ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » คู่หยุดโลก!บราซิลจัด 'เนย์มาร์' ยิง,เบลเยียมมี 'ลูกากู' โป้ง8ทีมบอลโลก

คู่หยุดโลก!บราซิลจัด 'เนย์มาร์' ยิง,เบลเยียมมี 'ลูกากู' โป้ง8ทีมบอลโลก

Posted 06/07/2018 by siamsport

"ขุนพลแซมบ้า" บราซิล เต็งแชมป์ลุ้น เนย์มาร์ ดาวยิงจอมวางมาดปิดสกอร์ เกมพบ ''ปีศาจแดงแห่งยุโรป'' เบลเยียม ที่ผลงานโดดเด่นเหลือเกินยังคงวาง โรเมลู ลูกากู เป็นตัวหลักล่าตาข่าย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 (รอบ 8 ทีมสุดท้าย) คืนวันศุกร์ที่ 6 ก.ค. ศกนี้ (ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3 และ TV5, เวลา : 01.00 น.)


ปรีวิวฟุตบอลโลก 2018
(รอบ 8 ทีมสุดท้าย)
วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2561
บราซิล   -   เบลเยียม 
ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3 และ TV5, เวลา : 01.00 น.

สนาม : คาซาน อารีน่า, คาซาน, ประเทศรัสเซีย (สนามกลาง)

    ''เซเลเซา'' ทีมชาติบราซิล อดีตแชมป์โลก 5 สมัย ประเดิมลงสนามนัดแรกในเวิลด์ คัพ 2018 ทำได้เพียงแค่เสมอกับสวิตเซอร์แลนด์ ไป 1-1 ก่อนมาออกแรงเหนื่อยเอาชนะ คอสตาริกา 2-0 ในนัดที่สอง โดยได้ประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก คูตินโญ่ ในนาทีที่ 90+1 และ เนย์มาร์ นาทีที่ 90+7 และนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ทุบเซอร์เบีย ไปสบายๆ 2-0 ทำให้มี 7 คะแนนจากสามนัด ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นทีมอันดับหนึ่งของกลุ่ม อี

    ผลงานในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้น บราซิล ปราบ ''จังโก้'' เม็กซิโก 2-0 จากการพังประตูของเนย์มาร์ ในนาทีที่ 51 และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในนาทีที่ 88 ทำให้พวกเขาเอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งหมดในการลงสนามสามเกมหลัง และไม่เสียประตูเลย

   ประตูแรกของเนย์มาร์ จากเกมล่าสุด นับเป็นประตูที่ 227 ของบราซิล ในประวัติศาสตร์การเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ทำให้บราซิล กลายเป็นเจ้าของสถิติทำสกอร์มากที่สุดในเวิลด์ คัพ แทนที่เยอรมัน ไปแล้ว

    นอกจากนั้นมันยังเป็นประตูที่ 6 ของเนย์มาร์ ในการเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย สมัยที่สองของเจ้าตัว ขึ้นมาเทียบชั้นยอดดาวเตะของบราซิล ในอดีตอย่าง เบเบโต้ และ ริเวลีโน่ ที่เคยคว้าแชมป์โลกมาแล้วทั้งนั้น

     ตีตี้ เทรนเนอร์ทีมชาติบราซิล ต้องขาด คาเซมีโร่ กองกลางตัวรับคนเก่งที่ติดโทษแบน จากการได้ใบเหลืองสะสมครบตามโควตาพอดี คาดว่าจะให้ แฟร์นันดินโญ่ ลงมาเล่นแทน

    ขณะที่รายของ ดั๊กลาส คอสต้า ปีกตัวเก่งจากยูเวนตุส หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา กลับมาซ้อมได้เต็มที่แล้ว อาจจะมีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรอง

    ในรายของ มาร์เซโล่ วิเอยร่า แบ็กซ้ายตัวกลั่น ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บหลังแล้ว จะได้ลงเล่นตัวจริงแทน ฟิลิเป้ ลุยส์ กาสมีร์กี้ ที่ได้โอกาสในนัดก่อน

    ส่วน ดานิโล่ แบ็กขวาที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา สามารถกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว ต้องรอดูว่าเรียกความฟิตทันหรือไม่ ถ้ายังไม่พร้อมจะเป็น ฟ้ากเนอร์ ลงเล่นแทนอีกครั้ง

    รูปแบบการเล่นใช้ระบบ 4-2-3-1 ให้ อลิสซอน ลงเฝ้าเสา พร้อมได้ความช่วยเหลือจากแนวรับอย่าง ฟ้ากเนอร์, ติอาโก้ ซิลวา, ชูเอา มิรันด้า และ มาร์เซโล่ วิเอยร่า

    เกมนี้ ตีเต้ เทรนเนอร์ทีมชาติบราซิล มอบหมายให้ ชูเอา มิรันด้า ปราการหลังตัวเก่ง ทำหน้าที่กัปตันทีม "เซเลเซา"

    ขุมกำลังในแดนกลางวาง เปาลินโญ่, แฟร์นันดินโญ่ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงมาทำเกมรุกและช่วยเกมรับ

สามประสานแดนหน้าอันตรายสุดขั้วทั้ง วิลเลี่ยน, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ เนย์มาร์ ลงทะลวงตาข่ายพร้อมกัน

    ส่วน ''ปีศาจแดงแห่งยุโรป'' ทีมชาติเบลเยียม โชว์ฟอร์มสวยสดงดงามในการเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคว้าชัยสามนัดรวด เก็บ 9 คะแนนเต็ม ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นทีมอันดับหนึ่งของกลุ่ม จี

    จากนั้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทางเบลเยียม พลิกกลับมาเชือดญี่ปุ่น ได้อย่างสุดมันส์ 3-2 หลังจากโดนนำไปก่อนถึง 2-0 ช่วง 52 นาทีแรก แต่รวมใจกันสู้แล้วทำสามประตูรวดจาก แยน แฟร์ต็องเก้น นาทีที่ 69, มารูยาน เฟลไลนี่ นาทีที่ 74 และ นาเซอร์ ชาดลี่ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+4 จนทะลุเข้ามาเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

  โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ เทรนเนอร์ชาวสเปนของทีมชาติเบลเยียม ต้องรอเช็กอาการบาดเจ็บเข่าซ้ายของ อั๊ดนาน ยานาไซ ปีกตัวเก่งวัย 23 ปี

    ขณะที่ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ปราการหลังตัวเก่งที่กลับมาฟิตเต็มที่แล้วจะลงยืนเป็นสามเซนเตอร์แบ็กร่วมกับ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ และ แยน แฟร์ต็องเก้น เหมือนเดิม

     ในรายของ นาเซอร์ ชาดลี่ ที่ลงมายิงประตูชัยให้เบลเยียม คว้าชัยเหนือญี่ปุ่น อาจได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงแทน ยานนิค การ์ราสโก้ ตรงตำแหน่งวิงแบ็กกราบซ้าย

    รูปแบบการเล่นใช้สูตร 3-4-3 ตำแหน่งผู้รักษาประตูใช้ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ลงมาเฝ้าเสา พร้อมได้ความช่วยเหลือจากแนวรับอย่าง โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี และ แยน แฟร์ต็องเก้น

 แดนกลางวาง โธมัส เมอนิเย่ร์, เควิน เดอ บรอยน์, อักเซล วิตเซล และ นาเซอร์ ชาดลี่ ลงมาทำเกมรุกและช่วยเกมรับ

    สามประสานแดนหน้าส่ง ดรีส์ เมอร์เท่นส์, โรเมลู ลูกากู และ เอแด็น อาซาร์ ลงล่าตาข่าย

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
    บราซิล : อลิสซอน - ฟ้ากเนอร์, ติอาโก้ ซิลวา, ชูเอา มิรันด้า (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - เปาลินโญ่, แฟร์นันดินโญ่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - วิลเลี่ยน, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, เนย์มาร์

    เบลเยียม : ติโบต์ กูร์กตัวส์ -โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, แยน แฟร์ต็องเก้น -โธมัส เมอนิเย่ร์, เควิน เดอ บรอยน์, อักเซล วิตเซล, นาเซอร์ ชาดลี่ - ดรีส์ เมอร์เท่นส์, โรเมลู ลูกากู, เอแด็น อาซาร์ (กัปตันทีม) 

    ผู้ตัดสิน : มิโลรัด มาซิซ (เซอร์เบีย)

ข้อมูลที่น่าสนใจ
- ทั้งสองทีมเคยเจอกันหนเดียวในฟุตบลอโลก 2002 รอบ 16 ทีมสุดท้าย บราซิลเอาชนะ เบลเยียม 2-0 จากประตูของ ริวัลโด้ และ โรนัลโด้ ซึ่งครั้งนั้นทีมแซมบ้าจบที่การคว้าแชมป์โลก
- ทีมเซเลเซาไม่แพ้ใครมา 15 นัดติดต่อกัน สถิติอยู่ที่ชนะ 11 เสมอ 4
- บราซิลเสียประตูแค่ลูกเดียวเท่านั้นจาก 9 นัดหลังสุดในทุกรายการ
- บราซิลแพ้แค่เกมเดียวจาก 25 นัดหลังสุดในทุกรายการ นั่นคือการพ่ายคาบ้านต่ออาร์เจนตินา 0-1 ในเกมคัดบอลโลก
- มีสกอร์รวมไม่ถึง 2.5 ประตูเกิดขึ้น 6 จาก 7 นัดหลังสุดที่ทีมแซมบ้าลงสนาม
- นี่เป็นเวลา 23 เกมติดต่อกันเข้าไปแล้วที่เบลเยียมไม่เคยแพ้ใคร สถิติอยู่ที่ชนะ 18 เสมอ 5
- หนสุดท้ายที่เบลเยียมแพ้ต้องย้อนกลับไปถึงเดือนกันยายน 2016 เกมอุ่นเครื่องที่ถูกสเปนสอย 2-0
- มีสกอร์รวมเกิน 2.5 ลูกเกิดขึ้นตลอด 5 จาก 6 เกมหลังสุดที่เบลเยียมลงสนาม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »