ขวัญใจมหาชนทีมชาติอังกฤษ เตรียมเปิดสนาม เวมบลีย์ รับการมาเยือนของ สหรัฐอเมริกา ในแมตช์กระชับมิตรในค่ำคืนนี้ โดยแมตช์นี้มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเพราะจะเป็นแมตช์อำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการของกองหน้าตำนานทัพสิงโตคำรามรายหนึ่ง น่าสนใจและน่าติดตามเลยทีเดียว แต่ก่อนอื่นเราไปดูประเด็นสำคัญก่อนเกมกัน

1.บทสุดท้ายของรูนีย์

แม้ว่า เวย์น รูนีย์ จะประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปเมื่อเดือน สิงหาคม ปีที่แล้วแต่ทว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกเขาติดทัพ 28 คนในเกมกระชับมิตรกับ สหรัฐอเมริกา คืนนี้ โดย หัวหอกสิงโตำคราม จะลงสนามรับใช้ทีมชาติอังกฤษเป็นนัดสุดท้ายอย่างเป็นทางการ (นัดที่ 120 ในทีมชาติ) ซึ่ง แกเร็ธ เซาธ์เกต คอนเฟิร์มว่า รูนีย์ จะลงเล่นในครึ่งหลัง และจะรับปลอกแขนกัปตันทีมต่อจาก ฟาเบียน เดล์ฟ และจะสวมเสื้อเบอร์เก่งของเขานั่นคือ หมายเลข  10

2.ซานโช่ มาแล้วจ้า

ปีกดาวรุ่งฟอร์มร้อนแรงของ ดอร์ทมุนด์ ยังคงเป็นที่ถูกอกถูกใจของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เช่นเคย ตอนนี้เขาทำ 4 ประตูและอีก 6 แอสซิสต์ ในบุนเดสลีกา และมีส่วนทำให้ ดอร์มุนด์ ครองอันดับที่ 1 อยู่ ณ ตอนนี้ ไม่แปลกที่เขาจะยังคงติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง มีรายงานว่าเกมกระชับมิตรในคืนนี้เขาจะได้รับโอกาสเป็นตัวจริงให้กับทัพสิงโตคำรามเป็นครั้งแรกอีกด้วย มารอดูกันว่าเขาทำผลงานได้ดีชนาดไหน และนอกจาก ซานโช่ ที่น่าจับตามองแล้วยังมีนักเตะหน้าใหม่ที่เข้ามาติดทีมชาติในครั้งนี้ด้วยนั่นคืออย่าง คัลลั่ม วิลสัน หัวหอก บอร์นมัธที่ฟอร์มร้อนแรงยิงในลีกไป 6 ประตูแล้ว

3.พูลิซิช รีเทิร์น

มาดูทางฝั่ง สหรัฐอเมริกา กันบ้าง นักเตะที่น่าจับตามองที่สุดในชุดนี้คือ คริสเตียน พูลิซิช มิดฟิลด์วัย 20 ปี ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งหลังจากห่างหายจากทีมชาติไปนานถึง 9 นัดหรือเกือบหนึ่งปีเลยทีเดียวเนื่องจากเขามักจะมีอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง โดยฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้เสือเหลืองไปทั้งหมด 12 นัด ทำ 3 ประตูและ 4 แอสซิสต์

4.จำกันได้หรือไม่ "กรีนซองแตก"

อังกฤษและสหรัฐอเมริกา เคยเจอกันมาทั้งหมด 10 ครั้ง แน่นอนว่าเป็นอังกฤษที่มีสถิติที่เหนือกว่า โดยพวกเขาชนะไป 7 นัด และแพ้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น และครั้งนี้ สหรัฐอเมริกา จะมาเยือนสนาม เวมบลีย์ เป็นครั้งที่ 3 โดยสองครั้งก่อนหน้านั้นพวกเขาพ่ายทั้งสองแมตช์

ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองทีมเจอกันคือ ฟุตบอลโลก ปี 2010 แมตช์นั้นถ้าใครยังจำได้ มีเหตุการณ์สำคัญที่ โรเบิร์ต กรีน นายทวารของทีมชาติอังกฤษรับลูกยิงของ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ หลุดมือเข้าประตูไปทำให้ อังกฤษ ต้องมาไล่ตามตีเสมอแบบสุดเหนื่อย