นัดชิงฯบอลโลก!ฝรั่งเศสลุ้นแชมป์สมัย2จัด 'เอ็มบั๊ปเป้' ยิง,โครเอเชียมี 'มานด์ซูคิช' โป้ง
Posted 15/07/2018 by siamsport
บทสรุปครั้งนี้ทีมชาติใดจะเป็นสุดยอดลูกหนังโลก..."ตราไก่" ฝรั่งเศส เตรียมลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 2 โดย คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ พร้อมลงกระชากปิดสกอร์ เกมพบ "ตาหมากรุก" โครเอเชีย ที่พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ซิวแชมป์โลกสมัยแรก โดยแนวรุกจัด มาริโอ มานด์ซูคิช ดาวยิงตัวเก่งล่าตาข่าย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบชิงชนะเลิศ คืนวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ค.นี้ ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3, True4U, Amarin TV และ TV5, เวลา : 22.00 น.
ปรีวิวฟุตบอลโลก 2018
(นัดชิงชนะเลิศ)
วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2561
ฝรั่งเศส - โครเอเชีย
ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3, True4U, Amarin TV และ TV5, เวลา : 22.00 น.
สนาม : ลุชนิกี้ สเตเดี้ยม, มอสโก, ประเทศรัสเซีย (สนามกลาง)
ทีมชาติฝรั่งเศส จะปะทะ โครเอเชีย ในฟุตบอลโลก 2018 รอบชิงชนะเลิศ ที่ลุชนิกี้ สเตเดี้ยม ซึ่งมีความจุ 78,011 ที่นั่ง อยู่ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้วทั้งหมด 5 นัด ฝรั่งเศส ชนะ 3 เสมอ 2 พบกันล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2011 ในแมตช์กระชับมิตร ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์ ประเทศฝรั่งเศส เสมอกัน 0-0 และพบกันในฟุตบอลโลกเพียงครั้งเดียว ในรอบรองชนะเลิศ ปี 1998 ตราไก่ชนะ 2-1 ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 1998
ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เซเล็กซิยอนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศส วัย 49 ปี นำทีมไม่แพ้ 10 เกมติดต่อกัน (ชนะ 8 เสมอ 2) และไม่แพ้ 10 นัดหลังสุดในฟุตบอลโลก
ผลงานในรอบรองชนะเลิศ ฝรั่งเศส ชนะ เบลเยียม 1-0 ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม, เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อคืนวันอังคารที่ 10 กรกฎาคม โดยตราไก่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก (1998, 2006, 2018) ซึ่งทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว 1 สมัย เมื่อปี 1998 และกำลังไล่ล่าแชมป์โลกสมัยที่ 2
สำหรับเดส์ชองส์ได้ชื่อว่าเป็นเทรนเนอร์ที่คุมทีมชาติฝรั่งเศสมากที่สุดที่จำนวน 82 เกม (ชนะ 52, เสมอ 15, แพ้ 15) หลังจากเขาคุมทีมมาตั้งแต่ปี 2012 เขาชนะสถิติของ เรย์มงด์ โดเมเน็ค อดีตกุนซือเลส์ เบลอส์ ที่คุมทีม 79 นัด ชนะ 41 เสมอ 24 แพ้ 14 ระหว่างปี 2004-2010
เขาเป็นเทรนเนอร์คนแรกในประวัติศาสตร์ของเลส์ เบลอส์ ที่นำทีมเข้าชิงชนะเลิศ 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ (ยูโร 2016, ฟุตบอลโลก 2018)
เดส์ชองส์จะจัดทีมในระบบการเล่น 4-2-3-1 ตามเดิม โดยไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน เขาจะส่งผู้เล่นชุดเดียวกับที่ปราบเบลเยียม ลงสนามนำโดย อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตู จะลงเล่นนัดที่ 104 ของเขาในทีมชาติ และจะทำหน้าที่กัปตันทีมชาติ นัดที่ 80 ซึ่งเขาได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่ทำหน้าที่กัปตันทีมชาติมากที่สุด
ทางด้าน คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ อองตวน กรีซมันน์ ต่างยิงไปแล้วคนละ 3 ประตู นำดาวซัลโวร่วมของตราไก่ในศึกนี้ โดยมี โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทำหน้าที่กองหน้าตัวเป้า แม้ว่าชิรูด์ยังทำประตูไม่ได้ก็ตาม
''ตาหมากรุก'' ทีมชาติโครเอเชีย ภายใต้การคุมทัพของ ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือฝีมือเยี่ยมวัย 51 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการนี้ คว้าชัยมาได้ทุกนัด ไล่ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มที่ประเดิมด้วยการทุบไนจีเรีย 2-0 ก่อนมาต้อน อาร์เจนตินา 3-0 แล้วเกมสุดท้ายส่งสำรองลงสนามหลายรายยังเชือดไอซ์แลนด์ได้อีก 2-1 ทำให้เข้ารอบด้วยการเป็นทีมอันดับหนึ่งของกลุ่ม ดี
จากนั้นรอบ 16 ทีมสุดท้าย โครเอเชียดวลกับเดนมาร์กอย่างสนุก เสมอกัน 1-1 ในเวลา 90 นาที ต่อเวลาพิเศษยังเสมออยู่ด้วยสกอร์เดิม ก่อนที่ทีมตาหมากรุกจะดวลจุดโทษชนะไป 3-2
มาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย โคจรมาเจอกับรัสเซีย ชาติเจ้าภาพ บู๊กันสนุกเสมอ 1-1 ในเวลา 90 นาที ต่อเวลาพิเศษเสมอ 2-2 ต้องดวลจุดโทษชี้ขาด ปรากฏว่าโครเอเชียแม่นกว่าชนะไป 4-3 ตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ
ในรอบรองชนะเลิศนั้น โครเอเชียคว่ำอังกฤษ 2-1 ช่วงการต่อเวลาพิเศษ หลังจากเสมอกัน 1-1 ใน 90 นาที ผงาดเข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
โครเอเชียกลายเป็นทีมที่สองต่อจากอังกฤษ ซึ่งต้องเล่นถึงช่วงต่อเวลา 3 เกมติดต่อกันในฟุตบอลโลก โดยทัพสิงโตคำรามเคยทำไว้ในเวิลด์ คัพ ปี 1990 ไล่ตั้งแต่ต่อเวลาชนะ เบลเยียม 1-0 (รอบ 16 ทีม), ต่อเวลาเชือด แคเมอรูน 3-2 (รอบ 8 ทีม) และเสมอเยอรมันตะวันตก 1-1 ใน 120 นาที แล้วแพ้ดวลจุดโทษ 3-4
สภาพทีมของโครเอเชีย ยามนี้ต้องรอเช็ก อิวาน สตรินิช แบ็กซ้ายที่เดินกะเผลกออกจากสนาม เมื่อเกมรอบรองฯ กับอังกฤษ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รวมไปถึง มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าตัวเก่งที่ซัดประตูชัยดับสิงโตคำราม มีอาการเป็นตะคริว แต่คาดว่าทั้งสองรายจะฟื้นตัวทันเวลาทำศึกนัดชิง
ขณะที่ ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ แบ็กขวาที่หายเจ็บหัวเข่า กลับมาลงสนามได้ตั้งแต่เกมเจอกับอังกฤษแล้วนั้น จะยึดตำแหน่งแบ็กขวาต่อไป
ส่วน อิวาน เปริซิช ตัวรุกริมเส้นคนสำคัญน่าจะถูกเข็นลงเช่นเดียวกัน โดยในช่วงผ่านมาทีมแพทย์ของโครแอตพยายามดูแลอย่างเต็มที่ เพื่อจะให้มีสภาพร่างกายฟิตพอลงตัวจริง
รูปแบบการเล่นของโครเอเชียใช้สูตร 4-2-3-1 ให้ ดานิเยล ซูบาซิช ลงมาเฝ้าเสา พร้อมได้ความช่วยเหลือจากแนวรับอย่าง ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วีด้า และ อิวาน สตรินิช
ขุมกำลังในแดนกลางวาง อิวาน ราคิติช คุมเกมกับ มาร์เซโล่ โบรโซวิช เปิดทางให้ อันเต้ เรบิช, ลูก้า โมดริช (กัปตันทีม) และ อิวาน เปริซิช ร่ายเกมรุกสนับสนุน มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าตัวเป้าเข้าถล่มประตู
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - เบนฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, ซามูแอล อุมติตี้, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป็อกบา - คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, อองตวน กรีซมันน์, แบลส มาตุยดี้ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
โครเอเชีย : ดานิเยล ซูบาซิช - ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วีด้า, อิวาน สตรินิช - อิวาน ราคิติช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช - อันเต้ เรบิช, ลูก้า โมดริช (กัปตันทีม), อิวาน เปริซิช - มาริโอ มานด์ซูคิช
ผู้ตัดสิน : เนสตอร์ ปีตาน่า (อาร์เจนตินา)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : เอร์นาน ไมดาน่า (อาร์เจนตินา) และ ฮวน ปาโบล เบลัตติ (อาร์เจนตินา)
ผู้ตัดสินที่ 4 : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)
เนสตอร์ ปีตาน่า (อาร์เจนตินา) ผู้ถูกเลือกให้ชี้ขาดนักชิงฯบอลโลก 2018
ผู้ตัดสิน, ผู้ช่วยฯ 1 และ ผู้ช่วยฯ 2 นัดชิงบอลโลก 2018 ระหว่างฝรั่งเศส พบ โครเอเชีย เป็นชุดเดียวกันกับนัดเปิดสนาม ยกเว้นผู้ตัดสินที่ 4 ที่เปลี่ยนมาเป็น บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)
ข้อมูลน่าสนใจ
- คู่นี้เจอกันทั้งหมด 5 ครั้ง ฝรั่งเศสไม่เคยเสียท่าโครเอเชียแม้แต่ครั้งเดียว ชนะรวดใน 3 เกมแรกก่อนเจ๊าใน 2 นัดหลังสุด
- คู่นี้เจอกันในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย หนเดียวคือรอบตัดเชือก ฟร้องซ์ 98 ที่ ลิลิยอง ตูราม เหมาคนเดียว 2 ประตูให้ตราไก่แซงเข้าป้าย 2-1 กรุยทางสู่นัดชิงที่โค่นบราซิล 3-0 คว้าแชมป์โลกสมัยแรก และสมัยเดียวของพวกเขาจนถึงตอนนี้
- ส่วนทัพโครแอตคว้าอันดับ 3 หลังชนะฮอลแลนด์ 2-1 ในฟุตบอลโลกครั้งนั้น เป็นผลงานดีสุดในเวิลด์ คัพ จนถึงตอนนี้ ทำให้ ดาวอร์ ซูเคอร์ เป็นดาวซัลโวสูงสุดด้วยจำนวน 6 ประตู
- ขณะการเจอกันในเกมทางอีกครั้งอีกนัดเดียว คือศึกยูโร 2004 รอบแรก ที่เสมอกัน 2-2 เมื่อ 17 มิ.ย. 14 ปีที่แล้ว
ฝรั่งเศส
- ฝรั่งเศสผ่านเข้าชิงฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ (ปี 1998 ชนะ บราซิล 3-0, ปี 2006 ดวลจุดโทษแพ้ อิตาลี 3-5 หลังเสมอ 1-1 ในเวลาปกติ และต่อเวลาพิเศษ 120 นาที)
- ฝรั่งเศสเป็นชาติยุโรปที่เข้าชิงฟุตบอลโลกมากสุดอันดับ 3 รองจากเยอรมัน (8) และอิตาลี (6)
- ทว่านับเฉพาะตั้งแต่ฟร้องซ์ 98 พวกเขาเป็นชาติที่เข้าชิงฟุตบอลโลกมากครั้งที่สุดแล้ว
- ฝรั่งเศสไร้พ่ายใน 10 เกมฟุตบอลโลกหลังสุด (รวมรอบคัดเลือก) ชนะ 8 เสมอ 2 ตั้งแต่แพ้ สวีเดน 1-2 เมื่อ 9 มิ.ย. 2017
- นับเฉพาะเกมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ฝรั่งเศส ชนะ 5 เสมอ 1 ใน 6 นัดหลังตั้งแต่แพ้ เยอรมัน 0-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เวิลด์ คัพ 2014 เมื่อ 4 ก.ค. 2014
- ฝรั่งเศสไร้พ่ายตลอด 10 เกมหลังรวมทุกถ้วย (ชนะ 8 เสมอ 2) ตั้งแต่อุ่นแข้งแพ้โคลอมเบีย 2-3 เมื่อ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา
- อองตวน กรีซมันน์ มีส่วนร่วมกับ 13 จาก 20 ประตูหลังสุดที่ฝรั่งเศสยิงได้ในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ (ฟุตบอลโลกกับยูโร) คือ 9 ประตู 4 แอสซิสต์
- อองตวน กรีซมันน์ มีส่วนร่วมกับ 20 ประตู ใน 20 เกมที่เขาลงเล่นให้ฝรั่งเศสหลังสุด (12 ประตู 8 แอสซิสต์)
- มีเพียง แฮร์รี่ เคน (ยิง 6 ประตู) ที่มีส่วนร่วมกับการได้ประตูในฟุตบอลโลก 2018 มากกว่า อองตวน กรีซมันน์ (3 ประตู 2 แอสซิสต์)
โครเอเชีย
- โครเอเชียผ่านเข้าชิงฟุตบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากการผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 5 ครั้ง
- โครเอเชียไร้พ่ายตลอด 7 เกมหลังรวมทุกรายการ (ชนะ 4 ชนะต่อเวลา 1 เสมอ 2) ตั้งแต่อุ่นแข้งแพ้บราซิล 0-2 เมื่อ 3 มิ.ย.
- โครเอเชียไร้พ่ายตลอด 10 เกมฟุตบอลโลกหลังสุด (รวมรอบคัดเลือก) ชนะ 5 ชนะต่อเวลา 1 เสมอ 4 ตั้งแต่บุกแพ้ตุรกี 0-1 ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก เมื่อ 6 ก.ย. 2017
- นับเฉพาะเกมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย โครเอเชียไร้พ่าย 6 นัดติดต่อกัน (ชนะ 3 ชนะต่อเวลา 1 เสมอ 2) ตั้งแต่แพ้เม็กซิโก 1-3 นัดส่งท้ายรอบแรก เวิลด์ คัพ 2014 เมื่อ 23 มิ.ย. 2014
- โครเอเชียต้องเล่น 120 นาทีตลอด 3 เกมรอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ (ชนะต่อเวลา 1 ชนะจุดโทษ 2)
- 3 เกมฟุตบอลโลกหลังสุดของโครเอเชีย มีการยิงประตูรวมน้อยกว่านัดละ 2.5 ประตู
- อิวาน เปริซิช มีส่วนร่วมกับ 10 ประตู ในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ของโครเอเชีย (6 ประตู 4 แอสซิสต์) เป็นสถิติสูงสุดร่วมกับ ดาวอร์ ซูเคอร์ (9 ประตู 1 แอสซิสต์)
อันดับดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2018
6 ประตู : แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ)
4 ประตู : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส), โรเมลู ลูกากู (เบลเยียม), เดนิส เชรีเชฟ (รัสเซีย)
3 ประตู : ดีเอโก้ คอสต้า (สเปน), คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (ฝรั่งเศส), อองตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส), เอดินสัน คาวานี่ (อุรุกวัย), อาร์เต็ม ซิวบา (รัสเซีย), เยร์รี่ มีน่า (โคลอมเบีย)
2 ประตู : เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' (อาร์เจนตินา), มิเล่ เยดินัค (ออสเตรเลีย), เอแด็น อาซาร์ (เบลเยียม), ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (บราซิล), เนย์มาร์ (บราซิล), ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (อียิปต์), จอห์น สโตนส์ (อังกฤษ), ทากาชิ อินูอิ (ญี่ปุ่น), อาห์เหม็ด มูซ่า (ไนจีเรีย), ซน ฮึง-มิน (เกาหลีใต้), อันเดรียส กรานควิสต์ (สวีเดน), วาห์บี คาซรี่ (ตูนิเซีย), หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย), อิวาน เปริซิช (โครเอเชีย), มาริโอ มานด์ซูคิช (โครเอเชีย)
