ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » ตัดเชือกเดือด!อังกฤษปะทะโครเอเชีย, 'เคน' วัดคม 'โมดริช' บอลโลก2018

ตัดเชือกเดือด!อังกฤษปะทะโครเอเชีย, 'เคน' วัดคม 'โมดริช' บอลโลก2018

Posted 11/07/2018 by siamsport

"สิงโตคำราม" อังกฤษ เตรียมส่ง แฮร์รี่ เคน นำทีมล่าตาข่าย เกมพบ "ตาหมากรุก" โครเอเชีย ที่มี ลูก้า โมดริช เคลื่อนทัพรบพร้อมปิดสกอร์ ลุ้นระทึกในศึกฟุตบอลโลก 2018 (รอบรองชนะเลิศ) คืนวันพุธที่ 12 ก.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3, True4U, AmarinTV และ TV5 เวลา : 01.00 น.

ปรีวิวฟุตบอลโลก 2018
(รอบรองชนะเลิศ)
วันพุธที่ 12 กรกฎาคม 2561
โครเอเชีย   -   อังกฤษ
ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3, True4U, AmarinTV และ TV5, เวลา : 01.00 น.


สนาม : ลุชนิกี้ สเตเดี้ยม, มอสโก, ประเทศรัสเซีย (สนามกลาง)
''ทีมตาหมากรุก'' โครเอเชีย ภายใต้การคุมทัพของ ซลัตโก้ ดาลิช โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการนี้คว้าชัยมาได้ทุกนัด ไล่ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มที่ประเดิมด้วยการทุบ ไนจีเรีย 2-0 ก่อนมาต้อน อาร์เจนตินา 3-0 แล้วเกมสุดท้ายส่งสำรองลงสนามหลายรายยังเชือด ไอซ์แลนด์ ได้อีก 2-1 ทำให้เข้ารอบด้วยการเป็นทีมอันดับหนึ่งของกลุ่ม ดี

จากนั้นรอบ 16 ทีมสุดท้าย โครเอเชีย ดวลกับ เดนมาร์ก อย่างสนุก เสมอกัน 1-1 ในเวลา 90 นาที ต่อเวลาพิเศษยังเสมออยู่ด้วยสกอร์เดิม ก่อนที่ ทีมตาหมากรุก จะดวลจุดโทษชนะไป 3-2

มาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย โคจรมาเจอกับ รัสเซีย ชาติเจ้าภาพ บู๊กันสนุกเสมอ 1-1 ในเวลา 90 นาที ต่อเวลาพิเศษเสมอ 2-2 ต้องดวลจุดโทษชี้ขาด ปรากฏว่า โครเอเชีย แม่นกว่าชนะไป 4-3 ตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ได้เป็นหนแรกในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่เคยคว้าอันดับ 3 มาครองในศึกฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศส

สภาพทีมล่าสุดของโครเอเชีย จะไม่มี ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ แบ็คขวาที่มีอาการบาดเจ็บหัวเข่า มาจากเกมโค่นหมีขาว โดยคาดกันว่าจะใช้งาน โดมากอย วีด้า กองหลังวัย 29 ปี ที่รอดตัวจากการโดนฟีฟ่า แบน หลังจากก่อเหตุฉาวด้วยการแสดงความดีใจที่เกี่ยวข้องกับการเมืองด้วยการตะโกนคำว่า ''ยูเครนจงเจริญ'' หลังจบเกมปราบรัสเซียนั้น มายืนเป็นแบ็กขวาแทน

ส่วนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟนั้นจะส่ง เวดราน ชอร์ลูก้า ปราการหลังจอมเก๋าวัย 32 ปี ที่ผ่านการติดทีมชาติมาแล้ว 103 นัด ลงมายืนคู่กับ เดยัน ลอฟเรน แทน

 

ในรายของลอฟเรน ที่มีอาการบาดเจ็บไม่ได้ลงซ้อม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คาดว่าจะลงเล่นเกมนี้ได้ เช่นเดียวกับ ดานิเยล ซูบาซิช ผู้รักษาประตูจอมหนึบที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาไม่ได้ซ้อมเมื่อวันจันทร์ ก็จะกลับมาลงเฝ้าเสาได้เช่นกัน

สำหรับมิดฟิลด์คู่กลางนั้นใช้งาน อิวาน ราคิติช จับคู่กับ มาร์เซโล่ โบรโซวิช โดยแนวรุกมี ลูก้า โมดริช กัปตันทีมที่ทำไปแล้วสองประตูในรายการนี้ บัญชาการเกมบุก พร้อมได้ อันเต้ เรบิช กับ อิวาน เปริซิช ช่วยกันทำเกมสนับสนุน มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าตัวเป้าเข้าถล่มประตู

 

ขณะที่ โดมากอย วีด้า ที่ไปเยอะเย้ยรัสเซียหลังชนะมาในรอบที่แล้ว อัดคลิปตะโกนว่า ''ยูเครนจงเจริญ'' นั้น จนมีข่าวว่าอาจโดนลงโทษ ยังอาจได้ลงต่อไปอีก ภายหลังที่มีการขอโทษแล้ว

ฟาก ''สิงโตคำราม'' ทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การคุมทัพของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เริ่มต้นในรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเชือด ตูนิเซีย 2-1 ก่อนมาขย้ำ ปานามา เละเทะ 6-1 แล้วเกมสุดท้ายส่งสำรองลงสนามเลยพ่ายให้กับ เบลเยียม ไป 0-1 ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการเป็นทีมอันดับสองของกลุ่ม จี

จากนั้นรอบ 16 ทีมสุดท้ายดวลจุดโทษชนะ โคลอมเบีย ทีมแกร่งจากอเมริกาใต้ มา 4-3 หลังจากเสมอกันในเวลา 120 นาที 1-1 ซึ่งเป็นการดวลจุดโทษชนะคู่แข่งขันในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้เป็นครั้งแรกของทีมชาติอังกฤษ ด้วย

ต่อมาในรอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษ ปราบ สวีเดน ได้อย่างงดงาม 2-0 จากการโขกของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ในนาทีที่ 30 และ เดเล่ อัลลี่ ในนาทีที่ 59 ซึ่งประตูของแม็คไกวร์ นั้น เป็นลูกแรกของเจ้าตัวในการรับใช้ทีมชาติอังกฤษ เป็นนัดที่ 10 ด้วย
 

 


ความพร้อมของทีมชาติอังกฤษ เวลานี้ รอเช็ก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางคนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าจนต้องโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 85 ของเกมชนะสวีเดน

อย่างไรก็ตามผลการตรวจล่าสุดนั้นค่อนข้างดี คาดว่าจะฟื้นตัวทันลงช่วยทีมได้อย่างไม่มีปัญหา

ส่วน เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าความเร็วสูงยังต้องรอเช็กความฟิต แต่ข่าวดีคือ ไคล์ วอล์คเกอร์, เดเล่ อัลลี่ และ แอชลี่ย์ ยัง ฟื้นตัวจาอการบาดเจ็บเล็กน้อย กลับมาลงสนามเป็น 11 คนแรกได้ทั้งหมด

รูปแบบการเล่นใช้สูตร 3-5-2 วาง จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารจอมหนึบลงมาเฝ้าเสา พร้อมได้ ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ยืนเป็นสามเซนเตอร์แบ็ก

 

ห้องเครื่องของทีมมี เดเล่ อัลลี่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจสซี่ ลินการ์ด ช่วยกันปั้นเกม พร้อมได้  คีแรน ทริปเปียร์ กับ แอชลี่ย์ ยัง รับบทวิงแบ็ค

คู่หน้าครบเครื่องทีเดียวได้ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมที่ซัดไปแล้ว 6 ประตู นำเป็นดาวซัลโวอยู่ในเวลานี้ ลงล่าตาข่ายกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่มีความเร็วจัดจ้านและมีความคล่องตัวสูงมาก

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โครเอเชีย : ดานิเยล ซูบาซิช - โดมากอย วีด้า, เวดราน ชอร์ลูก้า, เดยัน ลอฟเรน, อิวาน สตรินิช - อิวาน ราคิติช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช - อันเต้ เรบิช, ลูก้า โมดริช (กัปตันทีม), อิวาน เปริซิช - มาริโอ มานด์ซูคิช

อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์ - คีแรน ทริปเปียร์, เดเล่ อัลลี่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจสซี่ ลินการ์ด, แอชลี่ย์ ยัง - แฮร์รี่ เคน (กัปตันทีม), ราฮีม สเตอร์ลิง

ผู้ตัดสิน : คูเนย์ต ชาคีร์ (ตุรกี)

ข้อมูลน่าสนใจ
- 5 จาก 6 เกมคู่นี้เจอกันหลังสุดมีการยิงประตูรวมเกินนัดละ 2.5 ประตู
- อังกฤษ ยิงอย่างน้อย 2 ประตูใน 5 จาก 6 เกมเจอ โครเอเชีย หลังสุดในทุกรายการ
- อังกฤษ ชนะ โครเอเชีย ตลอด 2 นัดหลังในรอบคัดเลือกบอลโลก 2010 บุกชนะ 4-1 เมื่อ 10 ก.ย. 2008 และเปิดบ้าน ย้ำชัย 5-1 เมื่อ 9 ก.ย. 2009 และไม่เคยเจอกันอีกเลยกระทั่งนัดนี้
- จาก 2 นัดเจอกันล่าสุด แข้งตาหมากรุกที่ยังในทีมชุดนี้มี เวอร์ดาน ชอร์ลูก้า, ลูก้า โมดริช, อีวาน ราคิติช, มาริโอ มานด์ซูคิช และดานิเยล ซูบาซิช ขณะที่ อังกฤษ ไม่มีนักเตะคนไหนหลงเหลือในทีมชุดนี้อีกแล้ว
- คู่นี้เจอกันในรอบสุดท้ายทัวร์นาเมนต์ใหญ่หนเดียวคือยูโร 2004 รอบแรก ที่ขุนพลสิงโตคำราม ชนะ 4-2 เมื่อ 21 มิ.ย. 2004
- ทว่านี่คือการพบกันครั้งแรกในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก
- โครเอเชีย ไร้พ่ายตลอด 6 เกมหลังรวมทุกรายการ (ชนะ 4 เสมอ 2) ตั้งแต่อุ่นแข้งแพ้ บราซิล 0-2 เมื่อ 3 มิ.ย.
- โครเอเชีย ไร้พ่ายตลอด 9 เกมบอลโลกหลังสุด (รวมรอบคัดเลือก) ชนะ 5 เสมอ 4 ตั้งแต่บุกแพ้ ตุรกี 0-1 ในรอบคัดเลือกบอลโลก เมื่อ 6 ก.ย. 2017
- นับเฉพาะเกมบอลโลกรอบสุดท้าย โครเอเชีย ไร้พ่าย 5 นัดติดต่อกัน (ชนะ 3 เสมอ 2) ตั้งแต่แพ้ เม็กซิโก 1-3 นัดส่งท้ายรอบแรก เวิลด์ คัพ 2014 เมื่อ 23 มิ.ย. 2014
- อังกฤษ แพ้หนเดียวจาก 16 เกมบอลโลกหลังสุด (รวมรอบคัดเลือก) ชนะ 11 เสมอ 4 คือเกมส่งท้ายรอบแรกที่เสียท่า เบลเยียม 0-1 เมื่อ 28 มิ.ย.
- อังกฤษ แพ้หนเดียวจาก 15 เกมหลังรวมทุกถ้วย (ชนะ 10 เสมอ 4)
- นับเฉพาะเกมบอลโลกรอบสุดท้าย อังกฤษ แพ้หนเดียวจาก 6 เกมหลังสุด (ชนะ 3 เสมอ 2)
- 3 เกมบอลโลกหลังสุดของ อังกฤษ มีการยิงประตูรวมน้อยกว่านัดละ 2.5 ประตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »