ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธที่ 19 กันยายน ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย โดยที่สโมสรใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, ยูเวนตุส และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างเปิดหัวด้วยชัยชนะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทว่าเต็ง 1 อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับพังคาบ้านในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด และแน่นอนว่ามีสถิติน่าสนใจเกิดขึ้นมากมายในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ต้องพบกับวันอันแสนเลวร้าย
    - คืนแย่ๆ ของ CR7

        คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรกภายใต้ยูนิฟอร์ม ยูเวนตุส ด้วยการบุกไปเยือน บาเลนเซีย (ยูเว่ บุกชนะ 2-0) ทว่าเขากลับถูกไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 29 หลังมีการปะทะกับ เฮซอน มูรีโย่ กองหลังทีมคู่แข่ง ในบริเวณกรอบเขตโทษ ซึ่งเจ้าตัวผิดหวังอย่างมากถึงขั้นปล่อยโฮในขณะเดินออกจากสนามเลยทีเดียว และแน่นอนว่า นี่คือใบแดงแรกของ CR7 ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก และถือเป็นใบแดงที่ 11 ในชีวิตพ่อค้าแข้ง (4 ครั้งใน พรีเมียร์ลีก, 4 ครั้งใน ลา ลีกา, 1 ครั้งใน สแปนิช ซูเปอร์ คัพ, 1 ครั้งใน สแปนิช คัพ และ 1 ครั้งใน แชมเปี้ยนส์ ลีก)

    - เต็ง 1 แต่กลับแย่ต่อเนื่องในเวทียุโรป

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ในการซิวแชมป์ยุโรปซีซั่นนี้ แต่เมื่อคืนพวกเขากลับแพ้ โอลิมปิก ลียง คารัง เอติฮัด สเตเดี้ยม 1-2 ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" กลายเป็นสโมสรจากอังกฤษรายแรกที่แพ้ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 นัดติด (รวม 3 นัดจากฤดูกาลก่อน)

        นอกจากนี้เกมดังกล่าว แมนฯ ซิตี้ ยังเสียสองประตูตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก ทำให้ 6 จาก 8 เกมหลังสุดยามเล่นที่บ้านในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาเสียถึงสองประตูตั้งแต่ช่วง 45 นาทีแรก

    - ซิตี้ ฟอร์มบู๋ แต่ ซิลวา ยังพึ่งได้

        ในปฏิทินปี 2018 แบร์นาร์โด้ ซิลวา มิดฟิลด์จอมพลิ้วชาวโปรตุกีส คือดาวซัลโวสูงสุดอันดับสองของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเจ้าตัวกดไปแล้ว 9 ประตู (รวมถึงประตูล่าสุดที่ยิง ลียง) จากการลงเล่นรวมทุกรายการ ส่วนอันดับหนึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...คือ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ทำไป 20 ประตู

    -  อีสโก้ กลายเป็นจอมยิงฟรีคิก

        หากนับตามปฏิทินปี 2018 อีสโก้ คือนักเตะ เรอัล มาดริด ที่ทำประตูจากการยิงฟรีคิกมากที่สุด (รวมทุกรายการ) ที่จำนวน 2 ลูก หลังยิงฟรีคิกสุดงามในเกมที่ "ราชันชุดขาว" เปิดรัง ซานติอาโก เบร์นาเบว อัด อาแอส โรม่า 3-0 ทั้งที่มีโอกาสยิงแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเปอร์เซนต์ที่สูงมากหากเทียบกับคนอื่นๆ

        1 - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ : 9/0
        2 - แกเร็ธ เบล : 6/0
        3 - มาร์โก อาเซนซิโอ : 5/0
        4 - อีสโก้ : 4/2

        เท่านั้นยังไม่พอ ฟรีคิกที่ยิงใส่ โรม่า ยังเป็นการพยายามยิงฟรีคิกครั้งแรกของ อีสโก้ ในการลงเตะถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย เรียกได้ว่ามีโอกาสครั้งแรกก็ทำได้เลย

    -  มาเรียโน่ คมใช่เล่น

        มาเรียโน่ ดิอาซ หัวหอกชาวโดมินิกัน ที่เพิ่งย้ายกลับจาก โอลิมปิก ลียง ยิงประตูปิดท้ายอย่างสุดสวยช่วย เรอัล มาดริด เปิดบ้านอัด โรม่า 3-0 และจากประตูนี้ทำให้ 6 ประตูของเขาในสีเสื้อ "ราชันชุดขาว" (นับรวม 5 ประตูจากตอนอยู่กับทีมช่วงแรก) มาจากการยิงตรงกรอบแค่ 9 ครั้งเท่านั้น

    - กุนซือหนุ่มสุด   

        ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ กุนซือ ฮอฟเฟ่นไฮม์ กลายเป็นโค้ชอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังคุมทีมในเกมบุกไปเสมอ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 2-2 ด้วยวัย 31 ปี กับ 58 วัน โดยก่อนหน้านี้สถิติดังกล่าวเป็นของ วิคเตอร์ กอนชาเรนโก้ กุนซือ ซีเอสเคเอ มอสโก ที่เมื่อปี 2008 คุม บาเต้ โบริซอฟ ลงเล่นถ้วย "บิ๊กเอียร์" ด้วยอายุ 31 ปี กับ 99 วัน

    - ฟอร์มหรูๆ ที่หายไปนานของผีแดง

        ชัยชนะที่บุกไปอัด ยัง บอยส์ 3-0 ถือเป็นชัยชนะเกมเยือนที่ขาดลอยสุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ตอนบุกยำ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 5-0 เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 โดยตอนนั้นมีกุนซือที่ชื่อว่า เดวิด มอยส์

    - มุลเลอร์ ทำสถิติ

        โธมัส มุลเลอร์ แข้งตัวรุกคนเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค ถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองนาทีที่ 88 ในเกมที่ "เสือใต้" บุกเชือดนิ่ม เบนฟิก้า 2-0 ทำให้ มุลเลอร์ มีสถิติลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ครบ 100 นัดพอดี