนมาร์ก มีลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ ส่วน ตราไก่ ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว

อาเก้ ฮาไรเด้ กุนซือชาวนอร์เวย์ของทีมชาติเดนมาร์กวัย 64 ปี นำทีมไม่แพ้ 16 เกมซ้อน หลังจากเสมอ ออสเตรเลีย 1-1 ในการเล่นรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 ที่คอสมอส อารีน่า ซามาร่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน

ฮาไรเด้ เสีย วิลเลี่ยม ควิสต์ มิดฟิลด์โคเปนเฮเก้น บาดเจ็บบริเวณซี่โครง หลังจากปะทะ เจฟเฟร์ซอน ฟาร์ฟาน กองหน้าเปรู จนเขาถูกหามลงเปลออกจากสนามนาที 35 แมตช์ที่ชนะ เปรู 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรกที่มอร์โดเวีย อารีน่า, ซารานส์ค เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน ซึ่งเขาไม่สามารถลงแข่งบอลโลกต่อไปได้ เท่ากับว่า ทีมชาติเดนมาร์ก เหลือผู้เล่น 22 คนในเวลานี้

อีกทั้งทีมไม่มี ยุสซุฟ โพลเซ่น ปีกขวา ติดโทษแบน หลังจากสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบตามโควตา โดยจะเป็น มาร์ติน เบรธเวท กองหน้าและปีกจากมิดเดิ้ลสโบรช์ ได้ลงเล่นแทน

เขาจะใช้แท็กติกการเล่นระบบ 4-2-3-1 คริสเตียน เอริคเซ่น จอมทัพจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ นำเกมรุก นิโคไล ยอร์เกนเซ่น หัวหอกเฟเยนูร์ด ยืนกองหน้าตัวเป้า

ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เซเล็กซิยอนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศสวัย 49 ปี นำทีมไม่แพ้ 6 เกมติดต่อกัน หลังจากสยบ เปรู 1-0 ในเวิลด์ คัพ รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 ที่ยาคาเตรินเบิร์ก อารีน่า, ยาคาเตรินเบิร์ก เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยิงประตูชัยนาที 34 คว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง

ขณะที่ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตู กัปตันทีมชาติฝรั่งเศสวัย 31 ปี ลงเล่นทีมชาติไปแล้ว 100 นัด

เดส์ชองส์ ได้ ซามูแอล อุมติตี้ เซนเตอร์แบ็กบาร์เซโลน่า หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย และ อาดิล รามี่ กองหลังโอลิมปิก มาร์กเซย หายเจ็บที่น่อง

เขาจะใช้แผนการเล่น 4-2-3-1 เหมือนนัดชนะ เปรู แต่จะเปลี่ยนตัวผู้เล่น 6 คน สตีฟ ม็องด็องด้า, ฌิบริล ซิดิเบ้, เพรสแนล คิมเพมเบ้, สตีเว่น เอ็นซงซี่, อุสมาน เดมเบเล่, โตมาส์ เลอมาร์ จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เดนมาร์ก : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - เฮนริค ดาลสการ์ด, ซิมอน เคียร์ (กัปตันทีม), อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เยนส์ สตรายเกอร์ ลาร์เซ่น - โธมัส เดลานี่ย์, ลาสส์ โชน - มาร์ติน เบรธเวท, คริสเตียน เอริคเซ่น, ปิโอเน่ ซิสโต้ - นิโคไล ยอร์เกนเซ่น

ฝรั่งเศส : สตีฟ ม็องด็องด้า - ฌิบริล ซิดิเบ้, ราฟาแอล วาราน (กัปตันทีม), เพรสแนล คิมเพมเบ้, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, สตีเว่น เอ็นซงซี่ - อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, โตมาส์ เลอมาร์ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ผู้ตัดสิน : ซานโดร ริชชี่ (บราซิล)
ข้อมูลที่น่าสนใจ
- ทั้งคู่เคยเจอกันมาในฟุตบอลโลกแล้ว 2 ครั้ง ปรากฏว่าฝรั่งเศสเอาชนะ 2-1 ในปี 1998 แต่เดนมาร์กก็ทุบคืน 2-0 ปี 2002
- ทีมตราไก่สามารถปราบทัพโคนมได้ถึง 6 จาก 7 นัดหลังสุดที่พบกันรวมทุกรายการ
- เดนมาร์กไม่แพ้ใครมาแล้ว 6 นัดติดต่อกันทุกรายการ สถิติอยู่ที่ชนะ 3 เสมอ 3
- มีสกอร์รวมเกิดขึ้นไม่ถึง 2.5 ประตูตลอด 6 เกมหลังสุดที่ทีมโคนมลงสนาม
- ฝรั่งเศสชนะมา 5 จาก 6 นัดหลังสุด รวมถึงสองเกมแรกในกลุ่ม ซี ที่พวกเขาเก็บ 6 แต้มเต็มผ่านเข้ารอบ
- ทีมตราไก่แพ้แค่เกมเดียวจาก 14 นัดหลังสุดในทุกรายการ ที่เหลือชนะ 10 เสมอ 3