ปีตาน่าผู้ตัดสินนัดชิงบอลโลก
เนสตอร์ ปีตาน่า ผู้ตัดสินชาวอาร์เจนไตน์ จะได้ลงทำหน้าที่ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างฝรั่งเศสกับโครเอเชีย วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม นี้ โดยมี เอร์นาน ไมดาน่า และ ฮวน ปาโบล เบลัตติ ที่มาจากอาร์เจนตินา เช่นเดียวกันเป็นผู้ช่วย และขณะที่ผู้ตัดสินคนที่สี่เป็น บียอร์น ไคเปอร์ส จากเนเธอร์แลนด์
ปีตาน่า วัย 43 ปี ได้ลงทำหน้าที่ตัดสินในเกมเปิดทัวร์นาเมนต์ ที่รัสเซียต้อนซาอุดีอาระเบีย 5-0 และเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่โครเอเชียชนะเดนมาร์ก รวมถึงเกมรอบก่อนรองฯ ที่ฝรั่งเศสชนะอุรุกวัยด้วย โดยปีตาน่าเริ่มทำหน้าที่ตัดสินระดับนานาชาติ ตั้งแต่ปี 2010 และเป็นผู้ตัดสินจากอาร์เจนตินา คนที่สอง ที่ลงตัดสินฟุตบอลโลก สองสมัย ต่อจาก นอร์แบร์โต้ โกเอเรซซ่า ที่ลงตัดสิน 2 แมตช์ ในฟุตบอลโลก ปี 1970 ที่เม็กซิโก และ 1 แมตช์ ในฟุตบอลโลก ปี 1978 ที่อาร์เจนตินา
ปีตาน่าถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินชาวอเมริกาใต้ ที่มีประสบการณ์มากที่สุด รวมทั้งเคยลงตัดสินในระดับเยาวชน โดยเขาทำหน้าที่สามเกม ในฟุตบอลโลก ชุด ยู-17 ปี 2013 รวมทั้งลงทำหน้าที่ตัดสินเกมรอบชิงฯ ซูเปอร์โกปา อาร์เจนตินา
นอกจากนั้น เขายังทำหน้าที่ตัดสินฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2016 รอบตัดเชือก ระหว่างเยอรมันกับไนจีเรีย และในปี 2017 ก็ทำหน้าที่ตัดสิน รอบตัดเชือก ฟุตบอล ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ระหว่างเยอรมันกับเม็กซิโก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สงสัยมีย้าย! อาซาร์ เปรยได้เวลาออกไปค้นหาอะไรใหม่ๆ หลังค้าแข้งกับ เชลซี มา 6 ปี
เอเด็น อาซาร์ ดาวเตะ เชลซี เปรยว่าตนเองได้เวลาที่จะออกไปค้นหาอะไรที่แตกต่างออกไปแล้ว หลังจากที่ค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ มานาน 6 ปีเบลเยียม 2-0 อังกฤษ
"เบลเยียมคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2018 ไปครองถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม หลังบดเอาชนะอังกฤษ 2-0 โดยได้ประตูจาก โธมัส มูนิเยร์ และ เอเด็น อาซาร์ ในเกมฟุตบอลโลก 2018 นัดชิงอันดับสาม วันที่ 14 มิถุนายน"
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัปเดตตลาดนักเตะ (24 ธ.ค. 67) : แมนยู โละโกล, อาร์เซน่อล เล็งดาวยิง อตาลันต้า
เขี่ยอินโดฯตกรอบ แข้งฟิลิปปินส์ โดนสโมสรอินโดฯยกเลิกสัญญา
ต้องจ่ายหากหวังแชมป์!ยอร์ค ชี้ อาร์เซน่อล ควรเซ็น อิซัค
ที่สุดของหัวใจ! ไกเซโด้ เผยครอบครัวไม่ยอมกินเพื่อซื้อสตั๊ดให้ตน
ไม่ต้องพูดถึงแชมป์!เป๊ป รับ แมนซิตี้ เสี่ยงชวดลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์