หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ ยำ 4-0 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล หมายมั่นปั้นมือเหลือเกินที่จะบุกไปย้ำแค้น เซอร์เวน่า ซเวซด้า ถึงประเทศเซอร์เบีย วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งนั่นก็เพื่อเพิ่มโอกาสในการกรุยทางเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะอีกสองเกมที่เหลือในรอบแบ่งกลุ่มคืองานหนักที่จะต้องดวลกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ นาโปลี และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจของเกมนี้

- ครั้งแรกในรอบ 45 ปี

นี่คือการบุกไปเยือน เซอร์เวน่า ครั้งแรกของ ลิเวอร์พูล ในการแข่งขันถ้วยยุโรปนับตั้งแต่ปี 1973 ซึ่งครั้งนั้น "หงส์แดง" ออกไปแพ้ 1-2 ในการแข่งขันเลกแรก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโรเปี้ยน คัพ (หรือ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปัจจุบัน) และพวกเขาก็ตกรอบนี้ด้วยสกอร์รวมสองนัด 2-4

- ฟอร์มในยุโรปต่างกันมาก
เซอร์เวน่า ไม่ชนะใครเลยใน 5 เกมหลังสุดการแข่งขันถ้วยยุโรป (เสมอ 3 แพ้ 2) โดยเฉพาะสองเกมหลังสุดแพ้รวด แถมโดนเจาะประตูไปถึง 10 ตุง (ออกไปแพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-6 และ ลิเวอร์พูล 0-4) ในขณะที่ "หงส์แดง" มีผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะ 11 เกมหลังสุดนับเฉพาะรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาแพ้แค่ครั้งเดียว (ชนะ 5 เสมอ 5) และกระซวกคู่แข่งไปถึง 33 ประตู หรือเฉลี่ยนัดละ 3 ประตูเลยทีเดียว
   
อย่างไรก็ตาม เซอร์เวน่า ถือว่าแกร่งในบ้านไม่น้อย เพราะแพ้แค่หนเดียว จาก 14 เกมหลังสุดในการแข่งขันถ้วยยุโรป (ชนะ 7 เสมอ 6) และเสียแค่ 5 ประตูเท่านั้น แถมเก็บคลีนชีตได้ถึง 9 เกม

- มาเน่ ชอบยิงถ้วยยูซีแอล
ถึงแม้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นตัวความหวังเบอร์หนึ่งของ "หงส์แดง" แต่ ซาดิโอ มาเน่ คือผู้เล่นที่มีสถิติยิงโหดสุดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะ 12 เกมหลังสุด ยิงได้ถึง 11 ประตู

- เรื่องการเมืองเป็นเหตุ
เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ในแมตช์นี้คงลดความน่ากลัวลงไปไม่น้อย เพราะ เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกเลือดสวิส ที่กำลังเล่นได้เข้าฟอร์ม ถูกตัดชื่อออกจากทีม ไม่ใช่เพราะเจ้าตัวมีปัญหาบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มองว่า ชากิรี่ คงมีสมาธิไม่เต็มร้อยกับเกม หลังจากที่ ดาวเตะร่างตันวัย 27 ปี ผู้มีเชื้อสายแอลเบเนีย เคยสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนชาวเซิร์บ ด้วยการทำท่านกอินทรีสองหัวอันหมายถึงธงชาติแอลเบเนีย (แอลเบเนีย กับ เซอร์เบีย เคยมีปัญหาขัดแย้งกันในอดีต) หลังทำประตูให้ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ได้ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 นัดที่ดวลกับ เซอร์เบีย เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ชากิรี่ คือเป้าโจมตีเบอร์หนึ่งของแฟนบอล เซอร์เวน่า 
   
"ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าอะไรหรอก มันเป็นเรื่องธรรมดาของโลกใบนี้ เพราะเรื่องการเมืองมีอิทธิพลสูงมากต่อชีวิตคนเราเสมอ ส่วนเราอยู่ที่นี่เพื่อเล่นฟุตบอล เราไม่ต้องการใส่ใจกับเรื่องอื่นนอกจากฟุตบอล นั่นแหละที่ทำให้เราตัดสินใจแบบนี้" คล็อปป์ กล่าว

- เซอร์เวน่า ได้สองตัวทีเด็ดคืนทัพ
แม้ชื่อชั้นเป็นรองยอดทีมจากอังกฤษ แต่เกมนี้ เซอร์เวน่า จะได้สองแข้งหลักในแนวรุกอย่าง มาร์โค มาริน ปีกเลือดเบียร์อดีตแข้ง เชลซี และ เอล ฟาร์ดู เบน นาบูฮาน หัวหอกตัวเก่ง กลับสู่ทีม หลังจากที่ฟื้นตัวจากปัญหาบาดเจ็บ โดยรายแรกคือนักเตะเพียงคนเดียวของทีมที่ทำประตูได้ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ (เกมที่แพ้ เปแอสเช 1-6) ส่วนรายหลังฤดูกาลนี้กระทุ้งไปแล้ว 6 ประตูในรอบคัดเลือก และกดอีก 10 ตุงในลีก