"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ออกทะเลกู่ไม่กลับ ทำสถิติบู่ไม่ชนะใครมา5นัดติดแล้ว แถมพ่ายเป็นเกมที่3ในลีก หลังเตะมาเพียง9นัดเท่านั้น เมื่อเปิดบ้าน โดน เลบันเต้ บุกมาสอย 2-0 ฆูเล็น โลเปเตกี เก้าอี้กุนซือร้อนฉ่า โอกาสโดนเด้งแต่หัววัน สูงขึ้นทุกที แถมสัปดาห์หน้า มีงานหนัก มีศึกเอล กลาซิโก้ กับ บาร์ซ่า ชี้ชะตา ในเกมลา ลีกา สเปน วันเสาร์ที่ 20 ต.ค.

ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2561
เรอัล มาดริด 1-2 เลบันเต้

สนาม : เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

    เรอัล มาดริด ที่ยิงไม่ได้มา 4 นัดติดทุกรายการ ได้ มาร์เซโล่ และ อีสโก้ ฟิตกลับคืนตัวจริง แต่ แกเร็ธ เบล, โทนี่ โครส และ คาริม เบนเซม่า มีชื่อเป็นเพียงสำรอง ขณะที่ เลบันเต้ วาง โรเชร์ มาตรี้ กับ โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส เป็นคู่กองหน้า

    เริ่มเกมมาเพียง 6 นาที เลบันเต้ ได้ประตูนำก่อน 1-0 เซร์คิโอ ปอสตีโก้ วางบอลยาวเข้าเขตโทษ ราฟาแอล วาราน ติดประมาทไม่รีบสกัด โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส วิ่งปราดมาแตะหนี ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนซัดตุงตาข่ายเหนือชั้น

    สถานการณ์ของราชันชุดขาวแย่ไปกันใหญ่เมื่อเสียจุดโทษในนาที 13 วาราน ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ตอนแรกผู้ตัดสินให้เพียงฟรีคิกก่อนเช็กวีเออาร์และชี้ว่าเป็นจุดโทษ โรเชร์ มาตรี้ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

    เรอัล มาดริด ส่งบอลเข้าประตูในนาที 17 จากเตะมุมที่ อีสโก้ เปิดให้ มาเรียโน่ ดีอาซ โหม่งชนคาน มาร์โก อาเซนซิโอ โหม่งซ้ำจ่อๆ เข้าไป ตอนแรกผู้ตัดสินเป่าให้ได้ประตู แต่วีเออาร์ยืนยันว่า อาเซนซิโอ ล้ำหน้า เลยมีการเปลี่ยนคำตัดสินใหม่ ทำให้ เลบันเต้ ยังนำ 2-0

    มาดริด เกือบได้ในนาที 26 มาร์เซโล่ ตะลุยเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนยัดไปหน้าประตู เอริก กาบาโก้ สกัดได้ก่อนถึง มาเรียโน่ ดิอาซ นิดเดียว

    เจ้าถิ่นขึงเกมรุกลุยต่อ นาที 32 ลูกัส บาซเกซ รับบอลจาก อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า ก่อนพลิกยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลไม่ห่างมือ ออยเอร์ โอลาซาบาล มากนักทำให้รับเข้าซอง    

    เรอัล มาดริด ได้ลุ้นสองจังหวะซ้อนในนาที 34 ลูกัส บาสเกซ เปิดเตะมุมให้ มาเรียโน่ ดีอาซ โขกเต็มๆ แต่บอลชนคานอย่างจัง จากนั้น บาซเกซ คนเดิมได้เปิดบอลยัดเข้าเขตโทษ กาเซมีโร่ ได้โหม่งลงพื้น แต่ ออยเอร์ โอลาซาบาล  ผวาปัดช่วยเลบันเต้หวุดหวิด

    ท้ายครึ่งแรก มาดริด น่าได้ประตูสุดๆ ในนาที 43 จากจังหวะเตะมุมที่ วาราน โหม่งเช็ด ลูกัส บาซเกซ ปราดเข้ายิงจ่อๆ 5 หลา แต่ โอลาซาบาล ใช้ขาเซฟได้เหลือเชื่อ ทำให้จบครึ่งแรก เลบันเต้ ทำเซอร์ไพรส์นำ เรอัล มาดริด 2-0

     กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เรอัล มาดริด ปรับเกมเน้นรุกมากขึ้นด้วยการส่ง แกเร็ธ เบล ลงมาแทนแบ็กขวาอย่าง อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า 

     นาที 50 อีสโก้ ผ่านบอลให้ ลูก้า โมดริช ซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ติดบล็อกแนวรับเลบันเต้ ก่อนที่อีก 10 นาทีถัดมา จูเลน โลเปเตกี กุนซือเรอัล มาดริด จะเปลี่ยนอีก 2 ตัวส่ง คาริม เบนเซม่า และ ดานี่ เซบายอส ลงแทน อีสโก้ และ อาเซนซีโอ 

      เรอัล มาดริด ลุ้นยิงอีกครั้งในนาที 62 เมื่อ ดานี่ เซบายอส จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ คาริม เบนเซม่า ได้อัดด้วยซ้ายแต่ก็ตรงตัว ออยเอร์ โอลาซาบาล 

     เกมรุกเป็นของมาดริดเต็มรูปแบบ นาที 64 เซบายอส โดน รูเบน โรชีน่า ทำฟาวล์หน้าเขตโทษ แกเร็ธ เบล รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกข้ามกำแพงแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ออยเอร์ โอลาซาบาล ที่เซฟได้อีกครั้ง

    อีก 8 นาทีถัดมา เรอัล มาดริด ทำประตูแรกในรอบ 5 นัดหลังสุดได้เสียที แกเร็ธ เบล โหม่งเช็ดบอลเลยไปเสาไกลถึง เบนเซม่า ที่ไม่มีมุมยิงเลยจ่ายย้อนมาบริเวณจุดโทษ มาร์เซโล่ วิ่งเข้ายิงด้วยขวา แต่ไม่ใช่ข้างถนัดแต่ก็กดบอลเสียบใต้คานสุดสวย  สกอร์เป็น 2-1

    มาดริดลุยแหลก นาที 76 เบนเซม่า รับบอลชิ่งคืนมาให้จาก มาร์เซโล่ ก่อนปั่นด้วยขวาจากหน้าเขตโทษฝั่งขวา บอลโค้งและแรงเอาเรื่อง แต่ลอยชนเสาไกลอย่างจัง ลูก้า โมดริช ได้ซ้ำแต่ก็ตรงตัว โอลาซาบาล ที่เซฟพัลวัน

    นาที 88 มาดริด ส่งบอลตุงตาข่ายได้อีกครั้งจากจังหวะที่ เบนเซม่า โหม่งติดเซฟ มาเรียโน่ ดีอาซ ได้ซ้ำจ่อๆ เข้าไป แต่จังหวะยืนของ มาเรียโน่ ดีอาซ ตอนแรกล้ำหน้าอยู่ก่อนแล้วเลยไม่ได้ประตู

    ช่วงเวลาที่เหลือ มาดริด ทำทุกวิถีทางแต่ก็ยังไม่สามารถตามตีเสมอ จบเกม เรอัล มาดริด แพ้คาบ้านต่อ เลบันเต้ 1-2 ทำให้ทีมของ โลเปเตกี ไม่ชนะใครเลยใน 5 นัดหลังสุดจากทุกรายการ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม   

     เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า (แกเร็ธ เบล น.46), ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลูก้า โมดริช, การ์ลอส กาเซมีโร่, อีสโก้ (คาริม เบนเซม่า น.60) - ลูกัส บาซเกซ, มาเรียโน่ ดีอาซ, มาร์โก อาเซนซีโอ (ดานี่ เซบายอส น.60)

    เลบันเต้ (5-3-2) : ออยเอร์ โอลาซาบาล - เอริก กาบาโก้, เซร์คิโอ ปอสตีโก้ (เชม่า น.75), โรเบร์ - ดาบิด ฆาซอน, รูเบน โรชีน่า (ชีค ดูกูเร่ น.67), เอนีส บาร์ดี้, โฆเซ่ กัมปันญ่า, โตนโญ่ - โรเชร์ มาตรี้ (เอ็มมานูเอล บัวเต็ง น.79),โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส

    ผู้ตัดสิน : กีเยร์โม่ กวาดร้า เฟร์นานเดซ