ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » 5ประเด็นน่าสนใจเกมยูฟ่าซูเปอร์คัพ

5ประเด็นน่าสนใจเกมยูฟ่าซูเปอร์คัพ

Posted 14/08/2018 by siamsport

วันพุธที่ 15 สิงหาคมนี้จะมีเกม "มาดริด ดาร์บี้แมตช์" ฉบับพิเศษ ที่กรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย หลังจากที่ เรอัล มาดริด แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน กับ แอตเลติโก มาดริด แชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้ว ต้องมาดวลกันในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ

ทั้งนี้ หลังจากจบเกมนี้ไปแล้วทั้งสองทีมก็ต้องลงเล่นเกม ลา ลีกา สเปน ในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้นทันที แต่เกมนี้มีประเด็นน่าสนใจมากกว่าแค่การชิงถ้วยแห่งศักดิ์ศรี และเราจะมานำเสนอกันว่าประเด็นอะไรบ้างที่น่าจับตามอง

   
- ใครจะเป็นมือ 1 ของ เรอัล มาดริด ?

ตลอดช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา เกย์ลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูชาวคอสตาริกาทำผลงานได้ดีสุดๆ กับ เรอัล แชมป์รายการต่างๆ ที่เขาได้ร่วมกับทีม อย่างเช่น แชมป์ลีก 1 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 หน ถือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี

 อย่างไรก็ตาม ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธาน เรอัล แสดงออกมาโดยตลอดว่าต้องการนายทวารคนอื่นมาร่วมทัพ ก่อนที่สุดท้ายเขาจะสมหวัง หลังจากดึง ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายด่านจอมหนึบมาจาก เชลซี ได้สำเร็จ

 การเข้ามาของ กูร์กตัวส์ ทำให้หลายคนสงสัยว่าใครจะได้เป็นมือ 1 ของทีม เพราะทั้งคู่ต่างก็เหนียวหนึบพอๆ กัน และเกมในวันพุธนี้ก็อาจจะเป็นการบอกก็ได้ว่าระหว่าง กูร์กตัวส์ กับ นาบาส ใครจะได้ตำแหน่งนั้น

   
- อนาคตของ โมดริช

มื่อคุณอยู่กับ เรอัล มาดริด, เป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีม และประสบความสำเร็จอย่างมากกับทีม มันก็ดูเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะอยากบอกลาถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

 อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ความคิดของ โมดริช เพราะกองกลางวัย 32 ปี ตกเป็นข่าวกับ อินเตอร์ มิลาน ตลอดช่วงที่ผ่านมา และเขาก็แสดงท่าทีว่าต้องการย้ายทีมสุดๆ ด้วย ซึ่งเกมกับ แอต. มาดริด อาจจะเป็นการบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาจะยังอยู่กับทีมต่อไป หรือเตรียมจะบอกลา "ราชันชุดขาว" กันแน่

   
- กรีซมันน์ จะยังร้อนแรงหรือไม่ ?
 

หลังจากเพิ่งเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยให้ทีมชาติฝรั่งเศสได้แชมป์ ฟุตบอลโลก 2018 มาครองหมาดๆ กรีซมันน์ ก็มีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์อีกครั้ง หลังจากที่เขาเป็นหนึ่งในทีมชุดที่จะลงเล่นเกม ซูเปอร์ คัพ

 ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์คนเก่งของ แอต. มาดริด จัดทีมลงซ้อมโดยที่ให้ กรีซมันน์ ได้จับคู่กัลบ ดีเอโก้ คอสต้า ในแดนหน้าด้วย ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าหัวหอกชาวฝรั่งเศสจะยังผลิตสกอร์ต่อไปรึเปล่า

   
  - การประสานงานกันของ เลอมาร์ กับ กรีซมันน์ ?

 หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ อาแอส โมนาโก จนทำให้ตกเป็นที่สนใจของหลายทีมทั่วทวีปยุโรป ท้ายที่สุดแล้ว โตมาส์ เลอมาร์ ก็เลือกที่จะมาร่วมงานกับ กรีซมันน์ ในค่าย แอต. มาดริด ด้วยค่าตัวที่ว่ากันว่าอยู่ที่ 65 ล้านยูโร (ประมารณ 2,600 ล้านบาท)

การเข้ามาของ เลอมาร์ ทำให้หลายคนอยากดูว่าเขาจะเล่นได้เข้าขากับ กรีซมันน์ มากแค่ไหน และในวันพุธนี้เราก็อาจจะได้เห็นทั้งสองคนประสานงานกันก็ได้ เพราะ เลอมาร์ ก็ถูกหิ้วไปที่ เอสโตเนีย ด้วย โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองคนยังไม่ได้เล่นร่วมกันเลยแม้แต่นัดเดียว

 - บทพิสูจน์ใหญ่ครั้งแรกของ โลเปเตกี

ด้วยความที่หาญกล้าในการเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด ตั้งแต่ก่อนที่ทีมชาติสเปนจะลงเล่นเกมแรกในศึก ฟุตบอลโลก 2018 ทำให้ โลเปเตกี โดนทัพ "ลา โรฆา" ปลดออกจากตำแหน่ง และถูกแฟนบอลหลายคนที่ไม่ใช่สาวก เรอัล ตำหนิอย่างหนักมาโดยตลอด

การจะลบคำวิจารณ์เหล่านั้นออกไปได้ดีที่สุดก็คือการพา "ราชันชุดขาว" ทำผลงานให้ดี และคงไม่มีเกมไหนที่เหมาะจะเป็นการเริ่มต้นสำหรับเรื่องนั้นมากไปกว่าศึกแชมป์ชนแชมป์ของทวีปยุโรปอย่าง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ อีกแล้ว เพราะถ้าพูดกันตามตรงแล้วนั้น เกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมามันก็ไม่ได้มีความสำคัญมากนัก

อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่า แอต. มาดริด ของ ซิเมโอเน่ ไม่ใช่หมูที่จะให้ เรอัล เคี้ยวได้ง่ายๆ ดังนั้นก็ต้องมารอดูกันว่า โลเปเตกี จะผ่านบททดสอบที่สำคัญด่านแรกนี้ไปได้หรือไม่

 เกร็ดน่ารู้
 - นี่เป็นครั้งแรกที่เกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ เป็นการดวลกันของทีมจากเมืองเดียวกัน
  - นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ เรอัล กับ แอต. มาดริด ต้องมาดวลกันนอกประเทศสเปนในเกมนัดตัดสินแชมป์ของถ้วยระดับทวีปยุโรป โดย 2 หนก่อนหน้านี้คือนัดชิงดำของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงลิสบอน เมื่อปี 2014 และเกมชิงชนะเลิศของศึกชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" ในเมืองมิลาน เมื่อปี 2016 ซึ่งทั้งสองเกมดังกล่าวจบ 90 นาทีด้วยการเสมอกัน 1-1 ก่อนที่ "ราชันชุดขาว" จะชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ และช่วงดวลจุดโทษ ตามลำดับ
- 5 นัดหลังสุดที่เจอกันในทุกรายการนั้น จบลงด้วยการเสมอกัน 3 นัด ส่วนที่เหลือทั้งคู่แบ่งกันชนะไปทีมละ 1 เกม
- นี่เป็นครั้งแรกที่ โลเปเตกี กับ ซิเมโอเน่ จะได้ดวลกึ๋นกัน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »