อัลบาโร่ โมราต้า หัวหอกกระทิงดุ หวดสองประตูพา เชลซี เปิดบ้านคว้าชัยเหนือ คริสตัล พาเลซ 3-1 อีกทั้งสามแต้มสำคัญในวันนี้ยังทำแต้มเท่ากับ ลิเวอร์พูล ที่ 27 คะแนน แต่ลูกได้เสียดีกว่าขึ้นรองจ่าฝูง ตามหลัง แมนฯซิตี้ จ่าฝูงสองคะแนน ในศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา

　　สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

　　เชลซี ไม่แพ้ใคร 10 นัดในลีก เกมนี้ได้ เอแด็น อาซาร์ ฟิตกลับมามีชื่อเป็นสำรอง สามแนวรุกวาง วิลเลี่ยน, อัลบาโร่ โมราต้า และ เปโดร โรดริเกซ

　　คริสตัล พาเลซ ไม่ชนะใครในลีกมา 5 เกมติด นัดนี้ยังไม่มี คริสติย็อง เบนเตเก้, สกอตต์ แดนน์ และ โจเอล วอร์ด ที่ยังเจ็บ แนวรุกนำมาโดย วิลฟรีด ซาฮา

   
　　ครึ่งแรกเริ่มมา 19 นาที คริสตัล พาเลซ ทักทายก่อน วิลฟรีด ซาฮา ตบเข้ากลางให้ มักซ์ เมเยอร์ วิ่งมายิงข้ามคานไป

　　เชลซี พยายามเจาะแนวรับทีมเยือนอยู่นาน นาที 32 ออกนำ 1-0 จนได้ เปโดร ตวัดเข้ากลางให้ อัลบาโร่ โมราต้า แต่งหนึ่งจังหวะก่อนซัดจ่อๆไม่เหลือ

   
　　อีกสามนาทีต่อมา เชลซี เกือบได้ลูกสอง เปโดร ยิงจังหวะแรกไม่ดีเข้าทาง วิลเลี่ยน หมุนตัวยิงเข้าไปแต่โดนจับล้ำหน้าไปก่อน

  
　　ขยับมานาที 37 "สิงห์บลูส์" ยังลุยต่อ อัลบาโร่ โมราต้า ไหลมาให้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ อัดด้วยซ้ายเหินข้ามคานไปไกล จบครึ่งแรก เจ้าถิ่นนำอยู่ 1-0

　　ครึ่งหลังผ่านมานาที 53 กลายเป็น คริสตัล พาเลซ ตีเสมอ 1-1 เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ แทงบอลให้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ สปีดไปยิงด้วยขวาตุงตาข่าย

　　เกมผ่านมาหนึ่งชั่วโมง เชลซี ได้โอกาสบ้าง เปโดร ไหลให้ วิลเลี่ยน ลากตัดเข้าในก่อนด้วยขวาตรงตัวของ เวย์น เฮนเนสซี่ย์

　　ขยับมานาที 63 เชลซี เกือบขึ้นนำจากลูกฟรีคิก วิลเลี่ยน เปิดเข้าไปให้ ดาวิด ลุยซ์ ได้โหม่งเต็มๆแต่โดน เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ปัดทิ้งได้หวุดหวิด

　　อีกสองนาทีต่อมา "สิงห์บลูส์" ออกนำ 2-1 จนได้ เอแด็น อาซาร์ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรองเปิดฟรีคิกบอลเลยไปถึง อัลบาโร่ โมราต้า ยิงด้วยซ้ายมุมแคบเข้าไปอย่างเด็ดขาดและเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้

   
　　มาถึงนาที 70 เจ้าถิ่นนำห่าง 3-1 มาร์กอส อลอนโซ่ เปิดเข้ากลางบอลมาถึง เปโดร โรดริเกซ วิ่งมาแปเน้นๆเข้าไป

　　ช่วงทดเจ็บ อัลบาโร่ โมราต้า เกือบทำแฮตทริกได้จากจังหวะหลุดเดี่ยวแต่ชิพไปติดเซฟ เฮนเนสซี่ย์ อย่างน่าเสียดาย

　　หลังจากนั้นทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เชลซี เปิดบ้านชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 ทำให้ "สิงห์บลูส์" แซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งอันดับสองด้วยลูกได้-เสียที่ดีกว่า

　　รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

　　เชลซี : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด ลุยซ์, มาร์กอส อลอนโซ่ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่ (เชส ฟาเบรกาส น.80), รอสส์ บาร์คลี่ย์ (มาเตโอ โควาซิช น.64)- วิลเลี่ยน (เอแด็น อาซาร์ น.64), อัลบาโร่ โมราต้า, เปโดร โรดริเกซ

　　คริสตัล พาเลซ : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ - อารอน วาน-บิสซาก้า, เจมส์ ทอมกิ้นส์, มามาดู ซาโก้, พาทริค ฟาน อานโฮลท์ - ชีกู กูยาเต้, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ น.80)- แอนดรอส ทาวน์เซนด์, วิลฟรีด ซาฮา, มักซ์ เมเยอร์ (จอร์แเดน อายิว น.71)

   
　　ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์