พรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้จะมีบิ๊กแมตช์น่าดูน่าชมเป็นอย่างมาก โดย เชลซี จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯยูไนเต็ด ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีแต้มห่างกันถึง 7 แต้ม แต่เมื่อทั้งสองทีมเจอกันศักดิ์ศรีเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต่างยอมกันไม่ได้ พวกเขามีประวัติศาสตร์เจอกันมามากมาย เพื่อเป็นการโหมโรงก่อนวันเสาร์ เรามีดูแมตช์แห่งความทรงจำของทั้งสองทีมกัน
1.คัมแบ็คล้างแค้นใน แคปิตอล วัน คัพ  รอบ 16 ทีม (วันที่ 31 ตุลาคม 2012)

เชลซี 3-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เชลซีชนะช่วงต่อเวลา 5-4)

    แมตช์สุดมันส์ในฟุตบอลถ้วยลีก คัพ เป็นค่ำคืนของการคัมแบ็คอย่างแท้จริง ทั้งสองทีมเพิ่งเจอกันในลีก 4 วันก่อนหน้าเกมนี้ โดยนัดนั้น แมนฯยูไนเต็ด เอาชนะเชลซีไปได้ 3-2 จากประตูชัยสุดกังขาของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ นั่นทำให้ลูกทีมของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เก็บความแค้นหวังจะมาเอาคืนในฟุตบอลถ้วยลีกคัพ ทว่าในเกมเชลซีต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังผีแดงถึงสามครั้งด้วยกัน จากประตูของ ไรอัน กิ๊กส์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ และ หลุยส์ นานี่ อย่างไรก็ตามต้องชมสปิริตของทีมสิงห์บลูส์ที่เป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอได้ทุกครั้งจากลูกจุดโทษของ ดาวิด หลุยซ์,  ลูกโหม่งของ แกรี่ เคฮิลล์ และจุดโทษอีกหนึ่งลูกในช่วงทดเจ็บของ เอแด็น อาซาร์

    เกมดำเนินมาถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ผีแดงดูเหมือนจะเสียโมเมนตัมไปหลังจากโดนตีเสมอช่วงทดเวลบาดเจ็บ ทำให้เป็นเชลซีที่ซัดสองประตูรวดจาก ดาเนี่ยล สเตอร์ริจด์ และรามิเรส แม้ผีแดงจะไล่ตามมาจากลูกจุดโทษของ ไรอัน กิ๊กส์ แต่ก็ไม่ทันเวลา ทำให้เชลซีผ่านเข้าไปรอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ นี่ถือเป็นเกมลีกคัพนัดสุดท้ายของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อีกด้วย

2.ดร็อกบาพาชัยใน เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ (วันที่ 19 พฤษภาคม 2007)

เชลซี 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    3 ปีแรกของ โชเซ่ มูรินโญ่ ณ สแตมฟอร์ด บริดจ์ คงเป็นสิ่งที่แฟนเชลซีจดจำไปตลอดกาล เขาเข้ามาสรัางประวัติศาสตร์ พร้อมกับสถาปนาให้เชลซีเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์กับผีแดง และทั้งสองทีมก็ได้มาเจอกันในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ซึ่งถือเป็นการเจอกันครั้งแรกในนัดชิงชนะเลิศรายการนี้อีกด้วย แมตช์เต็มไปด้วยความเข้มข้นเป็นอย่างมาก ทั้งสองฝ่ายต่างมีโอกาสทองในการทำประตูแต่ก็พลาดเป้าไปทั้งหมด จนต้องมีการต่อเวลาพิเศษออกไป

    ก่อนเวลาจะหมดเพียง 4 นาที ดิดิเยร์ ดร็อกบา ก็ทำให้แฟนสิงห์บลูส์เฮลั่นที่สนามเวมบลีย์ใหม่ ด้วยการดีดบอลผ่าน เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ เข้าไป กลายเป็นประตูชัยให้เชลซีคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 4 และเป็นการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในปีนั้นด้วยหลังจากก่อนหน้านี้เชลซีซิวถ้วยลีกคัพไปแล้ว

3. คืนประวัติศาสตร์ของผีแดงใน แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ (วันที่ 21 พฤษภาคม 2008)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี (แมนฯยูไนเต็ดชนะจุดโทษ 6-5)

    นัดประวัติศาสตร์ ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย สองทีมตัวแทนจากแดนผู้ดีอย่าง แมนฯยูไนเต็ด และเชลซี ผ่านเข้ามารอบชิงชนะเลิศในศึกยูฟ่า แชมเปยนส์ลีก โดยในคืนนั้น ปีศาจแดงได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ก่อนหมดครึ่งแรก เชลซี มาตามตีเสมอได้สำเร็จจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด หลังจากนั้นทั้งสองทีมต่างฝ่ายต่างเกือบได้ประตูขึ้นนำ เชลซียิงชนเสาไปถึงสองครั้ง ขณะที่แมนฯยูไนเต็ด มีโอกาสทองแต่ยิงติดเซฟของปีเตอร์ เช็ค สุดท้ายทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้จนหมดเวลา

    ช่วงต่อเวลาทั้งสองทีมก็ยังหาสกอร์เพิ่มไม่ได้ทำให้ต้องไปดวลจุดโทษตัดสินกัน ผีแดงเป็นฝ่ายพลาดจุดโทษก่อนหลัง โรนัลโด้ ยิงไปติดเซฟของ เช็ค ขณะที่คนอื่นๆของทั้งสองทีมยิงเข้าทั้งหมด จนมาถึงคนสุดท้ายนั่นคือ จอห์น เทอร์รี่ ซึ่งถ้าลูกนี้ยิงเข้าจะทำให้เชลซีคว้าแชมป์ในทันที แต่ทว่า เทอร์รี่ กลับลื่นและยิงหลุดกรอบออกไป ทำให้ต้องยิงจุดโทษกันต่อ สุดท้าย นิโคลัส อเนลก้า มายิงไปติดเซฟของ ฟาน เดอร์ ซาร์ ส่งผลให้ ผีแดง คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 3 ไปครอง

4.ฝันร้ายของสิงห์บลูส์ ในพรีเมียร์ลีก  (วันที่ 18 กันยายน 2011)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 เชลซี

    อันเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือชาวโปรตุเกส นำลูกทีมสิงห์บลลูส์บุกโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ต้องพบกับฝันร้าย เมื่อผีแดงเล่นกันได้อย่างท็อปฟอร์มในครึ่งแรก ด้วยการซัดสามประตูรวดจาก ลูกโหม่งของ คริส สมอลลิ่ง, ลูกยิงเสียบสามเหลี่ยมสุดสวยของ หลุยส์ นานี่ และลูกยิงจ่อๆของ เวย์น รูนี่ย์ จบครึ่งแรกผีแดงนำห่างถึง 3-0

    อย่างไรก็ตามบุคคลที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดในคืนนั้นคือ เฟอร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกของเชลซี แม้เขาจะสามารถปลดล็อคทำประตูแรกของฤดูกาลในลูกตีไข่แตก แต่อดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล กลับมาทำหมูหกในจังหวะต่อมาที่เจ้าตัวหลุดเดี่ยวและสามารถแตะหลบ เดบิด เด เคอา ไปได้แล้วเหลือแค่ปากประตูโล่งๆ แต่เจ้าตัวดันยิงหลุดกรอบออกไปแบบเหลือเชื่อ ส่งผลให้ท้ายเกมเชลซีไล่ตามไม่ทันและพ่ายไปในที่สุด น่าคิดถ้าเขายิงเข้าไปสิงห์บลูส์จะสามารถตามตีเสมอได้หรือไม่

5.คัมแบ็คคิงของแท้ ณ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในพรีเมียร์ลีก   (วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2012)

เชลซี 3-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    การมาเยือนเชลซีเป็นงานหินของ ผีแดง ทุกครั้ง เป็นเวลาหลายปีที่ผีแดงไม่สามารถบุกมาเอาชนะที่นี่ได้ในลีก และเริ่มต้นเกมก็ดูเหมือนสถิติเหล่านี้จะยังเป็นเช่นนั้นต่อไป จอห์นนี่ อีแวนส์ ทำเข้าประตูตัวเองส่งผลให้เชลซีขึ้นนำไปก่อน  ต่อมาในครึ่งหลังสถานการณ์ของผีแดงก็ดูเลวร้ายขึ้นหลังจาก ฆวน มาต้า ซัดวอลเลย์เข้าไปตุงตาข่ายและ ดาวิด ลุยซ์ โหม่งประตูที่สามตามมาไม่ถึง 5 นาที

    ดูเหมือนเป็นงานลำบากของผีแดงแล้ว แต่ทว่าผู้ตัดสิน ฮาเวิร์ด เว็บบ์ มาแจกจุดโทษให้ผีแดงสองลูกติดต่อกันท่ามกลางข้อครหาจากแฟนเชลซี และเป็นเวย์น รูนีย์ เหมาสองประตูทำให้ผีแดงไล่มาเหลือประตูห่าง 1 ลูก สุดท้ายปีศาจแดงก็ได้เฮลั่นเมื่อ "เจ้าถั่วน้อย" ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ โหม่งประตูตีเสมอในนาทีที่ 84 ทำให้ช่วยให้เซฟหนึ่งแต้มให้กับผีแดงได้สำเร็จ เป็นอีกหนึ่งแมตช์สุดมันส์ตลอดกาลก็ว่าได้