คืนอังคารที่ 23 ตุลาคมนี้แล้วนะครับที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะกลับมาเยือนสถานที่ที่เขาเคยรู้สึกว่าเป็นเสมือน ''บ้าน'' อีกหลังหนึ่งของตัวเอง

โรนัลโด้คงหัวใจเต้นตูมตาม และแฟนผีเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน

เหมือนกับครั้งล่าสุดที่ดาวเตะโปรตุกีส กลับมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ย้อนกลับไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ที่มีความทรงจำอันยากจะลืมเลือนเกิดขึ้นมากมายกับทั้งสองฝ่าย

ทันทีที่รู้ผลจับสลากว่า เรอัล มาดริด ชนโครมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โลกทั้งโลกก็ต่างเฝ้ารอที่จะได้เห็นโรนัลโด้หวนคืนรังเก่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายออกไปหลังช่วยให้ยูไนเต็ดเป็นแชมป์ยุโรปเมื่อปี 2008 ด้วยค่าตัวกระฉูดเป็นสถิติ ณ เพลานั้นถึง 80 ล้านปอนด์

โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ ''ราชันชุดขาว'' ในตอนนั้น ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมว่า ''นี่คือแมตช์ที่คนทั้งโลกเฝ้ารอ น่าเสียดายที่มันไม่ใช่นัดชิงชนะเลิศ''

ยกแรกที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็นการโรมรันที่สุดเข้มข้น และโรนัลโด้ดีดตัวเองขึ้นจากพื้นโลกแล้วโขกตีเสมอให้แชมป์ ลา ลีกา หลัง แดนนี่ เวลเบ็ค ทิ่มส่ง ''ปีศาจแดง'' ขึ้นนำก่อน

''ผมไม่คิดว่าจะมีนักเตะคนใดในโลกที่ทำประตูแบบนี้ได้'' เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือยูไนเต็ด ชื่นชมเด็กหนุ่มที่เขาปลุกปั้นมากับมือ

สามสัปดาห์ถัดมา โรนัลโด้นำทัพ ''ราชันชุดขาว'' มาเยือน ''โรงละครแห่งความฝัน'' โดยมีแฟนผีให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งร้องเพลงสดุดี รวมถึงทำป้ายผ้ามาจากบ้านเพื่อบอกรักอดีตฮีโร่หมายเลข 7

โรนัลโด้ซาบซึ้ง แต่เขาสำเหนียกดีว่า งานของตัวเองคือการพลิกสถานการณ์จากผลเสมอ 1-1 นัดแรกให้ได้

ภารกิจของโรนัลโด้ดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นัก เมื่อ เซร์คิโอ รามอส สกัดพลาดเข้าประตูตัวเองสงเคราะห์ให้ยูไนเต็ดทะยานนำ 1-0

แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นในนาทีที่ 56 เมื่อผู้ตัดสิน ซูเน็ต ชาเคียร์ ชูใบแดงไล่ หลุยส์ นานี่ ปีกเจ้าถิ่น รุ่นน้องร่วมชาติของโรนัลโด้ ออกจากสนามท่ามกลางเสียงก่นด่าของแฟนผี

เรอัล มาดริด ฉวยโอกาสจากการที่มีกำลังพลมากกว่าบดขยี้ยูไนเต็ด ก่อนที่ตัวสำรองอย่าง ลูก้า โมดริช จะตะบันไกลตีเสมอให้อาคันตุกะจากแดนกระทิงเป็น 1-1

ก่อนที่อีกเพียงสามนาทีต่อมา โรนัลโด้จะใช้สัญชาตญาณพุ่งสไลด์ลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านของ กอนซาโล่ อิกวาอิน เข้าประตูไปพลิกสถานการณ์ให้ ''ราชันชุดขาว'' แซงนำ 2-1

โรนัลโด้ดีใจ แต่เขาไม่ดีใจ

เบื้องหน้าของเขาคืออัฒจันทร์ที่อัดแน่นไปด้วยแฟนผี และสิ่งที่โรนัลโด้ทำคือไม่ปิดปากเงียบ เพียงยกมือขึ้นเหนือศีรษะเพื่อให้เกียรติตามแบบฉบับมืออาชีพ ในขณะที่เพื่อนๆ และกองเชียร์ทีมเยือนเฉลิมฉลองกันแทบคลั่ง

เรอัล มาดริด คว้าชัย 2-1 และเข้ารอบไปด้วยสกอร์รวม 3-2 ปล่อยให้ยูไนเต็ดไปลุ้นแชมป์ลีกเพียงรายการเดียว

หลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวจากปากทั่นเปาเติร์ก ปวงแฟนผี ต่างพร้อมใจกันลุกขึ้นปรบมือยินดีกับอดีตลูกรักของพวกเขา ทั้งๆ ที่ในใจยังขุ่นเคืองกับการตัดสินของเชิ้ตดำ ซึ่งต่อมาทำเอา ''เฟอร์กี้'' ฉุนจนล้มโต๊ะแถลงข่าวหลังเกมเลยทีเดียว

''มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ'' โรนัลโด้ ตอบเมื่อถูกเหยี่ยวข่าวถามถึงการต้อนรับของแฟนเก่า ''มันเป็นโมเมนต์ที่กระทบใจผมมาก ทั้งเกมการแข่งขันสองนัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับค่ำคืนนี้''

''ผมไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาอธิบายความรู้สึกผม แฟนๆ ทำให้ผมประหม่า ผมเล่นได้ไม่เหมือนกับที่เคยทำได้''

แม้ เรอัล มาดริด ต้องยุติเส้นทางไว้แค่รอบตัดเชือก หลังพ่ายต่อ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่โรนัลโด้ก็ยังเติมเต็มความฝันในการคว้าแชมป์ยุโรปภายใต้ยูนิฟอร์มสีขาวได้ถึงสี่สมัย

แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนอันหนาวเย็นเมื่อมีนาคม 2013 จะฝังแน่นอยู่ในหัวใจของโรนัลโด้ตลอดไป

รวมไปถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนวันอังคารนี้เช่นกัน
   
เราต่างรู้ว่า การเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีความหมายต่อเขามากเพียงใด หลังจากที่โรนัลโด้ถึงกับหลั่งน้ำตาทันทีที่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยูเวนตุสจั่วหัวกับบาเลนเซีย

โชคดีที่มีการยืนยันโทษแบนแค่นัดเดียว ทำให้โรนัลโด้จะสามารถเยือนรังเก่าได้

แต่ผมไม่แน่ใจว่า จะเป็นโชคดีของแฟนผีหรือเปล่านะครับ

โอเค การได้เห็นโรนัลโด้ปรากฏตัวที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คือโมเมนต์น่าประทับใจ แต่หากมองในแง่ของการลุ้นได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ ไม่น่าจะเป็นงานง่ายของยูไนเต็ดเลย

เฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขากำลังหื่นกระหายที่จะใช้ฟุตบอลสยบข่าวฉาวที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวของตัวเองในตอนนี้

โรนัลโด้เพิ่งจารึกสถิติเป็นนักเตะรายแรกที่กระทุ้งครบ 400 ประตู ในห้าลีกใหญ่ยุโรปสดๆ ร้อนๆ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกความมั่นใจได้เพียบก่อนเยือนอดีตต้นสังกัด

ภารกิจของโรนัลโด้ ณ จุดนี้ คือการเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับสามสโมสรที่ไม่ซ้ำหน้ากัน และนั่นหมายถึงการช่วยให้ ''ม้าลาย'' ผงาดครองบัลลังก์เจ้ายุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปีด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของสโมสรที่ยอมทุ่มบ้าเลือดถึง 112 ล้านยูโร กระชากนักเตะวัย 33 ปีอย่างเขามาร่วมทีม

''ยูเวนตุสลงทุนเพื่อเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาไม่ต้องลงทุนเพื่อสคูเดตโต้ (แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา) เพราะพวกเขาได้มาเจ็ดปีแล้ว'' มูรินโญ่ให้ความเห็นตอนรู้ผลการจับสลาก

โรนัลโด้คือความหวังของยูเวนตุสบนเวทียุโรป ในฐานะแชมป์ยูซีแอลห้าสมัย และดาวซัลโวสูงสุดหกปีซ้อน

ด้วยความเป็นมืออาชีพ เขาจะตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่อย่างไร้ปรานีเหมือนเดิม แม้ต้องเจอกับทีมเก่า เพื่อนเก่า และแฟนเก่าก็ตาม

กระนั้นสิ่งหนึ่งที่โรนัลโด้สามารถมั่นใจได้คือ ความทรงจำดีๆ ที่เขาเคยฝากไว้ให้กับแฟนผี จะไม่มีวันถูกลบเลือนไปจากทุกคนที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

118 ประตูเจ๋งๆ ตลอดช่วงเวลาหกปีตั้งแต่ยังเป็นละอ่อนจัดฟันเมื่อปี 2003, แชมป์พรีเมียร์ลีกสามสมัย, ลีก คัพ สามสมัย, หนึ่งแชมป์ เอฟเอ คัพ, หนึ่งแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชีลด์, หนึ่งแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และหนึ่งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เป็นการนับหนึ่งก่อนจะถึงห้าของเจ้าตัว ตลอดจนการทำเงินก้อนโตเป็นสถิติโลกให้สโมสรตอนย้ายไป เรอัล มาดริด

แม้นว่าเขาอาจทำให้แฟนผีเจ็บปวดในคืนวันอังคารนี้ แต่โรนัลโด้จะไม่โดนโห่ไล่ หรือด่า f**k off แน่นอน

สถานะโรนัลโด้จะยังคงเป็นตำนานยูไนเต็ด อดีตเจ้าของเสื้อหมายเลข 7 เสมอ และเขาจะยังคงได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างอบอุ่นจากแฟนผีเหมือนเดิม