นายใหญ่บุรีรัมย์เจ้าของแชมป์มากสุดของประเทศไทย ประกาศเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาล 2019
เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาพูดถึงผลงานในปีที่ผ่านมา ในงาน BURIRAM TOGETHER WEWIN ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (13 ธันวาคม) ณ สโมสรราชพฤกษ์ พร้อมกับเผยเป้าหมายที่ทีมจะต้องทำให้ประสบความสำเร็จ ในการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาล 2019

"ปราสาทสายฟ้า" ในปี 2018 สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาครองได้เป็นสมัยที่ 6 พร้อมสถิติแต้มเยอะสุด 87 แต้ม ทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้ 86 คะแนนเมื่อปี 2017 นอกจากนี้ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา สร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ได้เล่นในลีกสูงสุด (เกมชนะนครราสีมา มาสด้า เอฟซี 2-1 วันที่ 25 เม.ย. อายุ 15 ปี 8 เดือน 22 วัน) และสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดยิงประตูบนไทยลีก (เกมชนะแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล 5-0 วันที่ 26 พ.ค. ด้วยอายุ 15 ปี 9 เดือน 25 วัน) ส่วนผลงานในระดับเอเชียสามารถเข้าไปถึงรอบน็อคเอาท์ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2018

“ปีนี้อาจจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร รักษาได้แค่แชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 ไม่สามารถเอาอีกสองแชมป์กลับมาได้ นี่คือการบ้านชิ้นใหญ่ในปี 2019” เนวิน เริ่มกล่าวกับผู้สนับสนุนและผู้สื่อข่าว

“การเป็นแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 และจบด้วย 87 แต้ม ผมเชื่อว่าไม่มีทีมไหนที่สามารถลบสถิตินี้ไปได้ และบอกตรงนี้เลยนะครับเสื้อฤดูกาล 2019 มีดาว 6 ดวง จบฤดูกาลนี้จะมีดวงที่ 7 เพิ่มขึ้นมา”

“ผมพูดว่าจะเป็นแชมป์สมัยที่ 7 ในปี 2019 คงจะเป็นที่น่าหมั่นไส้พอสมควร แต่ถ้าไม่มีความหมั่นไส้ ก็คงไม่เกิดความสนุก ความมันในฟุตบอลอาชีพ แต่ก็ทำได้เพียงแค่หมั่นไส้เท่านั้น เพราะแชมป์นี้ บุรีรัมย์ จอง”

“มีเรื่องราวมากมายกับฟุตบอล และมีคนตั้งคำถามมากมาย เป้าหมายเราคือแชมป์ไทยลีกอยู่แล้ว แต่สำหรับ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ต้องยอมรับจริงๆว่าเราอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ แข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็น ชุนบุค ฮุนได, อุราวะ เรดส์ และ ปักกิ่ง กั๋วอัน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่บุรีรัมย์ก็ไม่มีคำว่าหมูเช่นกัน จะทำให้ดีที่สุดและผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปให้ได้ เพราะนี่คือตัวแทนประเทศไทย ศักดิ์ศรีของฟุตบอลไทย”

“ส่วนสถิติต่างๆ ก็คงต้องสร้างเพื่อให้เกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการฟุตบอล ในปีหน้า นอกจากจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มเอซีแอล และต้องคว้าแชมป์ไทยลีกแล้วนั้น เราจะต้องเป็นทีมฟุตบอลทีมแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และจดทะเบียนเป็นบริษัทเอกชน และเทรดภายในปี 2019 ให้ได้ และเราจะเป็นทีมฟุตบอลมหาชน” นายใหญ่บุรีรัมย์ พูดปิดท้าย