ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 5 จอมทัพชั้นดีในพรีเมียร์ลีก

5 จอมทัพชั้นดีในพรีเมียร์ลีก

Posted 18/08/2018 by siamsport

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดูเหมือนจะเป็นที่สิงสถิตย์ของบรรดานักเตะชั้นยอดฝีเท้ามหัศจรรย์มากมาย และสิ่งนี้ทำให้คุณภาพเกมลีกเมืองผู้ดีพัฒนามากยิ่งขึ้น โดยในฤดูกาล 2018-19 มีบรรดานักเตะชั้นนำเยอะแยะเต็มไปหมดที่พาเหรดเดินทางมาค้าแข้งในดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดเกมลูกหนัง
    สำหรับในช่วงเวลานี้ต้องยอมรับว่า อังกฤษ มีนักเตะกองกลางที่เต็มไปด้วยพรสรรค์เยอะมาก แต่ถ้าคัดเอาแบบหัวกะทีเพียงท็อปไฟว์ แม้บางคนอาจจะยังไม่ได้งัดฟอร์มที่เก่งที่สุด แต่หากพวกเขาเหล่านั้นระเบิดฟอร์มเก่งออกมา ก็ยากที่จะหาใครต้านทานได้จริงๆ
 

5. เมซุต โอซิล (อาร์เซน่อล) 

 

    เมซุต โอซิล ต้องเจอวิบากกรรมอย่างหนักนับตั้งแต่ที่เขาเข้าไปพบกับประธานาธิบดีตุรกีก่อนฟุตบอลโลก 2018 เขายังโดนวิจารณ์อย่างหนักหลังจากที่เยอรมนีฟอร์มห่วยบรมในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย และสุดท้าย อดีตจอมทัพเรอัล มาดริด ได้ประกาศอำลาการเล่นให้ทัพ "อินทรีเหล็ก" เรียบร้อยแล้ว

    จอมทัพ อาร์เซน่อล เป็นหนึ่งในกองกลางจอมสร้างสรรค์เกม ฟอร์มการเล่นของเขาอาจจะไม่ได้อยู่ในระดับสุดยอดแต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องความสามารถของ ดาวเตะเลือดด๊อยท์ช กับสิ่งที่เขาได้สร้างเอาไว้ โอซิล ทำ 8 แอสซิสต์ และซัดไป 4 ประตูเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาจากการลงสนาม 26 เกม เขาสามารถทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้ และด้วยการทำงานภายใต้กุนซือคนใหม่ อูไน เอเมรี่ แน่นอนว่า โอซิล จะเล่นได้อย่างสุดยอด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฟอร์มของเขาจะกลับมาน่าเหลือเชื่อเหมือนที่เขาเคยทำสมัยที่เล่นให้กับ โชเซ่ มูรินโญ่ ตอนอยู่ เรอัล มาดริด
 

4. ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 

 

    สิ่งหนึ่งที่มีการโต้เถียงกันอย่างต่อเนื่องก็คือ ปอล ป็อกบา สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูให้อยู่ในลิสต์รายชื่อนี้ไหม และความจริงก็คือ ดาวเตะเจ้าพ่อทรงผม อาจจะไม่ได้มีฟอร์มเริดเลอเพอร์เฟกต์ในพรีเมียร์ลีก แต่เขาเป็นกองกลางที่น่าเหลือเชื่อมากๆที่มาพร้อมกับเทคนิค และความสามารถอันเหลือล้น โดยอดีตแข้ง "ม้าลาย" ยูเวนตุส ดูเหมือนว่าจะต้องเจอกับเรื่องยากลำบากในการงัดฟอร์มเก่งกับการเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เขาก็ไม่ได้ฟอร์มย่ำแย่อะไรมากนัก และยังคงเป็นนักเตะที่มีศักยภาพสูง

    ป็อกบา ซัดไป 6 ประตู และทำ 10 แอสซิสต์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เขายังช่วยทีมได้อย่างสุดยอดในศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ ในครึ่งฤดูกาลหลังของซีซั่นที่ผ่านมา โดยเขาซัดไป 2 ประตูช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์กลับมาชนะ 3-2 แมตช์นั้นแสดงให้เห็นว่า ป็อกบา มีศักยภาพมากแค่ไหน และฟอร์มการเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งมีส่วนทำให้ "ตราไก่" ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ที่ดินแดนหมีขาว พิสูจน์ได้ว่าเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากแค่ไหน

    ถ้า กองกลางเลือดเฟร้นช์ สามารถทำได้แบบนี้ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แน่นอนว่า "ปีศาจแดง" จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018-19 ทันที


3. คริสเตียน เอริคเซ่น (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) 


 

 

    ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า คริสเตียน เอริคเซ่น เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการประเมินค่าต่ำเกินไปในพรีเมียร์ลีก และในโลกเวลานี้ เขามีส่วนช่วย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อย่างมาก และสามารถนำทัพ "ไก่เดือยทอง" ก้าวขึ้นมาเบียดแย่งแชมป์ลีกอย่างเต็มตัว แต่น่าเสียดายที่เขากับ สเปอร์ส ยังไม่มีเกียรติประวัติเป็นโทรฟี่แชมป์เลย

    อย่างไรก็ตาม เอริคเซ่น ถือเป็นนักเตะที่น่าเหลือเชื่อมากๆ เขาผ่านบอล และมีความสามารถในการเป็นเพลย์เมกเกอร์ ที่สำคัญนักเตะยังทำได้ดีทั้งสองเท้าซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่พิเศษยิ่งขึ้นไปอีก โชคร้ายก็คือกองกลางสเปอร์ส ยังไม่ได้แชมป์อะไรเลยกับยอดทีมแห่งถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน

    เอริคเซ่น ซัดไป 10 ประตู และทำ 10 แอสซิสต์เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และถ้าจะพูดแบบไม่เข้าข้างกันจนเกินไปต้องบอกว่า ดาวเตะทีมชาติเดนมาร์ก เป็นคนสำคัญที่นำทัพ "โคนม" ลุยฟุตบอลโลกในปีนี้ แน่นอนว่า กุนซือเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่  คงจะใช้ เอริคเซ่น ในตำแหน่งที่เขาสามารถดึงศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้ดีกว่านี้ เพราะเขาเป็นมิดฟิลด์ที่ยิงประตูได้ดีมากๆในลีกเมืองผู้ดี


2.  เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี) 

 

    เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นได้คงเส้นคงวา เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือทีมได้แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตั้งแต่สมัยที่อยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานั้น "เดอะ ฟ็อกซ์" ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยที่ ก็องเต้ มีส่วนสำคัญมากๆ และจากนั้นเจ้าตัวก็ย้ายไปอยู่กับ เชลซี อย่างไรก็ตามฟอร์มของเขาไม่ใช่แค่สุดยอดในระดับสโมสรเท่านั้น เพราะกับทีมชาติเขาก็แสดงให้เห็นแบบนี้เช่นกัน

    ฟอร์มของ ก็องเต้ ในศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซียปีนี้ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ ฝรั่งเศส ได้แชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 เห็นได้ชัดว่า ดาวเตะร่างเล็กใจใหญ่มีอัตราการทุ่มเทสูงมาก, ความสามารถในการอ่านเกมที่เฉียบขาด และแย่งบอลจากคู่แข่งกลับมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

    ก็องเต้ สามารถแย่งบอลจากคู่แข่งได้ถึง 82 ครั้งเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งมากที่สุดระหว่างผู้เล่นกองกลางในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เขาอาจจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแอสซิสต์ หรือทำประตูมากนัก แต่เขาช่วยเหลือแผงกองกลางได้เยอะมาก

    ดังนั้น เมาริซิโอ ซาร์รี่ คงจะต้องภาวนาให้นักเตะอย่าง ก็องเต้ งัดฟอร์มเก่งออกมาให้เต็มที่ เพราะเขาเป็นหัวใจสำคัญในสนามซึ่งจะทำให้บรรดาผู้เล่นเกมรุกของกุนซือเลือดมะกะโรนีได้เดินเครื่องบุกตะลุยอย่างเต็มที่ ขณะที่ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ จะคอยตัดเกมแย่งบอลกลับมา และช่วยเหลือกองหลังของ "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้เป็นอย่างดี
 

1. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)


 

 

    หากพิจารณาท็อปไฟว์กองกลางที่ดีที่สุดในโลก ไม่มีทางเลยที่ใครจะทิ้ง เควิน เดอ บรอยน์ ออกจากลิสต์รายชื่อนี้ได้ จากนักเตะที่เป็นแค่ยางอะไหล่ที่ถูกลืมของ เชลซี กลายเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก แน่นอนว่าอนาคตของ เดอ บรอยน์ ยังมีหนทางที่สดใสรออยู่ข้างหน้า

    ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพสต์เลยที่ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม จะสร้างผลงานที่น่าประทับใจในศึกฟุตบอลโลก เขามีฤดูกาลที่เจิดจรัสกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ช่วยยิงประตูให้ "เรือใบสีฟ้า" 8 ลูก พร้อมกับทำ 14 แอสซิสต์ และไม่ใช่แค่ทำประตูกับแอสซิสต์แต่ เดอ บรอยน์ ยังผ่านบอลได้อย่างเฉียบคมด้วย เขาสร้างโอกาสให้กับทีมได้ถึง 96 ครั้ง, ผ่านบอลได้ 2,078 ครั้งตลอดการเล่นทั้งหมด 37 แมตช์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ เควิน เดอ บรอยน์ มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม และนั่นส่งผลให้ ดาวเตะเลือดเบลเยียม ดังประสิทธิภาพในการเล่นออกมาช่วยทีมได้อย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนแฟนบอล "เรือใบสีฟ้า" คงทั้งช็อกทั้งเศร้า (ส่วนแฟนบอลทีมอื่นคงโล่งใจ) เพราะนักเตะได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าในช่วงฝึกซ้อม และหมดสิทธิ์ลงโชว์เพลงแข้งนานถึง 3 เดือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • 5 ประเด็นโหมโรงก่อนลอนดอนดาร์บี้เชลซีฉะอาร์เซน่อล
    สัปดาห์ที่สองของพรีเมียร์ลีกยังมีบิ๊กแมตช์กันอย่างต่อเนื่องโดยวันนี้จะเป็นการพบกันของสองคู่ปรับในเมืองลอนดอน ระหว่าง เชลซี กับ อาร์เซน่อล เป็นเกมที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะตัวกุนซือทั้งสองทีมจะลงคุมทีมในลอนดอนดาร์บี้เป็นครั้งแรก! ก่อนเกมจะเริ่มขึ้นเวลา 23.30 น. เรามาดูประเด็นร้อนเรียกน้ำย่อยกันก่อน
  • 5สิ่งที่แมนยูต้องรีบทำหากหวังแชมป์พรีเมียร์ลีก
    เปิด 5 สิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องรีบทำถ้าอยากคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ หลังโดนมองว่าโอกาสเป็นรองทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ตศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018/19 ด้วยการเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฉือนชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เมื่อวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา
  • ใครบ้างจะสามารถขึ้นมาแทนที่ เดอ บรอยน์ ได้
    ปัญหาใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอนนี้คงหนีไม่พ้นอาการบาดเจ็บของ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวสำคัญที่มีส่วนพาเรือใบสีฟ้าผงาดคว้าแชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว คาดว่าการขาดหายไปในระยะเวลาเกือบ 2 เดือนจะส่งผลกับแมนซิตี้เป็นอย่างมาก แต่ขึ้นชื่อว่าแมนซิตี้ ขุมกำลังของพวกเขาต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ไปดูกันว่าใครบ้างจะที่จะสามารถก้าวขึ้นมาแทนที่ของ เดอ บรอยน์ ได้
  • ไม่เกี่ยวเกาเหลา!ป็อกบารับยังกระสันย้ายซบบาร์เซโลน่า
    เดลี่ เมล สื่อของอังกฤษ ระบุ ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังกระสันที่จะไปซบ บาร์เซโลน่า อยู่ โดยสาเหตุหลักมาจากความต้องการเล่นให้ "อาซูลกราน่า" ไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์กับ โชเซ่ มูรินโญ่

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »