ถ้าถามว่าตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา 2 นักเตะคนไหนที่เป็นคู่แข่งขับเคี่ยวกันดุเดือดที่สุดแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าคู่ระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส คือคู่ที่โผล่มาเป็นลำดับแรกในหัวของหลายคน หลังจากที่ทั้งคู่ต่างก็มีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมพอๆ กัน และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วย

อย่างไรก็ตาม เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ต่างก็มีอายุ 31 ปี กับ 33 ปี ตามลำดับแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขาเข้าสู่ช่วงบั้นปลายของอาชีพการค้าแข้ง และมันใกล้จะหมดยุคของทั้งคู่เต็มที อย่างรางวัล บัลลง ดอร์ 2018 ที่จะประกาศผู้ชนะกันในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ มันยังมีโอกาสสูงที่ทั้งคู่จะชวดรางวัลเลย หลังจากที่พวกเขาแบ่งกันไปคนละ 5 สมัย ในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้

ถึงกระนั้น มันก็ไม่ใช่ว่าพอหมดยุคของทั้งคู่ไปแล้วมันจะไม่มี 2 นักเตะที่เป็นคู่แข่งกันในโลกลูกหนังอีกต่อไป มันยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีคู่แข่งอันดุเดือดในแวดวงฟุตบอลอยู่ และวันนี้เราจะมานำเสนอ 3 คู่ที่มีโอกาสเข้าข่ายนั้นกัน

    - เอแด็น อาซาร์ (27 ปี) vs เนย์มาร์ (26 ปี)
นี่เป็นคู่ที่ถ้าว่ากันตามจริงแล้วสมควรได้รับการยกย่องให้เป็น 2 นักเตะที่เก่งที่สุดในโลกอยู่แล้ว ถ้าเกิดไม่มีกำแพงที่ชื่อ เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ขวางทางอยู่ พวกเขาต่างก็มีลีลาการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเป็นกำลังหลักของทีม ไม่ว่าจะทั้งในระดับสโมสรหรือทีมชาติ

ถ้าว่ากันโดยรวมแล้วช่วงที่ผ่านมา อาซาร์ ได้รับเครดิตมากกว่า เนย์มาร์ ในระดับหนึ่ง เพราะต้องยอมรับกันตามตรงว่า มาตรฐานของ พรีเมียร์ลีก มันสูงกว่า ลีก เอิง เยอะพอตัว แต่รายของ เนย์มาร์ ก็สามารถนำความสำเร็จมาแสดงให้เห็นว่าเขาเหนือกว่าอีกฝ่ายได้ เพราะเจ้าตัวเคยได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองสมัยอยู่กับ บาร์เซโลน่า ขณะที่ อาซาร์ ยังไม่ได้สัมผัสกับถ้วย "บิ๊กเอียร์" เลย นอกจากนี้ ดาวเตะชาวบราซิเลียนยังได้แชมป์กับการเล่นในทวีปยุโรปมากกว่า อาซาร์ ด้วย แม้ว่าส่วนหนึ่งมันจะมาจากสมัยที่เขาเล่นให้ บาร์เซโลน่า ร่วมกับ เมสซี่ ก็ตาม

มันคงเป็นไปได้ยากมากที่ อาซาร์ หรือ เนย์มาร์ จะได้รางวัล บัลลง ดอร์ ครั้งที่จะถึงนี้ แต่ไม่กี่ปีหลังจากนี้พวกเขาก็อาจจะเป็นคู่ชิงชัยรางวัลนี้กันแค่สองคนก็ได้

    - แฮร์รี่ เคน (25 ปี) vs เมาโร อีการ์ดี้ (25 ปี)
คนเป็นกองหน้าย่อมได้รับความสนใจมากกว่านักเตะในตำแหน่งอื่นๆ มากเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะแฟนบอลชอบเห็นการทำประตู และนักเตะในตำแหน่งนี้คือคนที่มีโอกาสทำประตูมากที่สุด ซึ่งในยุคนี้นั้น ดาวยิงที่โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงที่สุดก็ต้องมีชื่อของ เคน กับ อีการ์ดี้ รวมอยู่ด้วย

เคน ทำประตูได้เป็นว่าเล่นตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต้นสังกัดของเขา และทีมชาติอังกฤษ จนทำให้เขาถูกยกให้เป็นความหวังใหม่ของแฟนบอลชาวอังกฤษไปแล้ว ขณะที่ อีการ์ดี้ ก็ยิงได้เป็นกอบเป็นกำกับ อินเตอร์ มิลาน อย่างต่อเนื่องเหมือนกัน และล่าสุดก็เพิ่งทำประตูแรกกับทีมชาติอาร์เจนตินาได้ หลังก่อนหน้านี้ไม่ค่อยถูกเรียกติดทัพ "ฟ้า-ขาว" เท่าไหร่

