ฝรั่งเศส อาศัยความเคี่ยวกว่าและทีเด็ดทีขาดที่มากกว่าเอาชนะฮอลแลนด์ไปได้ในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นอีกนัดที่ทีมตราไก่ยังโชว์ฟอร์มสุดยอดแม้จะเจอสถานการณ์คับขันแค่ไหนก็ตาม ขณะที่ทีมอัศวินสีส้มแม้เกมจะเป็นรองแต่ก็ยังถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม เราไปดูประเด็นที่เกิดขึ้นในเกมกัน

1.เอ็มบั๊ปเป้ ยังสุดยอด

เรียกได้ว่าอีกไม่นานอาจจะเป็นยุคของเขาคนนี้ก็เป็นได้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยังสร้างปรากฎการณ์ได้ต่อเนื่องนับตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 2018 สำหรับนัดนี้เขาก็ยังโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นทั้งการเลี้ยงบอลและการกระชากบอลฉีกแนวรับคู่แข่ง แถมสามารถทำประตูได้อีกต่างหาก มันคงไม่ผิดหรอกถ้าจะบอกว่าเกมรุฝรั่งเศสจะลำบากถ้าไม่มีเขาคนนี้

2.วิสัยทัศน์ของคูมันน์

โรนัล คูมันน์ เจอความท้าทายอย่างใหญ่หลวงกับการพาอัศวินสีส้มกลับมาผงาดเป็นเจ้ายุโรปอีกครั้ง สำหรับในเกมนี้เป็นที่แน่ชัดว่ายังมีการบ้านต้องทำอีกเยอะ พวกเขาเปลี่ยนมาเล่นปราการหลังสามตัวเพื่อเป็นการแก้ปัญหาตำแหน่งแบ็คซึ่งเป็นจุดอ่อนของพวกเขา นอกจากนี้ประโยชน์ของมิดฟิลด์ 3 ตัวตรงกลางของฮอลแลนด์คือการช่วยเล่นเกมรับได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนแนวรุกอย่าง เมมฟิส เดปาย ที่ถูกดันขึ้นไปเล่นกองหน้าก็เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของเกมรุกฮอลแลนด์ก็ว่าได้ ต่อไปนี้เขาไม่จำเป็นต้องลงไปเล่นเกมรับมากนักไม่เหมือนกับที่เขาต้องเล่นในตำแหน่งปีกแล้วต้องลงมาซ้อนผู้เล่นแบ็คซ้ายอยู่บ่อยครั้งซึ่งก็เหมือนเป้นการลดประสิทธิภาพของเขาลงไป

จังหวะทำชิ่งในประตูตีเสมอของฮอลแลนด์จาก เคนนี่ เตเต้ ที่ขึ้นเกมทางฝั่งขวาทำชิ่งกับ เมมฟิส เดปาย ก่อนจะปาดบอลจากริมเส้นเข้าด้านในโดยมี  ไรอัน บาเบล วิ่งสอดขึ้นมาทำประตูตีเสมอ การให้แล้วไปง่ายๆสามารถนำมาซึ่งประตูได้ นั่นเป็นสิ่งคูมันน์คงอยากจะเห็นจากลูกทีม  แม้วันนี้อาจจะมีจังหวะผิดพลาดให้เห็นแต่ถือว่า คูมันน์ กำลังปรับจูนลูกทีมไปในทางที่ดีขึ้น

3.ชิรูด์ ปลดล็อค!

หลังจากโดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องฟอร์มการเล่นที่ไม่สามารถทำประตูได้เลยในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ในที่สุเขาก็สามารถกลับมาทำประตูในนามทีมชาติได้อีกครั้ง ลูกยิงวอลเลย์สุดสวยเมื่อคืนที่ผ่านมาถือเป็นประตูแรกนับตั้งแต่ที่เขายิงได้เมื่อเดือนพฤษภาคมในเกมอุ่นเครื่องกับไอร์แลนด์ เรียกได้ว่าเขาไม่สามารถส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายในนามทีมชาติมานานกว่า 10 นัดแล้ว ประตูชัยเมื่อคืนทำให้เขาก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ในทำเนียบดาวซัลโวทีมชาติโดยถล่มตาข่ายไปแล้ว 32 ประตูเหนือกว่า เซเนดีน ซีดาน ที่ทำได้ 31 ประตู

4.ตราไก่กินเรียบ

เรียกได้ว่าช่วงหลังมานี้ฝรั่งเศสกลายเป็นของแสลงของฮอลแลนด์มาตลอด โดย 5 นัดหลังสุดที่เจอกันฝรั่งเศสเก็บชัยได้ 5 นัดรวดแถมยิงไปได้ถึง 11 ประตู พร้อมคลีนชีทอีก 3 นัด ครั้งสุดท้ายที่อัศวินสีส้มเอาชนะฝรั่งเศสได้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วในศึกฟุตบอลยูโรปี 2008  ที่ฮอลแลนด์จัดการถล่มฝรั่งเศสไปถึง 4-1 พร้อมมีส่วนส่งทีมตราไก่จมบ๊วยและตกรอบแบ่งกลุ่มในยูโรครั้งนั้น