ถ้าหากทั้งคู่ยังสามารถรักษามาตรฐานของพวกเขาต่อไปได้แล้วนั้น มันก็แน่นอนว่าจำนวนประตูของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผลงานที่ยอดเยี่ยมแบบนั้นก็จะทำให้พวกเขากลายเป็นคู่กองหน้าที่ชิงความเป็นอันดับ 1 ของโลกไปโดยปริยาย

    - เควิน เดอ บรอยน์ (27 ปี) vs ปอล ป็อกบา (25 ปี)
โลกฟุตบอลทุกวันนี้กองกลางมีความสำคัญมากขึ้น เพราะพวกเขาเป็นทั้งคนคุมเกม และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูได้ ซึ่งทั้ง เดอ บรอยน์ และ ป็อกบา ก็เป็น 2 มิดฟิลด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องนี้ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงเฉพาะในตอนนี้แล้วล่ะก็ เดอ บรอยน์ มีภาษีดีกว่า ป็อกบา หลายขุม อย่างฤดูกาลก่อนเขาก็เพิ่งทำไปถึง 16 แอสซิสต์ จนช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์ลีกไปครอง อย่างไรก็ตาม ที่จริง ป็อกบา มีศักยภาพที่ดีอยู่แล้ว เขาแค่ต้องเล่นให้มันเหมาะสมเท่านั้น ฟอร์มอันโดดเด่นของเขาในสมัยที่อยู่กับ ยูเวนตุส ถือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

ในอดีตมันเคยมีกองกลางฝีเท้าดีที่ได้รางวัล บัลลง ดอร์ หลายคน ซึ่งถ้าเกิด ป็อกบา ยกระดับฟอร์มของตัวเองขึ้นมาได้แล้วล่ะก็ ทั้งคู่ก็จะถือเป็น 2 ยอดมิดฟิลด์ที่ขับเคี่ยวกันสนุกแน่นอน

    - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (26 ปี) vs ราฮีม สเตอร์ลิง (23 ปี)
ปีกชาวอียิปต์ของ ลิเวอร์พูล และแข้งตัวจี๊ดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างก็กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มของพวกเขา โดยรายของ ซาลาห์ ถึงแม้จะฟอร์มตกลงไปบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ดิ่งลงเหวแบบร้ายแรงอะไร อย่างฤดูกาลนี้เขาก็ทำประตูในลีกไป 6 ลูก เท่ากับ สเตอร์ลิง เป๊ะ

นอกจากจะมีความสามารถในการทำประตูแล้วนั้น ทั้ง ซาลาห์ และ สเตอร์ลิง ก็ยังสามารถฉีกกระชากคู่แข่งจนทำให้อีกฝ่ายทำได้แค่ดมฝุ่นเท่านั้นด้วย ซึ่งการทำแบบนั้นได้ก็ทำให้พวกเขาเป็นขวัญใจของแฟนบอลหลายต่อหลายคน

แม้ว่าอายุจะห่างกันราว 3 ปี แต่มันก็ไม่ได้ถือว่าห่างกันมากนัก และทำให้มีความเป็นไปได้ที่โลกลูกหนังในอีกหลายปีต่อจากนี้จะเป็นการชิงชัยกันของทั้งคู่

    - คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (19 ปี) vs เจดอน ซานโช่ (18 ปี)
ชื่อของ เอ็มบั๊ปเป้ อาจจะไม่ถือว่าน่าแปลกใจสำหรับแฟนบอลทั่วโลก เพราะดาวเตะชาวฝรั่งเศสโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมาพักหนึ่งแล้ว อย่างในรางวัล บัลลง ดอร์ เมื่อปี 2017 เขายังได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 7 เลย ขณะที่ในปีนี้เขาก็มีโอกาสสูงที่จะติด 3 อันดับแรกของการชิงรางวัลอันทรงเกียรติเช่นกัน

ในทางกลับกัน ซานโช่ คงเป็นชื่อที่หลายคนแสดงความกังขาว่าเหมาะที่จะเอามานับในข่ายนี้หรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าแข้งชาวอังกฤษทำผลงานได้น่าประทับใจมากๆ ในฤดูกาลนี้ โดยเขาทำไปแล้วถึง 5 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 17 นัดในทุกรายการให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งถ้าเขายังสามารถรักษามาตรฐานนี้ได้แล้วล่ะก็ มันก็มีโอกาสที่เขาจะขึ้นไปทาบ เอ็มบั๊ปเป้ ได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ ก่อนที่ เอ็มบั๊ปเป้ จะโด่งดังไปทั่วโลกเหมือนอย่างในตอนนี้นั้น เขาก็มาเริ่มสร้างชื่อได้ในตอนที่ยังมีอายุประมาณ 17-18 ปี พอๆ กับ ซานโช่ เหมือนกัน ทำให้มีโอกาสสูงที่พวกเขาทั้งสองคนจะเป็นคู่แข่งอันดุเดือดของโลกลูกหนังในอนาคต